xs
xsm
sm
md
lg

ออมสินลุกฮือไล่บอร์ด ดิ้นออกบอนด์จ่ายจำนำ ไล่เสื้อแดงฝากเงินสร้างภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - พนักงานออมสินลุกฮือไล่บอร์ดยกชุด ฐานทำแบงก์เสียหาย แย้มอาจฟ้องทั้งแพ่งและอาญา ส่วนการถอนเงินเริ่มเลือดหยุด เหลือแค่ 1.37 หมื่นล้าน คลังดิ้นออกบอนด์ ธ.ก.ส. อายุสั้น 6 เดือนถึง 1 ปี วงเงินแสนล้าน หาเงินจ่ายชาวนา ด้านเสื้อแดงโคราชโวหอบเงิน 30 ล้านฝาก ธ.ก.ส. เจอไล่ ไม่รับฝากเงินพวกสร้างภาพอุ้มรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (20 ก.พ.) ที่ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ พนักงานธนาคารออมสินได้นัดแต่งเสื้อสีชมพู ซึ่งเป็นสีประจำธนาคารได้มารวมกันรวมตัวกันที่ห้องเพชรรัตน์ อาคาร 100 ปี เพื่อรับฟังความชี้แจงของผู้บริหารเกี่ยวกับจุดยืนของธนาคารในการไม่ปล่อยกู้ให้กับโครงการรับจำนำข้าว แต่ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อพนักงานยังแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของคณะกรรมการบางคนที่ยังแสดงท่าทีในการให้ความช่วยเหลือกับรัฐบาล

นายลิขิต กลิ่นถนอม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน (สร.อส.) เปิดเผยว่า สหภาพฯ ได้ชี้แจงกับพนักงานและฝ่ายบริหาร โดยยืนยันว่า การปล่อยกู้ระหว่างธนาคารให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 5 พันล้านบาท ได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อธนาคาร จึงขอขับไล่บอร์ดออมสินทั้งคณะ โดยยืนยันต้องไม่ปล่อยให้สินเชื่อไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในทุกรูปแบบ แม้ว่านายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารจะยื่นหนังสือลาออกไปแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ ยังขอให้ฝ่ายบริหารส่งเอกสารหลักฐานการโอนเงินจาก ธ.ก.ส.กลับมาให้ธนาคารออมสินด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและพนักงาน โดยอาจต้องดำเนินคดี ทางแพ่งและอาญาให้ถึงที่สุดกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้ธนาคารเกิดความเสียหาย จากการถอนเงินในช่วง 3 วันที่ผ่านมาจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการชี้แจงของผู้บิหารแล้ว พนักงานบางส่วนยังคงชุมนุมกันต่อไป เพราะไม่พอใจการทำงานของสหภาพฯ ที่ทำหน้าที่สหภาพฯ ไม่ถึงที่สุดเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธนาคาร

ชาวออมสินออกแถลงการณ์ไล่บอร์ด

ขณะเดียวกัน ฝ่ายสื่อสารองค์กรธนาคารออมสินได้ออกแถลงการณ์ของคณะผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างธนาคารออมสิน ฉบับที่ 1 ว่า สิ่งที่นายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ กรรมการธนาคารออมสิน ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนบางแห่ง เรื่องการให้กู้เงินกับธ.ก.ส. เป็นความเห็นส่วนตัวของนายวิศิษฐ์ ธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเงินที่ก่อตั้งมากว่า 100 ปี โดยล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ด้วยพระราชปณิธานส่งเสริมการออม และช่วยเหลือประชาชนในทุกสาขาอาชีพ การดำเนินงานของธนาคารออมสินอยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และคำนึงถึงความมั่นคง ยั่งยืนขององค์กร

"ธนาคารออมสินจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างเด็ดขาด และพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างเท่าเทียมกัน และขับไล่นายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ ให้ออกจากการเป็นกรรมการธนาคารออมสิน เนื่องจากให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าออมสินยัง เดินหน้าหาทางปล่อยกู้ให้รัฐบาล เพื่อจ่ายเงินจำนำข้าว"

แชร์คลิปฉะผอ.ออมสินให้รับผิดชอบ

วันเดียวกันนี้ ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิป “พนง ออมสินฉะ ผอ.” จากแนวหน้าออนไลน์ที่อัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ยูทิวบ์ ในวีดีโอคลิป พนักงานธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นสุภาพสตรีรายหนึ่งตะโกนว่า "หาหลักฐานมายืนยันสิ ที่ ธ.ก.ส. มาขอกู้ กู้เอาไปทำไม แสนสามหมื่นล้าน ทำให้ธนาคารเสียชื่อเสียงอีกเข้าไปใหญ่ เลือดไหลแทนที่จะอุดเลือด ทำให้เลือดมันไหลเข้าไปหนัก ทำอย่างนี้มันคุ้มเหรอ" และยังกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ตนไม่กลัวที่จะโดนไล่ออก ก่อนที่เสียงผู้ชุมนุมซึ่งเป็นชายอีกคนระบุว่า ไม่เดือดร้อน แล้วไม่ต้องเอาโบนัสมาขู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดต่อว่า "ใช่ หนูยอมเสียโบนัสหนูออกไป ให้เขาลาออกแล้วรับผิดชอบด้วย ลาออกอย่างเดียวไม่พอ"

อีกด้านหนึ่ง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน ได้ทำหนังสือถึงนายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส เพื่อขอให้จัดส่งเอกสารหลักฐานการขอให้มีการโอนเงินกู้อินเตอร์แบงก์ 5 พันล้านบาท หลังพบเอกสาร “สารผู้จัดการ” ของ ธ.ก.ส. ระบุว่า การใช้เงินอินเตอร์แบงก์จากธนาคารออมสินนั้น ธนาคารไม่ได้นำมาเสริมสภาพคล่องปกติของธนาคารตามที่เป็นข่าว แต่เป็นการใช้เงินทุนที่กระทรวงการคลังจัดหามาให้ธนาคารเพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น

ทั้งนี้ ข้อความดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียแก่ธนาคาร เพราะ ธ.ก.ส. ไม่ได้เป็นผู้กู้อินเตอร์แบงก์จากธนาคารโดยตรงแบบปกติ จึงขอให้ส่งหลักฐานทั้งหมด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ประชาชน และพนักงานของธนาคารออมสิน ภายใน 3 วัน มิฉะนั้น จะมีมาตรการกดดันธนาคารเพิ่มขึ้น และอาจจะต้องดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาจนถึงที่สุด กับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้ธนาคารเกิดความเสียหายในวิกฤติการถอนเงินจากลูกค้าเป็นจำนวนมากในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานยอดถอนเงินธนาคารออมสินเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ยอดรวมอยู่ที่ 13,700 ล้านบาท ส่วนยอดฝากเงินอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท หรือถอนสุทธิที่ 6,700 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากรวมเงินกู้อินเตอร์แบงก์ที่ ธ.ก.ส.โอนคืนมาเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) จำนวน 5,000 ล้าน ยอดเงินไหลออกสุทธิจะอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท เท่านั้น

บอร์ดธ.ก.ส.เร่งหาทางช่วยชาวนา

ด้านบรรยากาศจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เวลาประมาณ 13.00 น. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้นำมวลชนบางส่วนเดินทางมายังธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ เพื่อหารือกับผู้บริหารธ.ก.ส.ถึงแนวทางการเข้าร่วมถือใบประทวนกับเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรได้รับเงินบางส่วนก่อน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รักษาการรมช.คลัง ในฐานะประธานธ.ก.ส.เดินทางลงจากอาคารพร้อมๆ กับนายลักษณ์ จวนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.

นายทนุศักดิ์กล่าวว่า มาหารือนอกรอบถึงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว และมอบหมายให้กลุ่มเล็กๆ ไปหารือในรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำเสนอแนวทางการช่วยเหลือต่างๆ ในการประชุมบอร์ด ธ.ก.ส. วันที่ 24 ก.พ.2557 ก่อนที่จะได้รับเงินกู้จากการจัดหาจากกระทรวงการคลังในวันที่ 4 มี.ค.2557 ตามแผนงานที่แจ้งไว้ ส่วนแนวทางการตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรของกระทรวงพาณิชย์นั้น ถือเป็นเรื่องใหม่ ยังไม่ได้หารือในเรื่องดังกล่าว

ธ.ก.ส.พร้อมยืดหนี้ให้ครึ่งปี

นายลักษณ์กล่าวว่า ธ.ก.ส. พยายามที่จะดูแลเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่สาขาเร่งลงไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรที่จะครบกำหนดการชำระหนี้เงินกู้ในเดือนมี.ค. ประมาณ 8 หมื่นล้านบาทว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะได้ยืดอายุการชำระหนี้ออกไปแล้ว 6 เดือน และยังเตรียมวงเงินสำหรับรอบการผลิตใหม่ด้วย เพื่อให้เกษตรกรที่เดือดร้อนสามารถมาใช้วงเงินดังกล่าวได้

เล็งออกบอนด์แสนล้านช่วยชาวนา

สำหรับแนวทางการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธ.ก.ส.นายลักษณ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาธ.ก.ส.เองก็มีการออกพันธบัตรในการระดมทุนได้อยู่แล้ว รวมถึงพันธบัตรที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจะจัดหาให้ตามแผนงานในวันที่ 4 มี.ค.นั้น ขึ้นกับวิธีการจัดหาของกระทรวงการคลังเอง ส่วนเงินกู้จากธนาคารออมสิน 5 พันล้านบาท ธ.ก.ส.ได้คืนให้กับธนาคารออมสินเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาอัตราดอกเบี้ยร่วมกัน เพื่อคิดในอัตราที่เหมาะสมสำหรับธนาคารด้วย

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ปรับแผนการกู้เงินในส่วน 1.3 แสนล้านบาท ที่ไม่สามารถเปิดประมูลได้จากสถาบันการเงินมาเป็นการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธ.ก.ส. โดยรัฐบาลค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อให้สามารถนำเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวที่ค้างอยู่ โดยจะเป็นพันธบัตรที่อายุสั้นที่สุด 6 เดือนหรือ 1 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับเงินที่จะได้จากการระบาย โดยคาดว่า อัตราดอกเบี้ยประมาณ2.75-3%

ออมสินตรังครวญลูกค้าทิ้งแบงก์

นางอาภาพร รัตนคช ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เขตตรัง กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ธนาคารทั้ง 15 สาขาในพื้นที่ 10 อำเภอ มีลูกค้ามาใช้บริการอย่างเนืองแน่น ทั้งเบิกถอนเงินฝาก และปิดบัญชีธนาคาร หลังวิตกข่าวธนาคารปล่อยกู้เงิน 5,000 ล้านบาท ให้แก่ ธ.ก.ส. โดยล่าสุดหลังจากที่ทางธนาคารแต่ละสาขาได้ทำความเข้าใจกับลูกค้าในระบบเงินฝากแล้วกระแสของการมาขอถอนเงินก็เริ่มค่อยๆ ลดลงไปมาก โดยลดจากวันละ 200-300 ล้านบาท เหลือหลัก 10 ล้านบาท และน่าจะเป็นปกติในสัปดาห์หน้า ซึ่งหลังจากนี้ ธนาคารจะเร่งออกไปทำความเข้าใจกับลูกค้าเดิมที่หายไปประมาณ 30-40% ให้กับมา

ธ.ก.ส.โคราชไล่เสื้อแดงสร้างภาพ

ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาได้มีกลุ่ม นปช.นครราชสีมา นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมช.คมนาคม พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย และกลุ่มนักธุรกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมาเกือบ 100 คนได้มาชุมนุมให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะนำเงินไปฝาก ธ.ก.ส.เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการช่วยเหลือชาวนาที่ไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวจากรัฐบาล

ต่อมาทั้งหมดได้เดินทางไปที่สำนักงาน ธ.ก.ส.นครราชสีมา โดยระหว่างเข้าไปในสำนักงานได้มีเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.สุภาพสตรีส่วนหนึ่งได้ตะโกนลงมาจากชั้น 2 ของสำนีกงานว่า "เงินของเสื้อแดงไม่รับ ไม่เอา ออกไป" ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจและมีการตะโกนตอบโต้กันอย่างดุเดือด

จากนั้นนายประยูร ครูเกษตร อายุ 64 ปี สมาชิก นปช. อ.เมืองนครราชสีมา ได้เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อไปต่อว่าพนักงานหญิงคนดังกล่าว แต่มีเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ฝ่ายสินเชื่อผู้ชายมาห้ามไว้โดยผลักอกนายประยูร และยืนขวางเพื่อไม่ให้นายประยูร ขึ้นไปยังชั้น 2 จนทำให้เกิดการโต้เถียงชี้หน้าด่ากันขึ้นนานประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะมีคนมาช่วยแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน

ส่วนเงินที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าเป็นนักธุรกิจนำมาฝากเข้าบัญชี ธ.ก.ส.สาขานครราชสีมาครั้งนี้รวมเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท เช่น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง, นายจรูญพงศ์ พันธุ์ศรีนคร, นายซิก พรอำนวย อายุ 75 ปี อาชีพค้าขายเบ็ดเตล็ด ฝาก 650,000 บาท, นายอู่ทร ประภาวิชน อายุ 71 ปี อาชีพค้าขายสินค้าการเกษตร ฝาก 50,000 บาท เป็นต้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น