xs
xsm
sm
md
lg

เสื้อแดงเจอดีโดน จนท.หญิง ธ.ก.ส.โคราชใจเด็ดตะโกนไล่คาแบงก์ - ออมสินตรังครวญลูกค้าเก่าแก่บัญชีเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มคนเสื้อแดงโคราชหอบเงินกว่า 30 ล้านบาทไปฝาก ธ.ก.ส.หวังหนุนรัฐบาลแก้ปัญหาจำนำข้าว แต่โดน จนท.หญิงของธนาคารใจกล้าตะโกนด่าลงมาจากชั้น 2 ไล่ไม่รับเงินคนเสื้อแดง
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มคนเสื้อแดงโคราชเจอของจริง หอบเงินกว่า 30 ล้านบาทไปฝาก ธ.ก.ส.หวังหนุนรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" แก้ปัญหาจำนำข้าว แต่โดน จนท.หญิงของธนาคารใจกล้าตะโกนด่าลงมาจากชั้น 2 ไล่ไม่รับเงินคนเสื้อแดง ขณะที่ชาวขอนแก่นแห่ฝากเงิน ธ.ก.ส.หวังเพิ่มสภาพคล่องช่วยชาวนาพร้อมเรียกร้องคนไทยทุกสีฝากเงินตามกำลังทรัพย์ ด้าน ผอ.ออมสินตรัง ครวญลูกค้าเดิมที่อยู่กันอย่างยาวนาน แห่ถอนเงินเพียบ เช่นเดียวกับชาวสตูล ที่ไม่มั่นใจธนาคารออมสินทยอยถอนเงินต่อเนื่อง

วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาลำปาง ถนนฉัตรไชย ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง ค่อนข้างเงียบเหงา มีประชาชน และเกษตรกรมาใช้บริการอย่างบางตา มีการฝากเงิน ถอนเงินตามปกติ แม้ว่าจะมีข่าวเชิญชวนให้เกษตรกรถอนเงินจากธนาคารอื่นแล้วนำมาฝากไว้ที่ ธ.ก.ส.เพื่อนำมาใช้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรก็ตาม แต่ก็ไม่มีเกษตรกรชาวนาลำปางนำเงินมาฝากเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

นายประพันธ์ บุญเดช ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวการกู้เงินในตลาดเงินเพื่อนำมาให้ ธ.ก.ส.ใช้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในขณะนี้นั้น ธ.ก.ส.ลำปางขอชี้แจงลูกค้าผู้ฝากเงินและเกษตรกรว่า เงินที่จ่ายค่าจำนำข้าวยังเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมคือ เป็นเงินจากงบประมาณ เงินที่กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหามาให้โดยการค้ำประกัน และเป็นเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมาชำระคืนเท่านั้น

"ทางธนาคารจะไม่ใช้เงินฝากของลูกค้ามาใช้ในการนี้อย่างแน่นอน" นายประพันธ์ กล่าว
 
จนท.ธ.ก.ส.โคราชตะโกนไล่เสื้อแดงคาแบงก์

วันนี้ (20 ก.พ.) ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาได้มีกลุ่ม นปช.นครราชสีมา นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมช.คมนาคม พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย และกลุ่มนักธุรกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมาเกือบ 100 คนได้มาชุมนุมให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะนำเงินไปฝาก ธ.ก.ส.เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการช่วยเหลือชาวนาที่ไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวจากรัฐบาล

ต่อมาทั้งหมดได้เดินทางไปที่สำนักงาน ธ.ก.ส.นครราชสีมา โดยระหว่างเข้าไปในสำนักงานได้มีเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.สุภาพสตรีส่วนหนึ่งได้ตะโกนลงมาจากชั้น 2 ของสำนีกงานว่า "เงินของเสื้อแดงไม่รับ ไม่เอา ออกไป" ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจและมีการตะโกนตอบโต้กันอย่างดุเดือด

จากนั้นนายประยูร ครูเกษตร อายุ 64 ปี สมาชิก นปช. อ.เมืองนครราชสีมา ได้เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อไปต่อว่าพนักงานหญิงคนดังกล่าว แต่มีเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ฝ่ายสินเชื่อผู้ชายมาห้ามไว้โดยผลักอกนายประยูร และยืนขวางเพื่อไม่ให้นายประยูร ขึ้นไปยังชั้น 2 จนทำให้เกิดการโต้เถียงชี้หน้าด่ากันขึ้นนานประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะมีคนมาช่วยแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน

ส่วนเงินที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าเป็นนักธุรกิจนำมาฝากเข้าบัญชี ธ.ก.ส.สาขานครราชสีมาครั้งนี้รวมเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท เช่น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง, นายจรูญพงศ์ พันธุ์ศรีนคร, นายซิก พรอำนวย อายุ 75 ปี อาชีพค้าขายเบ็ดเตล็ด ฝาก 650,000 บาท, นายอู่ทร ประภาวิชน อายุ 71 ปี อาชีพค้าขายสินค้าการเกษตร ฝาก 50,000 บาท เป็นต้น

ชาวขอนแก่นแห่ฝากเงินกับ ธ.ก.ส.

ด้านชาวขอนแก่นจำนวนมากได้พากันทยอยมาเปิดบัญชีที่ ธ.ก.ส. สาขาขอนแก่น เพื่อให้เกิดสภาพคล่อง และเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการช่วยเหลือให้กับกลุ่มเกษตรกร ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ที่ต่างยังคงรอรับเงินจากโครงการดังกล่าว โดยบางคนมีการปิดบัญชีธนาคาร จากธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน เพื่อมาเปิดบัญชีกับ ธ.ก.ส.ในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว รวมถึงการระดมทุนและเชิญชวนให้ชาวขอนแก่น ได้ร่วมกิจกรรมของกลุ่มคนขอนแก่นร่วมใจช่วยเหลือชาวนาไทย ด้วยการเปิดบัญชีธนาคารกับ ธ.ก.ส. ตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์

น.พ.เชิดชัย ตันตินศิรินทร์ ประธานกลุ่มคนขอนแก่นร่วมใจช่วยชาวนาไทย กล่าวว่า กลุ่มนักธุรกิจและคนขอนแก่น ส่วนใหญ่ ต้องการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและสนับสนุนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล จึงระดมทุนด้วยการเปิดบัญชีเงินฝากรวมทั้งเชิญชวนให้คนไทยทั้งประเทศเปิดบัญชีธนาคารกับ ธ.ก.ส. ขั้นต่ำจังหวัดละ 1 ล้านบาท เพื่อที่รัฐบาลจะสามารถอนุมัติงบประมาณบางส่วนสำหรับการเบิกจ่ายให้กับเกษตรกรได้ ซึ่งถือเป็นการให้ความช่วยเหลือตามระยะเวลาโครงการที่รัฐบาลได้กำหนดไว้

ออมสินตรังครวญลูกค้าเดิมปิดบัญชีเพียบ

ด้านนางอาภาพร รัตนคช ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เขตตรัง เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมาธนาคารทั้ง 15 สาขาในพื้นที่ 10 อำเภอ มีลูกค้ามาใช้บริการอย่างเนืองแน่น ทั้งเบิกถอนเงินฝาก และปิดบัญชีธนาคาร หลังวิตกข่าวธนาคารปล่อยกู้เงิน 5,000 ล้านบาท ให้แก่ ธ.ก.ส. โดยล่าสุดหลังจากที่ทางธนาคารแต่ละสาขาได้ทำความเข้าใจกับลูกค้าในระบบเงินฝากแล้วกระแสของการมาขอถอนเงินก็เริ่มค่อยๆ ลดลงไปมาก

ทั้งนี้ ดูได้จากจำนวนเงินที่ลูกค้ามาเบิกถอนวันละประมาณ 200-300 ล้านบาท ค่อยๆ ลดลงจนเหลือแค่เพียงหลัก 10 ล้านบาท และน่าจะเข้าสู่สภาปกติได้ภายในสัปดาห์หน้า หากไม่มีกระแสอะไรเกี่ยวกับธนาคารออมสินออกมาซ้ำเติมอีก แต่ที่รู้สึกน่าเป็นห่วง และน่าเสียดายก็คือ ผู้ที่มาปิดบัญชีธนาคารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ารายย่อย ที่มีเงินในบัญชีจำนวนไม่มาก รวมทั้งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่กับธนาคารมาตั้งแต่ยุคแรกๆ นั้นหลายคนถอนเงินไปแล้ว ก็ยังไม่รู้จะเอาไปฝากที่ไหน แต่ได้กระทำไปตามกระแสความไม่พอใจเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ หลังจากสถานการณ์ความวุ่นวายเข้าสู่สภาะปกติแล้ว สิ่งแรกที่ธนาคารออมสินทุกสาขาในจังหวัดตรัง จะต้องเร่งดำเนินการก็คือ การลงไปสร้างความเข้าใจกับลูกค้าเดิมๆ เหล่านี้ที่หายไปประมาณ 30-40% เพื่อเชิญชวนให้เกิดความมั่นใจ และกลับมาใช้บริการกับธนาคารออมสินอีกครั้ง ซึ่งยอมรับว่ามิใช่เรื่องง่ายในภาวะที่การแข่งขันของแต่ละธนาคารสูงขึ้นมากเช่นนี้ รวมทั้งเสนอไปยังผู้บริหารสำนักงานใหญ่ให้มีความรอบคอบมากขึ้น เพราะลูกค้าในยุคปัจจุบันมีความอ่อนไหวอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้

ชาวสตูลแห่ถอนเงินออมสินต่อเนื่อง

ส่วนบรรยากาศการแห่ถอนเงินที่ธนาคารออมสิน สาขาสตูล ยังคงมีต่อเนื่องแม้จะไม่คึกคักเหมือน 3 วันแรก แต่ประชาชนที่ต้องการหลีกหนีการแออัด แต่มีเจตนารมณ์ที่ต้องการโยกย้ายเงินฝากไปยังธนาคารอื่น เพราะไม่เชื่อมั่นเสถียรภาพของธนาคารออมสิน พร้อมทั้งเป็นการต่อต้านนโยบายของรัฐที่บริหารงานผิดพลาด โดยหันมานำเงินฝากของประชาชนไปชดใช้ในรูปหนี้เพื่อแก้ปัญหา

ประชาชนชาวสตูล ที่มาถอนเงินมีตั้งแต่ชนชั้นล่างและบนของสังคม ที่ต่างจับกุมวิพากษ์ระหว่างรอใช้บริการธนาคารออมสิน ว่า รู้สึกเห็นใจชาวนาที่ประสบปัญหาไม่ได้เงินจากรัฐบาล และต้องการให้รัฐบาลออกมารับผิดชอบด้วยการลาออกมากกว่า เพราะบริหารงานผิดพลาด และให้เอาเงินจากการขายข้าวมาจ่ายชาวนาแทนการแก้ปัญหาเช่นนี้ เพราะยิ่งทำให้ธนาคารขาดเสถียรภาพ เพราะประชาชนต่อต้านขัดขืน ปฏิเสธไม่เอารัฐบาลแล้ว

ชาวนาอุบลฯโจมตีออมสินไม่ปล่อยเงินกู้

ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังเก่า นางอุบลกาญจน์ อมรสิน หรือดีเจสาวฝั่งโขง แกนนำ นปช.อุบลราชธานี นำขบวนรถชาวนาจาก อ.วารินชำราบ และอำเภอใกล้เคียง ซึ่งเดินทางด้วยรถยนต์และรถอีแต๋นประมาณ 50 คัน ราว 150 คน มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่พยายามหาแหล่งเงินกู้นำเงินมาจ่ายให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งยังค้างจ่ายชาวนากว่า 1.3 แสนล้านบาท

หลังมารวมตัวและเปิดปราศรัยโจมตีการชุมนุมประท้วงของกลุ่ม กปปส. ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าเป็นตัวการทำให้ชาวนายังไม่ได้รับเงิน พร้อมเรียกร้องไม่ให้ชาวนาเข้าไปร่วมประท้วงกับกลุ่ม กปปส.เพราะจะทำให้ชาวนาได้เงินช้าลงไปอีก

จากนั้นกลุ่มที่อ้างตัวเป็นชาวนาได้เคลื่อนขบวนรถทั้งหมดไปเปิดปราศรัยโจมตีธนาคารออมสิน สำนักงานเขตประจำจังหวัดอุบลราชธานี สาขาวงเวียนซิงเกอร์ ถนนพิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง อ.เมือง กรณีไม่ปล่อยเงินกู้ให้ ธ.ก.ส.นำเงินไปจ่ายเป็นค่าข้าวเปลือกให้ชาวนา ก่อนพากันสลายตัวไปในเที่ยงวันเดียวกัน

ออมสินมหาสารคามยันมีเงินฝากเพิ่มขึ้น

ด้านนางสาวพรธิดา วิมุตติลาภ ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขามหาสารคาม เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวประชาชนแห่ถอนเงินออกจากธนาคารออมสินภายหลังทราบข่าวทางธนาคารปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ให้ ธ.ก.ส. โดยในส่วนของ จ.มหาสารคาม ตลอด 3-4 วันที่ผ่านมาพบว่าประชาชนยังคงเดินทางมาฝาก และถอนเงินเป็นไปอย่างปกติ โดยในแต่ละวันจะมียอดฝากและถอน วงเงินหมุนเวียนวันละ 10 ล้านบาท โดยมีลูกค้ามาปิดบัญชีบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อย แต่ละวันไม่ถึง 10 ราย ยอดเงินสูงสุดอยู่ที่ราว 100,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้มีคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านนำเงินมาฝากเข้าบัญชีกองทุนวันละ 4-5 ราย วงเงินรายละหลายแสนบาท ส่งผลให้ธนาคารออมสิน สาขามหาสารคามมียอดเงินฝากวันละกว่า 10 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น