การท่าฯ ป่วนไม่เลิกพนักงานแต่งดำประท้วงวันประชุมบอร์ด “ศิธา” ยอมถอยแจงข้อเท็จริง ยันไม่มีนโยบายซื้อพันธบัตรรัฐบาลช่วยชาวนา ยอมรับคลังเคยถามมาจริง แต่พิจารณาแล้วผลตอบแทนแค่ 2.6% ต่ำกว่าฝากแบงก์จึงไม่ตกลง ขณะที่การท่าฯเตรียมรับมือชาวนาประสานหน่วยความมั่นคงดูแลหวั่นบุกสนามบินสุวรรณภูมิ ด้านกบข.ย้ำไม่สนบอนด์จำนำข้าว เหตุเพดานลงทุนเต็มแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่มีน.ต.ศิธา ทิวารี เป็นประธาน ช่วงเช้าวานนี้ (20 ก.พ.) ได้มีกลุ่มพนักงานประมาณ 200-300 คน แต่งชุดดำมาชุมนุมประท้วงหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อแสดงการคัดค้าน หลังมีกระแสข่าวลือว่า AOT เตรียมใช้เงินสดส่วนเกินประมาณ 40,000 ล้านบาท ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนา
ทั้งนี้ น.ต.ศิธา พร้อมด้วยนายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ได้ลงมาทำการชี้แจงแก่พนักงานบริเวณจุดชุมนุม โดยน.ต.ศิธา กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวลือที่ว่า AOT จะชะลอการลงทุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 เพื่อนำเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนา และยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะหาก AOT นำเงินไปดำเนินการเรื่องอื่นที่มิใช่ภารกิจองค์กร ตนก็คงจะแต่งชุดดำร่วมกับพนักงานเพื่อคัดค้านเช่นกัน แต่ยอมรับว่ากระทรวงการคลังเคยสอบถามมายัง AOT จริงว่า หากมีการออกพันธบัตรรัฐบาล AOT จะสนใจซื้อหรือไม่
อย่างไรก็ตามได้มีการพูดคุยเรื่องผลตอบแทนและพบว่าอยู่ที่ 2.6% ขณะปัจจุบัน AOT ได้นำเงินสดส่วนเกินไปแบ่งฝากตามสถาบันการเงินต่างๆ และได้ผลตอบแทนสูงกว่า 3% AOT จึงไม่สามารถซื้อพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวได้ เพราะให้ผล ตอบแทนต่ำกว่า และยืนยันว่าไม่เคยมีการลอบนำเงินไปให้รัฐบาลเพื่อช่วยชาวนาหรือทำกิจกรรมการเมือง
“ผมยืนยันว่าเราไม่มีการซื้อพันธบัตรแน่นอน แต่ยอมรับว่ากระทรวงการคลังเคยสอบถามมาจริงเพื่อขอความร่วมมือ ซึ่งจากการพูดคุยเรื่องผลตอบแทน ก็อยู่ที่ 2.6% ขณะเราฝากแบงก์เราได้กว่า 3% เราเลยไม่ตกลงเพราะฝากแบงค์ดีกว่า ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วว่าถ้าจะมีการลงทุนสิ่งใดต้องศึกษาผลตอบแทนก่อน หากต่ำกว่าการลงทุนที่มีอยู่แล้ว เราก็คงไม่ไปลงทุน และยืนยันว่าเรายังไม่เคยจ่ายเงินอะไรให้รัฐบาลเลย ยังไม่มีการขยับเงินออกจากแบงก์แม้แต่บาทเดียว” นายศิธา กล่าว
ทั้งนี้ หากพนักงานยังไม่มั่นใจต่อการทำงานของฝ่ายบริหารและบอร์ด AOT ตนก็พร้อมให้พนัก งานเข้าร่วมประชุมบอร์ดด้วย เพื่อแสดงความจริงใจ และพร้อมจะเลื่อนการประชุมบอร์ดวานนี้ออกไปก่อนหากพนักงานไม่สบายใจ แต่หลังการชี้แจงแล้ว พนักงานเห็นว่าองค์กรยังต้องเดินหน้าต่อไป จึงให้บอร์ดประชุมได้ตามปกติ ซึ่งวานนี้ต้องเลื่อนเวลาประชุมจากเดิมกำหนดไว้ที่ 10.00 น.เป็น 13.30 น.
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มชาวนานับหมื่นคนจะเดินทางมาปิดล้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินรับจำนำข้าวนั้น น.ต.ศิธา กล่าวว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจริงหรือไม่ แต่ AOT ได้ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อช่วยดูแลพื้นที่แล้ว ซึ่งยอมรับว่าหากมาหลักหมื่นจริง AOT คงไม่มีกำลังคนพอจะรับมือได้ จึงอยากขอร้องผู้ที่จะมาชุมนุมว่าควรคำนึงถึงประเทศชาติ เพราะผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อนคือคนไทย ไม่ใช่รัฐบาล เนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคือยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ
“ถ้ามาหลักหมื่นจริง สิ่งที่เราจะทำคือยกมือไหว้แล้วบอกพี่น้องชาวนาว่าอย่าทำเลย เพราะสุวรรณภูมิคือยุทธศาสตร์ชาติ เรารบกับคนอื่นเรายอมรับได้ แต่นี่เป็นคนไทยด้วยกัน หากทำแบบนั้นจริงจะกระทบทั้งประเทศไม่ใช่แค่รัฐบาล ตอนนี้นักท่องเที่ยวก็หาย บริษัททัวร์ โรงแรมก็แย่อยู่แล้ว หากมาปิดอีกจะยิ่งหนักกว่าเก่าหลายเท่า” น.ต.ศิธา กล่าว
**กบข.ย้ำไม่สนบอนด์จำนำข้าว**
ด้าน นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ระบุว่า คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้อนุมัติให้รัฐบาลกู้เงินผ่านสมาคมโรงสีไทยนั้นในการประชุมคณะกรรมการ กบข. เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่ากบข. ไม่มีแนวคิดปล่อยกู้ หรือเข้าไปลงทุนพันธบัตรโครงการจำนำข้าว อีกทั้งปัจจุบัน กบข มีการลงทุนผูกพันในสินทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาวเต็มพอร์ตแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่มีน.ต.ศิธา ทิวารี เป็นประธาน ช่วงเช้าวานนี้ (20 ก.พ.) ได้มีกลุ่มพนักงานประมาณ 200-300 คน แต่งชุดดำมาชุมนุมประท้วงหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อแสดงการคัดค้าน หลังมีกระแสข่าวลือว่า AOT เตรียมใช้เงินสดส่วนเกินประมาณ 40,000 ล้านบาท ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนา
ทั้งนี้ น.ต.ศิธา พร้อมด้วยนายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ได้ลงมาทำการชี้แจงแก่พนักงานบริเวณจุดชุมนุม โดยน.ต.ศิธา กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวลือที่ว่า AOT จะชะลอการลงทุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 เพื่อนำเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนา และยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะหาก AOT นำเงินไปดำเนินการเรื่องอื่นที่มิใช่ภารกิจองค์กร ตนก็คงจะแต่งชุดดำร่วมกับพนักงานเพื่อคัดค้านเช่นกัน แต่ยอมรับว่ากระทรวงการคลังเคยสอบถามมายัง AOT จริงว่า หากมีการออกพันธบัตรรัฐบาล AOT จะสนใจซื้อหรือไม่
อย่างไรก็ตามได้มีการพูดคุยเรื่องผลตอบแทนและพบว่าอยู่ที่ 2.6% ขณะปัจจุบัน AOT ได้นำเงินสดส่วนเกินไปแบ่งฝากตามสถาบันการเงินต่างๆ และได้ผลตอบแทนสูงกว่า 3% AOT จึงไม่สามารถซื้อพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวได้ เพราะให้ผล ตอบแทนต่ำกว่า และยืนยันว่าไม่เคยมีการลอบนำเงินไปให้รัฐบาลเพื่อช่วยชาวนาหรือทำกิจกรรมการเมือง
“ผมยืนยันว่าเราไม่มีการซื้อพันธบัตรแน่นอน แต่ยอมรับว่ากระทรวงการคลังเคยสอบถามมาจริงเพื่อขอความร่วมมือ ซึ่งจากการพูดคุยเรื่องผลตอบแทน ก็อยู่ที่ 2.6% ขณะเราฝากแบงก์เราได้กว่า 3% เราเลยไม่ตกลงเพราะฝากแบงค์ดีกว่า ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วว่าถ้าจะมีการลงทุนสิ่งใดต้องศึกษาผลตอบแทนก่อน หากต่ำกว่าการลงทุนที่มีอยู่แล้ว เราก็คงไม่ไปลงทุน และยืนยันว่าเรายังไม่เคยจ่ายเงินอะไรให้รัฐบาลเลย ยังไม่มีการขยับเงินออกจากแบงก์แม้แต่บาทเดียว” นายศิธา กล่าว
ทั้งนี้ หากพนักงานยังไม่มั่นใจต่อการทำงานของฝ่ายบริหารและบอร์ด AOT ตนก็พร้อมให้พนัก งานเข้าร่วมประชุมบอร์ดด้วย เพื่อแสดงความจริงใจ และพร้อมจะเลื่อนการประชุมบอร์ดวานนี้ออกไปก่อนหากพนักงานไม่สบายใจ แต่หลังการชี้แจงแล้ว พนักงานเห็นว่าองค์กรยังต้องเดินหน้าต่อไป จึงให้บอร์ดประชุมได้ตามปกติ ซึ่งวานนี้ต้องเลื่อนเวลาประชุมจากเดิมกำหนดไว้ที่ 10.00 น.เป็น 13.30 น.
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มชาวนานับหมื่นคนจะเดินทางมาปิดล้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินรับจำนำข้าวนั้น น.ต.ศิธา กล่าวว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจริงหรือไม่ แต่ AOT ได้ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อช่วยดูแลพื้นที่แล้ว ซึ่งยอมรับว่าหากมาหลักหมื่นจริง AOT คงไม่มีกำลังคนพอจะรับมือได้ จึงอยากขอร้องผู้ที่จะมาชุมนุมว่าควรคำนึงถึงประเทศชาติ เพราะผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อนคือคนไทย ไม่ใช่รัฐบาล เนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคือยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ
“ถ้ามาหลักหมื่นจริง สิ่งที่เราจะทำคือยกมือไหว้แล้วบอกพี่น้องชาวนาว่าอย่าทำเลย เพราะสุวรรณภูมิคือยุทธศาสตร์ชาติ เรารบกับคนอื่นเรายอมรับได้ แต่นี่เป็นคนไทยด้วยกัน หากทำแบบนั้นจริงจะกระทบทั้งประเทศไม่ใช่แค่รัฐบาล ตอนนี้นักท่องเที่ยวก็หาย บริษัททัวร์ โรงแรมก็แย่อยู่แล้ว หากมาปิดอีกจะยิ่งหนักกว่าเก่าหลายเท่า” น.ต.ศิธา กล่าว
**กบข.ย้ำไม่สนบอนด์จำนำข้าว**
ด้าน นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ระบุว่า คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้อนุมัติให้รัฐบาลกู้เงินผ่านสมาคมโรงสีไทยนั้นในการประชุมคณะกรรมการ กบข. เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่ากบข. ไม่มีแนวคิดปล่อยกู้ หรือเข้าไปลงทุนพันธบัตรโครงการจำนำข้าว อีกทั้งปัจจุบัน กบข มีการลงทุนผูกพันในสินทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาวเต็มพอร์ตแล้ว