ทีเส็บ สรุปตลาดไมซ์ไทยไตรมาสแรกปีงบประมาณ 57 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์และรายได้พร้อมเดินหน้าออกโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นตลาด เปิดตัวครั้งแรกในงานเทรดโชว์ AIME 2014 ออสเตรเลีย มั่นใจสิ้นปีงบประมาณ 2557 สามารถสร้างรายได้จากไมซ์สู่เศรษฐกิจไทย 96,9000 ล้านบาท
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของทีเส็บในไตรมาสแรกประจำปีงบประมาณ 2557 เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2556 มีผู้เดินทางไมซ์186,864 คน เติบโต 5.16% ทำรายได้ 16,033 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.16% โดย 10 ประเทศที่มีนักเดินทางไมซ์สูงสุดมาจากเอเชีย นำโดยจีน (38,036 คน) มาเลเชีย (13,103 คน) สิงคโปร์ (11,741 คน) อินเดีย (9,519 คน) ฟิลิปปินส์ (6,688 คน) ออสเตรเลีย (6,303 คน) เกาหลีใต้ (4,859 คน) อเมริกา (4,447 คน) ญี่ปุ่น (4,043 คน) และฮ่องกง (3,692 คน) จีนยังเป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของไทยโดยไตรมาสที่ 1/2557 จีนเป็นตลาดที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด และเติบโตถึง 177% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 /2556
ตลาดเอเชียครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 72% ของตลาดไมซ์ทั้งหมด เติบโต 20.35% ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดที่น่าจับตาโดยที่ผ่านมาตลาดตะวันออกลางเติบโตสูงที่สุดในไตรมาสที่ 1/2557 ถึง 525% ส่วนกลุ่มตลาดไมซ์ที่เติบโตอย่างน่าสนใจ คือ กลุ่มโอเชียเนียเติบโต16.63%
หากเปรียบเทียบสถิติแยกรายอุตสาหกรรมจะพบว่า อุตสาหกรรมการประชุมนานาชาติ (Conventions) เป็นกลุ่มตลาดที่มีปริมาณสูงสุดทั้งจำนวนและรายได้ คิดเป็นจำนวนผู้เดินทางไมซ์ 58,682 คน เติบโตขึ้น 9.29% ทำรายได้ 5,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.30% รองลงมาคือ กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) มีจำนวน 58,564 คน อุตสาหกรรมการประชุมองค์กร (Meetings) 38,315 คน และอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) 31,303 คน จากผลการวิจัยตลาดในไตรมาสที่ 1/2557 พบว่าอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยบรรลุเป้าประมาณการการตลาดที่ต้องการเพิ่มจำนวนนักเดินทาง 5% และเพิ่มจำนวนรายได้ 10% โดยจากข้อมูลพบว่าจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์เพิ่มขึ้น 5.59% และจำนวนรายได้เพิ่มขึ้น 10.02%
สำหรับโปรโมชั่นพิเศษทางการตลาด ประกอบด้วย 4 โปรโมชั่นมีรายละเอียดดังนี้ 1. “Meetings Bonus”เป็นการให้การสนับสนุนทางการเงิน มูลค่า 1 แสนถึง 1 ล้านบาท แก่ผู้จัดงานที่นำงานประชุมองค์กรเข้ามาจัดในประเทศไทย ขนาดตั้งแต่ 200-1,000 คน มีวันพักค้างในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน 2.“Conventions Bonus” ให้การสนับสนุนทางการเงิน มูลค่า 2 แสนถึง 5 แสนบาท กับสมาคมต่างๆ ผู้จัดงานประชุมนานาชาติ หน่วยงานรัฐบาล และสถาบันการศึกษา ที่นำเอางานประชุมนานาชาติขนาดตั้งแต่ 300-1,000 คนเข้ามาจัดในประเทศไทย
3. “Business Up 2 U” เป็นโปรแกรมให้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทย โดยรายละเอียดการสนับสนุนจะแตกต่างกันไป พิจารณาจากผลการจัดงานในปีก่อนหน้านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้จัดงานจะยังสามารถจัดงานแสดงสินค้าดังกล่าวในประเทศไทยได้ต่อไป 4. “Be My Guest” แคมเปญนี้มุ่งหวังจะดึงนักเดินทางไมซ์และกลุ่มผู้ซื้อด้านไมซ์ระดับคุณภาพจากนานาชาติมาร่วมงานไมซ์ที่จัดขึ้นในเมืองไทย โดยทีเส็บจะให้การสนับสนุนด้านที่พักไม่เกินคนละ 2 คืน ต่อการจัดงานแสดงสินค้า 1 งาน
แผนการตลาดไตรมาส 2/2557 ทีเส็บได้ปรับกลยุทธ์ตลาดเพื่อดึงกลุ่มตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ให้กลับคืนมา ด้านธุรกิจการประชุมนานาชาติจะเน้นการขยายตลาดการประชุมนานาชาติไปสู่รายอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ภาคการศึกษา อุตสาหกรรมเทคโนโลยี โทรคมนาคม การเงินและการบัญชี เป็นต้น
“ไตรมาสที่ 2 ทีเส็บตั้งเป้านักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 296,000 คน สร้างรายได้ 29,070 ล้านบาท และจากโปรโมชั่นพิเศษฟื้นฟูตลาดไมซ์ไทย จะผลักดันการขยายตัวของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในปี 2557 ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และไปสู่เป้าหมายว่า ปีนี้จะมีนักเดินทางไมซ์จากทั่วโลกเข้ามาทั้งสิ้น 987,000 คน เพิ่มขึ้น 5 % และสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์เพิ่มขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 96,900 ล้านบาท”นายนพรัตน์ กล่าวสรุป
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของทีเส็บในไตรมาสแรกประจำปีงบประมาณ 2557 เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2556 มีผู้เดินทางไมซ์186,864 คน เติบโต 5.16% ทำรายได้ 16,033 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.16% โดย 10 ประเทศที่มีนักเดินทางไมซ์สูงสุดมาจากเอเชีย นำโดยจีน (38,036 คน) มาเลเชีย (13,103 คน) สิงคโปร์ (11,741 คน) อินเดีย (9,519 คน) ฟิลิปปินส์ (6,688 คน) ออสเตรเลีย (6,303 คน) เกาหลีใต้ (4,859 คน) อเมริกา (4,447 คน) ญี่ปุ่น (4,043 คน) และฮ่องกง (3,692 คน) จีนยังเป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของไทยโดยไตรมาสที่ 1/2557 จีนเป็นตลาดที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด และเติบโตถึง 177% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 /2556
ตลาดเอเชียครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 72% ของตลาดไมซ์ทั้งหมด เติบโต 20.35% ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดที่น่าจับตาโดยที่ผ่านมาตลาดตะวันออกลางเติบโตสูงที่สุดในไตรมาสที่ 1/2557 ถึง 525% ส่วนกลุ่มตลาดไมซ์ที่เติบโตอย่างน่าสนใจ คือ กลุ่มโอเชียเนียเติบโต16.63%
หากเปรียบเทียบสถิติแยกรายอุตสาหกรรมจะพบว่า อุตสาหกรรมการประชุมนานาชาติ (Conventions) เป็นกลุ่มตลาดที่มีปริมาณสูงสุดทั้งจำนวนและรายได้ คิดเป็นจำนวนผู้เดินทางไมซ์ 58,682 คน เติบโตขึ้น 9.29% ทำรายได้ 5,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.30% รองลงมาคือ กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) มีจำนวน 58,564 คน อุตสาหกรรมการประชุมองค์กร (Meetings) 38,315 คน และอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) 31,303 คน จากผลการวิจัยตลาดในไตรมาสที่ 1/2557 พบว่าอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยบรรลุเป้าประมาณการการตลาดที่ต้องการเพิ่มจำนวนนักเดินทาง 5% และเพิ่มจำนวนรายได้ 10% โดยจากข้อมูลพบว่าจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์เพิ่มขึ้น 5.59% และจำนวนรายได้เพิ่มขึ้น 10.02%
สำหรับโปรโมชั่นพิเศษทางการตลาด ประกอบด้วย 4 โปรโมชั่นมีรายละเอียดดังนี้ 1. “Meetings Bonus”เป็นการให้การสนับสนุนทางการเงิน มูลค่า 1 แสนถึง 1 ล้านบาท แก่ผู้จัดงานที่นำงานประชุมองค์กรเข้ามาจัดในประเทศไทย ขนาดตั้งแต่ 200-1,000 คน มีวันพักค้างในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน 2.“Conventions Bonus” ให้การสนับสนุนทางการเงิน มูลค่า 2 แสนถึง 5 แสนบาท กับสมาคมต่างๆ ผู้จัดงานประชุมนานาชาติ หน่วยงานรัฐบาล และสถาบันการศึกษา ที่นำเอางานประชุมนานาชาติขนาดตั้งแต่ 300-1,000 คนเข้ามาจัดในประเทศไทย
3. “Business Up 2 U” เป็นโปรแกรมให้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทย โดยรายละเอียดการสนับสนุนจะแตกต่างกันไป พิจารณาจากผลการจัดงานในปีก่อนหน้านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้จัดงานจะยังสามารถจัดงานแสดงสินค้าดังกล่าวในประเทศไทยได้ต่อไป 4. “Be My Guest” แคมเปญนี้มุ่งหวังจะดึงนักเดินทางไมซ์และกลุ่มผู้ซื้อด้านไมซ์ระดับคุณภาพจากนานาชาติมาร่วมงานไมซ์ที่จัดขึ้นในเมืองไทย โดยทีเส็บจะให้การสนับสนุนด้านที่พักไม่เกินคนละ 2 คืน ต่อการจัดงานแสดงสินค้า 1 งาน
แผนการตลาดไตรมาส 2/2557 ทีเส็บได้ปรับกลยุทธ์ตลาดเพื่อดึงกลุ่มตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ให้กลับคืนมา ด้านธุรกิจการประชุมนานาชาติจะเน้นการขยายตลาดการประชุมนานาชาติไปสู่รายอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ภาคการศึกษา อุตสาหกรรมเทคโนโลยี โทรคมนาคม การเงินและการบัญชี เป็นต้น
“ไตรมาสที่ 2 ทีเส็บตั้งเป้านักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 296,000 คน สร้างรายได้ 29,070 ล้านบาท และจากโปรโมชั่นพิเศษฟื้นฟูตลาดไมซ์ไทย จะผลักดันการขยายตัวของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในปี 2557 ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และไปสู่เป้าหมายว่า ปีนี้จะมีนักเดินทางไมซ์จากทั่วโลกเข้ามาทั้งสิ้น 987,000 คน เพิ่มขึ้น 5 % และสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์เพิ่มขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 96,900 ล้านบาท”นายนพรัตน์ กล่าวสรุป