ASTVผู้จัดการรายวัน - "สุเทพ"นำมวลชนเทปูนปิดประตูทำเนียบฯ ท้า"เหลิม"ให้มายึดพื้นที่คืนด้วยตัวเอง ถ้าไม่มาเป็นลูกหมา ด้าน "เหลิม"เดือดจัด ขู่สาวไส้ "สุเทพ" สั่งระดมกำลังตำรวจ 25,000 นาย ยึดคืน 5 พื้นที่หลัก นัดนักข่าว "ประยุทธ์" กำชับทหารปฏิบัติตามกรอบที่ ศรส. มอบหมาย ด้าน"หลวงปู่พุทธะอิสระ" เปิดทางให้ 2 หน่วยงานเข้าทำงานที่ศูนย์ราชการแย้ม 2-3 วันนี้ จะมีข่าวดี
เมื่อเวลาประมาณ 07.39 น. วานนี้ (17ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยแกนนำ กปปส. จากทุกเวทีได้เดินนำมวลชนจากบริเวณแยกปทุมวัน เพื่อไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้นายอิสสระ สมชัย ได้มีการนำผู้ชุมนุมจากเวทีสวนลุมฯ ส่วนหนึ่งเดินทางไปร่วมกับคปท.ปักหลักอยู่ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เมื่อคืนนี้วันที่ 16 ก.พ.แล้ว
ทั้งนี้ นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่า เรากำลังไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฉะนั้นก็ไม่ควรมีที่ไปอีกต่อไปแล้ว เรามาทำหน้าที่ จะไม่ยอมให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับเข้าทำงานที่ทำเนียบฯอีกเด็ดขาด ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตนก็ได้ท้าทายไปแล้ว ถ้าอยากเอาคืนพื้นที่ก็บุกมา วันนี้ไม่ยอมเด็ดขาด
ทั้งนี้ เมื่อขบวนของ กปปส.ถึงหน้าทำเนียบฯ แกนนำได้ย้ำกับมวลชนว่า ห้ามเข้าไปในทำเนียบฯ แค่ล้อมไว้พอ
ขณะที่นายสุเทพ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย ว่า ตนนำกำลังมาเสริม คปท. เพราะพวกเราได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า เราจะปิดสถานที่ราชการไม่ให้รัฐบาลทำงานได้อีกต่อไป ทางคปท.ได้คุมพื้นที่สำคัญๆไว้ให้เราหลายแห่งด้วยกันเราจะไม่ยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาที่ทำเนียบฯอีก เพราะหมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ทั้งด้านกฎหมาย ที่เขาปฏิเสธที่จะเคารพรัฐธรรมนูญ และหมดความชอบธรรมด้านการเมือง เพราะประชาชนไม่ยอมให้เป็นนายกฯ อีกต่อไป เมื่อหมดความชอบทั้งกฎหมาย และการเมือง รัฐบาลก็ควรจะออกไปทั้งคณะ แต่คนเหล่านี้ยังหน้าด้าน ตนประเมินว่าฝ่ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ใกล้จะจนตรอกเต็มที่แล้ว อ้างเป็นรัฐบาล แต่ทำอะไรไม่ได้ บริหารประเทศไม่ได้ รัฐบาลนี้ก็จะจอดในเวลาอันรวดเร็ว
“ตอนนี้ถึงขนาดทำไสยศาสตร์ช่วยแล้ว หมดท่าแล้ว ตอนนี้มาทำแอ็กอาร์ตครั้งสุดท้าย จะยึดทำเนียบฯ ยึดกระทรวงมหาดไทยกลับ ผมจึงท้าเลยถ้าไม่มา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ไม่ใช่ลูกคน แต่เป็นลูกหมาไปแล้ว เป็นถึง ผอ.ศรส. พวกกบฏท้าทาย ยังทำอะไรไม่ได้”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยกกำลังมาเสริม สามารถยึดทำเนียบฯได้หมดสิ้น ทั้งที่ยังมีบางส่วนดูแลพื้นที่แยกปทุมวัน แยกอโศก สวนลุมพินี ฉะนั้นขอให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ยันไว้ 30-40 นาที เรานำกำลังมาเสริมให้แน่นอน นี้ถ้าไม่เกรงใจทหาร เราบุกยึดทำเนียบฯไปแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีทางได้กลับมานั่งทำงานในทำเนียบฯได้อีกต่อไป ทั้งชาตินี้ และชาติหน้า เราไม่ยอม เพราะทำบ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว เอาอำนาจที่อ้างว่าได้มาจากประชาชนไปหากิน โกงชาติ โกงแผ่นดิน จนไม่มีอะไรจะเหลืออยู่แล้ว
นายสุเทพ ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้คนของรัฐบาล หรือฝ่ายการเมืองมาร่วมปฏิรูปประเทศ เพราะเชื่อว่าจะไม่มีวันสำเร็จ การปฏิรูปต้องทำด้วยมือของประชาชน มีการเสนอเงื่อนไขนี้มาเพื่อขอเจรจา แต่ตนยืนยัน ไม่มีการเจรจา ยืนยันว่าเราชนะแน่ เพราะคนออกมาขับไล่หลายล้านคนแล้ว พวกทหารก็ไม่เอารัฐบาลมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะทำกับทหารมามาก ใช้ลิ่วล้อเข่นฆ่าทหารตำรวจส่วนใหญ่ก็ไม่เอา โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย ส่วนใหญ่ที่มีพ่อแม่เป็นชาวนา ถูกรัฐบาลโกงเงินจำนำข้าว 1.3 แสนล้านบาท จึงเหลือแต่ตัวนายๆ ไม่กี่คน ที่ยังรับใช้รัฐบาลอยู่ ตนเชื่อว่าในที่สุดข้าราชการทั้งแผ่นดิน จะประกาศออกมายืนอยู่ข้างประชาชน เราจะชนะ เมื่อนั้นเราจะปฏิรูปการเมืองได้อย่างแท้จริง ฉะนั้นให้พี่น้องทั้งหลายมีกำลังใจ มั่นใจ จงยืนหยัดต่อสู้จนนาทีสุดท้าย
"ต่อจากนี้เราจะท้าขี้ข้า ร.ต.อ.เฉลิม ว่าเราไม่อยากสู้กับมัน เอานายตัวจริงออกมาสู้กันดีกว่า เพราะเดิมพันครั้งนี้สูงแล้ว และคนทั้งประเทศเขารู้กันหมดแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนบงการอยู่ข้างหลัง และถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาต่อสู้ด้วยตัวเอง หากเราแพ้ เราก็จะยอมเป็นขี้ข้า แต่ถ้ามันแพ้ ตระกูลชิน จะได้หมดไปจากประเทศไทยเสียที ตระกูลนี้ต้องจบเพียงแค่นี้ เพราะเราคงรอให้นายพานทองแท้ ชินวัตร พวกขี้ยา มาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ไหว วันนี้ต้องขอบใจ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ทำให้ได้มาพบปะกับพี่น้อง คปท. แต่ก็ยังขอท้าว่า หากร.ต.อ.เฉลิม ยังเป็นคนลูกคน ต้องจูงมือน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาที่ทำเนียบฯ แต่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่กล้า เพราะด้วยนิสัยร.ต.อ.เฉลิม เป็นพวกคนขี้ขลาด เขาให้เป็น รมว.มหาดไทย มันก็ไม่กล้าลงไปพื้นที่ภาคใต้ พอเขาด่ามากๆ มันก็เลยไปที่สงขลา ไปโผล่ที่ค่าย ตชด.พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สิ้นคิดน่าจะรู้ได้แล้วว่า บรรดาขี้ข้าที่มีอยู่ มันพึ่งพาไม่ได้แล้ว และพวกเราจะจับมือร่วมกันต่อสู้ เพื่อชัยชนะของประชาชน"
หลังจากนั้น มวลชน คปท. รวมทั้งนายสุเทพ ได้นำปูนซีเมนต์ ชนิดแห้งเร็ว มาเทปิดทางเข้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 1 และ ประตู 2 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า จะไม่ยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้
ต่อมา เวลาประมาณ 11.00 น. นายสุเทพ พร้อมแกนนำ กปปส. และ คปท.ได้เดินไปสำรวจบริเวณแยกมิสกวัน และเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการหาทำเลที่ตั้งเวทีปราศรัยใหม่
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะนำมวลชนมาที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน ตั้งแต่เช้า จนถึง 15.00 น. และจะมีมวลชนบางส่วนประมาณ 2,000 คน ที่ดูแลโดย นายอิสสระ สมชัย จะอยู่ดูแลพื้นที่ตั้งแต่สวนมิสกวัน ถึงสะพานมัฆวานฯ รวมทั้งถนนเลียบคลอง จากเชิงสะพานมัฆวานฯ ไปจนถึงสะพานอรทัย ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเหนือจากที่กลุ่ม คปท.ดูแลอยู่แล้ว ที่ถนนพิษณุโลก และสะพานชมัยมรุเชฐ และหากมีปฏิบัติการจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ พร้อมจะให้มวลชนเคลื่อนไปป้องกันให้ได้ใน 50 นาที
ปิดกระทรวงศึกษาอีกรอบ
ขณะที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำ กปปส. ได้นำมวลชน เข้ากระทรวงศึกษาธิการ หลังทราบว่า ข้าราชการของกระทรวงเข้าทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ พร้อมให้เก็บของกลับบ้านภายในครึ่งชั่วโมง และในวันนี้(18 ก.พ.) จะเดินทางมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยนายณัฐพล ยังกล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดี ที่ข้าราชการกระทรวงศึกษา จะร่วมปฏิรูประบบการศึกษาไทยรวมกับ กปปส. หลังตกลงมาสู่ลำดับที่ 7-8 ของกลุ่มอาเซียน
"เหลิม"ลั่นสลายชุมนุมช่วงที่มีคนน้อย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ลก่าวว่า นายสุเทพ ได้นำปูนมาโบกปิดหน้าทำเนียบฯนั้น ไม่เป็นไร ใช้รถแบคโฮโขก 3 ที ก็เสร็จเรียบร้อย จากนี้ต่อไปเวทีไหนคนน้อย ตนตะปบทันที จับในข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกีดขวางการจราจร
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายสุเทพ ประกาศไว้ว่า วันที่ 14–16 ก.พ.ที่ผ่านมา จะระดมมวลชนกดดันให้นายกฯ ลาออก มั่นใจว่าจะมีประชาชนเต็มไปหมด แต่เอาเข้าจริงสูงสุดมีแค่ 1 หมื่นคน แล้วเริ่มลดลง เมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ. มีประมาณ 7 พันคน ตนรับไม่ได้ที่กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และตน เป็นคำพูดที่เลวทราม นายสุเทพ อารมณ์เสีย ไฟธาตุแตก ไม่เป็นไรหากนายสุเทพ รักทำเนียบฯ ตนจะรื้อเวทีอื่นที่ไม่มีคน
“กปปส.ไปทำเนียบฯ แพ้แล้ว เดี๋ยวมีจังหวะจะลักหลับ ผมจะยึดปทุมวัน ลุมพินี อโศก และ ราชประสงค์ บ่ายวานนี้ (17 ก.พ.) ผมจะประชุม ขอเตือนอีกครั้ง พี่น้องที่มาร่วมชุมนุม ท่านกลับบ้านเถอะ นายสุเทพไม่ได้ปฏิรูปการเมือง ทำได้แค่นี้ แล้วทำด้วยความสะใจไร้กฎกติกา ฉะนั้นที่ผมเคยบอกว่าจะไม่เข้าไปม็อบนั้น เปลี่ยนแล้ว อาจจะเข้าไปใน 2 ชั่วโมงก็ได้”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
สำหรับการขอคืนพื้นที่ 5 จุดนั้น ตนเริ่มเจรจาตลอด โดยการขอคืนพื้นที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจ ฝ่ายการเมืองไม่ควรไปยุ่ง หากไปยุ่งมากจะหายนะ สุดท้ายประชาชนจะบอกตนว่า ควรทำอย่างไร เพราะมีคนจ้องเล่นงาน ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้เวลา 14.00 น. วานนี้ (17 ก.พ.) ตนได้ประชุมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจ เรื่องการขอคืนพื้นที่
นัดนักข่าว 08.00 น.วันนี้
ต่อมาเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่เคยบอกว่า นายกฯ จะเข้าทำเนียบฯได้วันไหน ไม่เคยนัดหมายใครที่ทำเนียบฯ ทำเนียบฯ เป็นของประชาชนทุกคน แต่ถ้าใครจะปิด ก็ปิด แต่อย่าพูดจาไร้วุฒิภาวะ สักวันตนจะลากไส้ นายสุเทพ ถ้ารู้สึกว่าไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้ว จะบอกให้รู้ให้หมดว่า นายสุเทพ ทำอะไรใครไว้บ้าง ทำให้ครอบครัวใครต้องหายนะ
ทั้งนี้ ตนยังยืนยันการนัดหมายผู้สื่อข่าว ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในวันที่ 18 ก.พ. เวลา 08.00 น. ตามที่เคยนัดหมายไว้ แล้วก่อนหน้านี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไปยึดเวทีที่ทำเนียบฯ เลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ รอบนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมมาเยอะ ตนไม่ได้ขู่ ส่วนจะประกบทำเนียบฯและพื้นที่อีก 5 จุด พร้อมกันเลยหรือไม่ ตนไม่บอก แล้วแต่สถานการณ์
ถ่ายสดช่อง 9 ช่อง11โชว์ยึดพื้นที่คืน
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านเผยแพร่ข่าวสารและประชาสัมพันธ์ ใน ศรส. เปิดเผยว่า ร.ต.อ. เฉลิม ได้มอบหมายกรมประชาสัมพันธ์ จัดรายการพิเศษ ชื่อ“ภารกิจ คืนความสงบ กทม.”หรือ Peace for Bangkok Mission โดยให้ออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 หรือ NBT ซึ่งจะเป็นสถานีแม่ข่ายในการถ่ายทอดสดภารกิจของ ศรส. ในการขอคืนสถานที่ราชการ และถนน ตามเป้าหมายต่างๆ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น จะมีสถานีโทรทัศน์ที่จะออกอากาศสด รายการพิเศษ ของ ศรส. เป็นหลัก2 สถานี คือ ช่อง 11 และ ช่อง 9 ส่วนสถานีโทรทัศน์อื่น ๆ ที่ต้องการขอเชื่อม หรือเกี่ยวสัญญาณไปออกอากาศ สามารถประสานขอความร่วมมือไปได้ที่ ช่อง 11 หรือ ติดต่อผ่านฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ของ ศรส.
ศรส.สั่งปฏิบัติการทวงคืน 5 พื้นที่ชุมนุม
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการ ศรส. แถลงผลการประชุมศรส. ถึงความคืบหน้าของการเข้าตรวจสอบพื้นที่การชุมนุม เพื่อติดตามจับกุมแกนนำ กปปส. ที่ศาลได้ออกหมายจับ และการจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้า และการเปิดใช้พื้นที่ส่วนราชการ และถนนสาธารณะนั้น ศรส.ได้กำหนดพื้นที่ที่จะปฏิบัติการรวม 5 แห่ง ดังนี้ คือ 1.บริเวณทำเนียบรัฐบาล2. บริเวณศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ 3. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 4. กระทรวงพลังงาน และ 5. กระทรวงมหาดไทย โดยได้กำหนดอัตรากำลังเข้าปฏิบัติ หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และยุทธวิธี ซึ่งจะเป็นไปตามสถานการณ์เพื่อความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ การขอเปิดพื้นที่ทั้ง 5 จุด จะดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยแต่ละพื้นที่จะใช้ยุทธวิธีแตกต่างกัน ส่วนจะดำเนินการวัน เวลาใด จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อความโปร่งใส แต่จะปฏิบัติการเฉพาะเวลากลางวันเท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าในการประกาศรายชื่อท่อน้ำเลี้ยงม็อบ กปปส. นายธาริต กล่าวว่า ศรส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังดำเนินการอยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และเรียกเข้ามาชี้แจง แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้ จะถูกระงับการทำธุรกรรม ในส่วนของ 61 รายชื่อ บุคคลที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส. ก็จะสามารถเปิดเผยได้เร็วๆ นี้ เช่นกัน
ระดมตำรวจ 25,000 นายปฏิบัติการ
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ขอเปิดพื้นที่เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ 5 แห่ง ภายในสัปดาห์นี้ โดยมอบหมายตำรวจระดับผู้บัญชาการ เป็นหัวหน้าชุดเจรจา
ส่วนระหว่างการเจรจาจะมีการจับกุมแกนนำผู้ชุมนุมที่มีหมายจับหรือไม่นั้น คงต้องหาแนวทางที่เหมาะสม
สำหรับกำลังเจ้าหน้าตำรวจที่จะใช้ในภารกิจครั้งนี้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร.เปิดเผยว่า มีจำนวนขั้นต่ำ 15,000 นาย และ มีกำลังเสริม standby พร้อมปฏิบัติหน้าที่ อีก 10,000 นาย รวม เป็น 25,000 นาย
"ประยุทธ์"สั่งกำลังพลสนับสนุนศรส.
ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ.) ได้ประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันพร้อมกำชับให้ผู้บังคับหน่วยได้เน้นย้ำกำลังพลที่ลงไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของทางศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) โดยให้ปฏิบัติงานตามกรอบที่เคยปฏิบัติ พร้อมติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มกปปส. ทุกเวที ร่วมถึงการปฏิบัติการขอพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมของ ศรส. ในสัปดาห์นี้ อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลประชาชนทุกฝ่ายให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด และไม่ให้มีการใช้ความรุนแรง
ทั้งนี้ ทางพล.อ.ประยุทธ์ ได้มีความเป็นห่วงใน 2 เวทีหลัก ที่อาจจะสุ่มเสี่ยงในการเกิดการปะทะ คือ เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เวทีของกลุ่ม คปท. ถนนราชดำเนิน ตลอดจนกระทรวงมหาดไทย สำหรับการดูแลสถานที่ตั้ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล ทหารยังคงประจำอยู่ในทำเนียบฯ เพื่อดูแลสถานที่ และให้หน่วยอื่นๆ สนธิกำลัง สับเปลี่ยนหนุนเวียนตรวจตรา และประจำจุดตรวจต่างๆ
"หลวงปู่"เปิดทางผู้ตรวจการฯ-กสม.เข้าทำงาน
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ ที่บ้านทรงไทย ข้าง ปตอ.พัน 1รอ. ถนนแจ้งวัฒนะ นายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายขรรค์ชัย คงเสน่ห์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ หลวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. แจ้งวัฒนะ เพื่อเจรจาขอเปิดพื้นที่ให้พนักงาน และข้าราชการเข้าทำงานในศูนย์ราชการอาคาร บี
นายสงัด กล่าวว่า ยืนยันว่า หน่วยงานของตนเป็นหน่วยงานอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม ทางสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังเคยท้วงติงเรื่องการ ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงความไม่เหมาะสม วันนี้จึงขอโอกาสให้หลวงปู่พุทธะอิสระ อนุญาตให้ข้าราชการได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เหมือนเช่นหน่วยงานอื่นๆ เช่นเดียวกับ กสม. ที่ต้องการขอเปิดพื้นที่ทำงานเช่นกัน
ด้านหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ยินดีให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยงานที่ทำงานเพื่อประชาชน เข้าใช้พื้นที่ทำงาน แต่ขอให้นำรายชื่อและข้าราชการทุกคนมาให้ เพื่อตรวจสอบบุคคลเข้าออกทำงานภายในหน่วยงานทั้งสองแห่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และในวันพุธที่ 19 ก.พ.นี้จะเดินทางไปสำนักงานตรวจการแผ่นดินพร้อมทนายความเพื่อเรียกร้องขอความเป็น ธรรมกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับโดยมิชอบ เป็นการทำเกินหน้าที่ และจะเข้ายื่นเรื่องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนด้วย กรณีที่ผู้ชุมนุมถูกละเมิดสิทธิ
หลวงปู่ฯ กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ (18ก.พ.) จะมีบุคคลสำคัญระดับที่สามารถชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้ จะเข้ามาพบ เพื่อพูดคุยถึงแนวทางสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้เดินสายพบปะพูดคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหลายฝ่ายแล้ว รวมถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และใน 2-3 วันนี้ จะมีข่าวดีแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องใด
“สมุนแม้ว”ผุด “ขบวนการ ท้าชน กปปส.
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการจัดตั้ง“ขบวนการคนอีสานปกป้องประชาธิปไตย”ว่ามีแนวคิดมาจากการหารือร่วมกับกลุ่ม ส.ส.อีสาน ในยามภาวะบ้านเมืองไม่มีประชาธิปไตย จึงเห็นควรจัดตั้งกลุ่มดังกล่าว จากนี้พวกเราจะเพื่อดำเนินกิจกรรมทุกวิถีทางให้มีประชาธิปไตยแท้จริงให้ได้ เบื้องต้นวันที่ 22 ก.พ. จะไปสักการะดวงวิญญาณ ขุนพลภูพาน เตียง ศิริขันธ์ ที่ลานอนุสาวรีย์ภูพาน จ.สกลนคร
“เราจะจัดเวทีกิจกรรมให้ความรู้ประชาชนไปเรื่อยๆ เผลอๆ หลังจากนั้นอาจจะได้เข้าไปจัดการกับ นายสุเทพในกรุงเทพฯ อย่าลืม ส.ส.ภาคใต้มีไม่กี่คนยังทำแบบนี้ได้ แต่ส.ส.อีสานมีเยอะกว่า พวกเขายึดศูนย์ราชการได้ เราก็ไปเปิดได้ องค์กรอิสระเฮงซวย ไม่ทำตามกฎหมาย เรามีสิทธิ์ไปปิดได้เช่นกัน”นพ.เชิดชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนการจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวได้ไปหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า ไม่ได้ปรึกษา หรือแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบ พวกเราทำกันเอง ไม่ได้ทำในนาม ส.ส. แต่ทำในนามประชาชนคนอีสาน ทุกคนมาร่วมได้ ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง
เมื่อถามว่าในที่ประชุมมีแนวคิดถึงขั้นจะพามวลชนมาเผชิญหน้ากันหรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย ไม่ต้องห่วงเราจะสร้างเครือข่ายระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอไปเรื่อยๆส่วนการจะเข้ากรุงเทพฯนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์
ด้าน นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาอดีต ส.ส.ภาคเหนือได้หารือเตรียมจัดตั้งกลุ่มมาเคลื่อนไหวเหมือน ส.ส.ภาคอีสาน ตอนนี้ให้เริ่มที่อีสานก่อน การประชุมพรรควันที่ 18 ก.พ.จะมีการหารือถึงรูปการการจัดตั้ง การเปิดตัวอีกครั้ง ในอนาคตทั้งภาคเหนือ อีสาน จะไหลรวมกันเป็นกลุ่มๆเดียวกัน อาจใช้ชื่อ อีสานล้านนา
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความกังวลว่าหากถึงจุดหนึ่งคงจะมีการเผชิญหน้าหรือไม่ นายสุรสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อถึงจุดๆหนึ่งต้องเกิดพร้อมปฏิเสธด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งของกลุ่ม ส.ส.อีสาน หรือ ส.ส.ภาคเหนือ มันเป็นความรู้สึกของพวกเราล้วนๆ ถ้าไม่ติดรัฐธรรมนูญมาตรา1 ผมคนหนึ่งก็ไม่อยากอยู่กับตุลาการศาลพวกนี้ ถ้าไม่ติดมาตรา1 คงจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่ก็ต้องอยู่ในผืนแผ่นดินไทย กล้าทำประชามติถามประชาชนว่า ประชาชนต้องการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้กันหรือไม่
“สุเทพ” ลั่น 19 นี้แตกหัก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ. ขอระดมทุกคนรบเพื่อแตกหักกับรัฐบาล และขอให้ กปปส. ทั่วประเทศเดินทางมาชุมนุมพร้อมกับคนกรุงเทพฯ ในทุกเวทีของ กปปส.ในกรุงเทพฯ เพราะรัฐบาลอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะชาวนา ธนาคารและระบบเศรษฐกิจเจ๊ง เพื่อให้อำนาจเป็นของประชาชนและไม่ให้มันมีแผ่นดินอยู่ ซึ่งเรารอเวลานี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับ ที่ชาวนาจะนัดมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลเพราะไม่ได้เงินจากโครงการรับจำนำข้าว อีกทั้งวันนี้ชาวนาได้ไปสำนักปลัดกลาโหมขอพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์และไม่ออกมาพบชาวนา และให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกฯ และรมว.คลัง มาเจอชาวนาก็ต้องวิ่งหนี ถือเป็นรัฐมนตรีคลังคนแรกที่ถูกชาวนาไล่ และจะเป็นรัฐบาลอยู่ได้อย่างไร ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นลูกคนอยู่ ขอให้กลับมาบัญชาเกมจะได้รู้ดำรู้แดง มิเช่นนั้นจะเรียกว่าลูกหมาอีกคน
เมื่อเวลาประมาณ 07.39 น. วานนี้ (17ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยแกนนำ กปปส. จากทุกเวทีได้เดินนำมวลชนจากบริเวณแยกปทุมวัน เพื่อไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้นายอิสสระ สมชัย ได้มีการนำผู้ชุมนุมจากเวทีสวนลุมฯ ส่วนหนึ่งเดินทางไปร่วมกับคปท.ปักหลักอยู่ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เมื่อคืนนี้วันที่ 16 ก.พ.แล้ว
ทั้งนี้ นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่า เรากำลังไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฉะนั้นก็ไม่ควรมีที่ไปอีกต่อไปแล้ว เรามาทำหน้าที่ จะไม่ยอมให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับเข้าทำงานที่ทำเนียบฯอีกเด็ดขาด ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตนก็ได้ท้าทายไปแล้ว ถ้าอยากเอาคืนพื้นที่ก็บุกมา วันนี้ไม่ยอมเด็ดขาด
ทั้งนี้ เมื่อขบวนของ กปปส.ถึงหน้าทำเนียบฯ แกนนำได้ย้ำกับมวลชนว่า ห้ามเข้าไปในทำเนียบฯ แค่ล้อมไว้พอ
ขณะที่นายสุเทพ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย ว่า ตนนำกำลังมาเสริม คปท. เพราะพวกเราได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า เราจะปิดสถานที่ราชการไม่ให้รัฐบาลทำงานได้อีกต่อไป ทางคปท.ได้คุมพื้นที่สำคัญๆไว้ให้เราหลายแห่งด้วยกันเราจะไม่ยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาที่ทำเนียบฯอีก เพราะหมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ทั้งด้านกฎหมาย ที่เขาปฏิเสธที่จะเคารพรัฐธรรมนูญ และหมดความชอบธรรมด้านการเมือง เพราะประชาชนไม่ยอมให้เป็นนายกฯ อีกต่อไป เมื่อหมดความชอบทั้งกฎหมาย และการเมือง รัฐบาลก็ควรจะออกไปทั้งคณะ แต่คนเหล่านี้ยังหน้าด้าน ตนประเมินว่าฝ่ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ใกล้จะจนตรอกเต็มที่แล้ว อ้างเป็นรัฐบาล แต่ทำอะไรไม่ได้ บริหารประเทศไม่ได้ รัฐบาลนี้ก็จะจอดในเวลาอันรวดเร็ว
“ตอนนี้ถึงขนาดทำไสยศาสตร์ช่วยแล้ว หมดท่าแล้ว ตอนนี้มาทำแอ็กอาร์ตครั้งสุดท้าย จะยึดทำเนียบฯ ยึดกระทรวงมหาดไทยกลับ ผมจึงท้าเลยถ้าไม่มา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ไม่ใช่ลูกคน แต่เป็นลูกหมาไปแล้ว เป็นถึง ผอ.ศรส. พวกกบฏท้าทาย ยังทำอะไรไม่ได้”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยกกำลังมาเสริม สามารถยึดทำเนียบฯได้หมดสิ้น ทั้งที่ยังมีบางส่วนดูแลพื้นที่แยกปทุมวัน แยกอโศก สวนลุมพินี ฉะนั้นขอให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ยันไว้ 30-40 นาที เรานำกำลังมาเสริมให้แน่นอน นี้ถ้าไม่เกรงใจทหาร เราบุกยึดทำเนียบฯไปแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีทางได้กลับมานั่งทำงานในทำเนียบฯได้อีกต่อไป ทั้งชาตินี้ และชาติหน้า เราไม่ยอม เพราะทำบ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว เอาอำนาจที่อ้างว่าได้มาจากประชาชนไปหากิน โกงชาติ โกงแผ่นดิน จนไม่มีอะไรจะเหลืออยู่แล้ว
นายสุเทพ ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้คนของรัฐบาล หรือฝ่ายการเมืองมาร่วมปฏิรูปประเทศ เพราะเชื่อว่าจะไม่มีวันสำเร็จ การปฏิรูปต้องทำด้วยมือของประชาชน มีการเสนอเงื่อนไขนี้มาเพื่อขอเจรจา แต่ตนยืนยัน ไม่มีการเจรจา ยืนยันว่าเราชนะแน่ เพราะคนออกมาขับไล่หลายล้านคนแล้ว พวกทหารก็ไม่เอารัฐบาลมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะทำกับทหารมามาก ใช้ลิ่วล้อเข่นฆ่าทหารตำรวจส่วนใหญ่ก็ไม่เอา โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย ส่วนใหญ่ที่มีพ่อแม่เป็นชาวนา ถูกรัฐบาลโกงเงินจำนำข้าว 1.3 แสนล้านบาท จึงเหลือแต่ตัวนายๆ ไม่กี่คน ที่ยังรับใช้รัฐบาลอยู่ ตนเชื่อว่าในที่สุดข้าราชการทั้งแผ่นดิน จะประกาศออกมายืนอยู่ข้างประชาชน เราจะชนะ เมื่อนั้นเราจะปฏิรูปการเมืองได้อย่างแท้จริง ฉะนั้นให้พี่น้องทั้งหลายมีกำลังใจ มั่นใจ จงยืนหยัดต่อสู้จนนาทีสุดท้าย
"ต่อจากนี้เราจะท้าขี้ข้า ร.ต.อ.เฉลิม ว่าเราไม่อยากสู้กับมัน เอานายตัวจริงออกมาสู้กันดีกว่า เพราะเดิมพันครั้งนี้สูงแล้ว และคนทั้งประเทศเขารู้กันหมดแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนบงการอยู่ข้างหลัง และถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาต่อสู้ด้วยตัวเอง หากเราแพ้ เราก็จะยอมเป็นขี้ข้า แต่ถ้ามันแพ้ ตระกูลชิน จะได้หมดไปจากประเทศไทยเสียที ตระกูลนี้ต้องจบเพียงแค่นี้ เพราะเราคงรอให้นายพานทองแท้ ชินวัตร พวกขี้ยา มาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ไหว วันนี้ต้องขอบใจ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ทำให้ได้มาพบปะกับพี่น้อง คปท. แต่ก็ยังขอท้าว่า หากร.ต.อ.เฉลิม ยังเป็นคนลูกคน ต้องจูงมือน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาที่ทำเนียบฯ แต่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่กล้า เพราะด้วยนิสัยร.ต.อ.เฉลิม เป็นพวกคนขี้ขลาด เขาให้เป็น รมว.มหาดไทย มันก็ไม่กล้าลงไปพื้นที่ภาคใต้ พอเขาด่ามากๆ มันก็เลยไปที่สงขลา ไปโผล่ที่ค่าย ตชด.พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สิ้นคิดน่าจะรู้ได้แล้วว่า บรรดาขี้ข้าที่มีอยู่ มันพึ่งพาไม่ได้แล้ว และพวกเราจะจับมือร่วมกันต่อสู้ เพื่อชัยชนะของประชาชน"
หลังจากนั้น มวลชน คปท. รวมทั้งนายสุเทพ ได้นำปูนซีเมนต์ ชนิดแห้งเร็ว มาเทปิดทางเข้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 1 และ ประตู 2 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า จะไม่ยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้
ต่อมา เวลาประมาณ 11.00 น. นายสุเทพ พร้อมแกนนำ กปปส. และ คปท.ได้เดินไปสำรวจบริเวณแยกมิสกวัน และเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการหาทำเลที่ตั้งเวทีปราศรัยใหม่
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะนำมวลชนมาที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน ตั้งแต่เช้า จนถึง 15.00 น. และจะมีมวลชนบางส่วนประมาณ 2,000 คน ที่ดูแลโดย นายอิสสระ สมชัย จะอยู่ดูแลพื้นที่ตั้งแต่สวนมิสกวัน ถึงสะพานมัฆวานฯ รวมทั้งถนนเลียบคลอง จากเชิงสะพานมัฆวานฯ ไปจนถึงสะพานอรทัย ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเหนือจากที่กลุ่ม คปท.ดูแลอยู่แล้ว ที่ถนนพิษณุโลก และสะพานชมัยมรุเชฐ และหากมีปฏิบัติการจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ พร้อมจะให้มวลชนเคลื่อนไปป้องกันให้ได้ใน 50 นาที
ปิดกระทรวงศึกษาอีกรอบ
ขณะที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำ กปปส. ได้นำมวลชน เข้ากระทรวงศึกษาธิการ หลังทราบว่า ข้าราชการของกระทรวงเข้าทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ พร้อมให้เก็บของกลับบ้านภายในครึ่งชั่วโมง และในวันนี้(18 ก.พ.) จะเดินทางมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยนายณัฐพล ยังกล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดี ที่ข้าราชการกระทรวงศึกษา จะร่วมปฏิรูประบบการศึกษาไทยรวมกับ กปปส. หลังตกลงมาสู่ลำดับที่ 7-8 ของกลุ่มอาเซียน
"เหลิม"ลั่นสลายชุมนุมช่วงที่มีคนน้อย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ลก่าวว่า นายสุเทพ ได้นำปูนมาโบกปิดหน้าทำเนียบฯนั้น ไม่เป็นไร ใช้รถแบคโฮโขก 3 ที ก็เสร็จเรียบร้อย จากนี้ต่อไปเวทีไหนคนน้อย ตนตะปบทันที จับในข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกีดขวางการจราจร
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายสุเทพ ประกาศไว้ว่า วันที่ 14–16 ก.พ.ที่ผ่านมา จะระดมมวลชนกดดันให้นายกฯ ลาออก มั่นใจว่าจะมีประชาชนเต็มไปหมด แต่เอาเข้าจริงสูงสุดมีแค่ 1 หมื่นคน แล้วเริ่มลดลง เมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ. มีประมาณ 7 พันคน ตนรับไม่ได้ที่กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และตน เป็นคำพูดที่เลวทราม นายสุเทพ อารมณ์เสีย ไฟธาตุแตก ไม่เป็นไรหากนายสุเทพ รักทำเนียบฯ ตนจะรื้อเวทีอื่นที่ไม่มีคน
“กปปส.ไปทำเนียบฯ แพ้แล้ว เดี๋ยวมีจังหวะจะลักหลับ ผมจะยึดปทุมวัน ลุมพินี อโศก และ ราชประสงค์ บ่ายวานนี้ (17 ก.พ.) ผมจะประชุม ขอเตือนอีกครั้ง พี่น้องที่มาร่วมชุมนุม ท่านกลับบ้านเถอะ นายสุเทพไม่ได้ปฏิรูปการเมือง ทำได้แค่นี้ แล้วทำด้วยความสะใจไร้กฎกติกา ฉะนั้นที่ผมเคยบอกว่าจะไม่เข้าไปม็อบนั้น เปลี่ยนแล้ว อาจจะเข้าไปใน 2 ชั่วโมงก็ได้”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
สำหรับการขอคืนพื้นที่ 5 จุดนั้น ตนเริ่มเจรจาตลอด โดยการขอคืนพื้นที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจ ฝ่ายการเมืองไม่ควรไปยุ่ง หากไปยุ่งมากจะหายนะ สุดท้ายประชาชนจะบอกตนว่า ควรทำอย่างไร เพราะมีคนจ้องเล่นงาน ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้เวลา 14.00 น. วานนี้ (17 ก.พ.) ตนได้ประชุมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจ เรื่องการขอคืนพื้นที่
นัดนักข่าว 08.00 น.วันนี้
ต่อมาเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่เคยบอกว่า นายกฯ จะเข้าทำเนียบฯได้วันไหน ไม่เคยนัดหมายใครที่ทำเนียบฯ ทำเนียบฯ เป็นของประชาชนทุกคน แต่ถ้าใครจะปิด ก็ปิด แต่อย่าพูดจาไร้วุฒิภาวะ สักวันตนจะลากไส้ นายสุเทพ ถ้ารู้สึกว่าไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้ว จะบอกให้รู้ให้หมดว่า นายสุเทพ ทำอะไรใครไว้บ้าง ทำให้ครอบครัวใครต้องหายนะ
ทั้งนี้ ตนยังยืนยันการนัดหมายผู้สื่อข่าว ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในวันที่ 18 ก.พ. เวลา 08.00 น. ตามที่เคยนัดหมายไว้ แล้วก่อนหน้านี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไปยึดเวทีที่ทำเนียบฯ เลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ รอบนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมมาเยอะ ตนไม่ได้ขู่ ส่วนจะประกบทำเนียบฯและพื้นที่อีก 5 จุด พร้อมกันเลยหรือไม่ ตนไม่บอก แล้วแต่สถานการณ์
ถ่ายสดช่อง 9 ช่อง11โชว์ยึดพื้นที่คืน
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านเผยแพร่ข่าวสารและประชาสัมพันธ์ ใน ศรส. เปิดเผยว่า ร.ต.อ. เฉลิม ได้มอบหมายกรมประชาสัมพันธ์ จัดรายการพิเศษ ชื่อ“ภารกิจ คืนความสงบ กทม.”หรือ Peace for Bangkok Mission โดยให้ออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 หรือ NBT ซึ่งจะเป็นสถานีแม่ข่ายในการถ่ายทอดสดภารกิจของ ศรส. ในการขอคืนสถานที่ราชการ และถนน ตามเป้าหมายต่างๆ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น จะมีสถานีโทรทัศน์ที่จะออกอากาศสด รายการพิเศษ ของ ศรส. เป็นหลัก2 สถานี คือ ช่อง 11 และ ช่อง 9 ส่วนสถานีโทรทัศน์อื่น ๆ ที่ต้องการขอเชื่อม หรือเกี่ยวสัญญาณไปออกอากาศ สามารถประสานขอความร่วมมือไปได้ที่ ช่อง 11 หรือ ติดต่อผ่านฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ของ ศรส.
ศรส.สั่งปฏิบัติการทวงคืน 5 พื้นที่ชุมนุม
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการ ศรส. แถลงผลการประชุมศรส. ถึงความคืบหน้าของการเข้าตรวจสอบพื้นที่การชุมนุม เพื่อติดตามจับกุมแกนนำ กปปส. ที่ศาลได้ออกหมายจับ และการจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้า และการเปิดใช้พื้นที่ส่วนราชการ และถนนสาธารณะนั้น ศรส.ได้กำหนดพื้นที่ที่จะปฏิบัติการรวม 5 แห่ง ดังนี้ คือ 1.บริเวณทำเนียบรัฐบาล2. บริเวณศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ 3. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 4. กระทรวงพลังงาน และ 5. กระทรวงมหาดไทย โดยได้กำหนดอัตรากำลังเข้าปฏิบัติ หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และยุทธวิธี ซึ่งจะเป็นไปตามสถานการณ์เพื่อความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ การขอเปิดพื้นที่ทั้ง 5 จุด จะดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยแต่ละพื้นที่จะใช้ยุทธวิธีแตกต่างกัน ส่วนจะดำเนินการวัน เวลาใด จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อความโปร่งใส แต่จะปฏิบัติการเฉพาะเวลากลางวันเท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าในการประกาศรายชื่อท่อน้ำเลี้ยงม็อบ กปปส. นายธาริต กล่าวว่า ศรส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังดำเนินการอยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และเรียกเข้ามาชี้แจง แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้ จะถูกระงับการทำธุรกรรม ในส่วนของ 61 รายชื่อ บุคคลที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส. ก็จะสามารถเปิดเผยได้เร็วๆ นี้ เช่นกัน
ระดมตำรวจ 25,000 นายปฏิบัติการ
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ขอเปิดพื้นที่เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ 5 แห่ง ภายในสัปดาห์นี้ โดยมอบหมายตำรวจระดับผู้บัญชาการ เป็นหัวหน้าชุดเจรจา
ส่วนระหว่างการเจรจาจะมีการจับกุมแกนนำผู้ชุมนุมที่มีหมายจับหรือไม่นั้น คงต้องหาแนวทางที่เหมาะสม
สำหรับกำลังเจ้าหน้าตำรวจที่จะใช้ในภารกิจครั้งนี้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร.เปิดเผยว่า มีจำนวนขั้นต่ำ 15,000 นาย และ มีกำลังเสริม standby พร้อมปฏิบัติหน้าที่ อีก 10,000 นาย รวม เป็น 25,000 นาย
"ประยุทธ์"สั่งกำลังพลสนับสนุนศรส.
ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ.) ได้ประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันพร้อมกำชับให้ผู้บังคับหน่วยได้เน้นย้ำกำลังพลที่ลงไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของทางศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) โดยให้ปฏิบัติงานตามกรอบที่เคยปฏิบัติ พร้อมติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มกปปส. ทุกเวที ร่วมถึงการปฏิบัติการขอพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมของ ศรส. ในสัปดาห์นี้ อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลประชาชนทุกฝ่ายให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด และไม่ให้มีการใช้ความรุนแรง
ทั้งนี้ ทางพล.อ.ประยุทธ์ ได้มีความเป็นห่วงใน 2 เวทีหลัก ที่อาจจะสุ่มเสี่ยงในการเกิดการปะทะ คือ เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เวทีของกลุ่ม คปท. ถนนราชดำเนิน ตลอดจนกระทรวงมหาดไทย สำหรับการดูแลสถานที่ตั้ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล ทหารยังคงประจำอยู่ในทำเนียบฯ เพื่อดูแลสถานที่ และให้หน่วยอื่นๆ สนธิกำลัง สับเปลี่ยนหนุนเวียนตรวจตรา และประจำจุดตรวจต่างๆ
"หลวงปู่"เปิดทางผู้ตรวจการฯ-กสม.เข้าทำงาน
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ ที่บ้านทรงไทย ข้าง ปตอ.พัน 1รอ. ถนนแจ้งวัฒนะ นายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายขรรค์ชัย คงเสน่ห์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ หลวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. แจ้งวัฒนะ เพื่อเจรจาขอเปิดพื้นที่ให้พนักงาน และข้าราชการเข้าทำงานในศูนย์ราชการอาคาร บี
นายสงัด กล่าวว่า ยืนยันว่า หน่วยงานของตนเป็นหน่วยงานอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม ทางสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังเคยท้วงติงเรื่องการ ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงความไม่เหมาะสม วันนี้จึงขอโอกาสให้หลวงปู่พุทธะอิสระ อนุญาตให้ข้าราชการได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เหมือนเช่นหน่วยงานอื่นๆ เช่นเดียวกับ กสม. ที่ต้องการขอเปิดพื้นที่ทำงานเช่นกัน
ด้านหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ยินดีให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยงานที่ทำงานเพื่อประชาชน เข้าใช้พื้นที่ทำงาน แต่ขอให้นำรายชื่อและข้าราชการทุกคนมาให้ เพื่อตรวจสอบบุคคลเข้าออกทำงานภายในหน่วยงานทั้งสองแห่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และในวันพุธที่ 19 ก.พ.นี้จะเดินทางไปสำนักงานตรวจการแผ่นดินพร้อมทนายความเพื่อเรียกร้องขอความเป็น ธรรมกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับโดยมิชอบ เป็นการทำเกินหน้าที่ และจะเข้ายื่นเรื่องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนด้วย กรณีที่ผู้ชุมนุมถูกละเมิดสิทธิ
หลวงปู่ฯ กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ (18ก.พ.) จะมีบุคคลสำคัญระดับที่สามารถชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้ จะเข้ามาพบ เพื่อพูดคุยถึงแนวทางสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้เดินสายพบปะพูดคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหลายฝ่ายแล้ว รวมถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และใน 2-3 วันนี้ จะมีข่าวดีแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องใด
“สมุนแม้ว”ผุด “ขบวนการ ท้าชน กปปส.
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการจัดตั้ง“ขบวนการคนอีสานปกป้องประชาธิปไตย”ว่ามีแนวคิดมาจากการหารือร่วมกับกลุ่ม ส.ส.อีสาน ในยามภาวะบ้านเมืองไม่มีประชาธิปไตย จึงเห็นควรจัดตั้งกลุ่มดังกล่าว จากนี้พวกเราจะเพื่อดำเนินกิจกรรมทุกวิถีทางให้มีประชาธิปไตยแท้จริงให้ได้ เบื้องต้นวันที่ 22 ก.พ. จะไปสักการะดวงวิญญาณ ขุนพลภูพาน เตียง ศิริขันธ์ ที่ลานอนุสาวรีย์ภูพาน จ.สกลนคร
“เราจะจัดเวทีกิจกรรมให้ความรู้ประชาชนไปเรื่อยๆ เผลอๆ หลังจากนั้นอาจจะได้เข้าไปจัดการกับ นายสุเทพในกรุงเทพฯ อย่าลืม ส.ส.ภาคใต้มีไม่กี่คนยังทำแบบนี้ได้ แต่ส.ส.อีสานมีเยอะกว่า พวกเขายึดศูนย์ราชการได้ เราก็ไปเปิดได้ องค์กรอิสระเฮงซวย ไม่ทำตามกฎหมาย เรามีสิทธิ์ไปปิดได้เช่นกัน”นพ.เชิดชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนการจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวได้ไปหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า ไม่ได้ปรึกษา หรือแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบ พวกเราทำกันเอง ไม่ได้ทำในนาม ส.ส. แต่ทำในนามประชาชนคนอีสาน ทุกคนมาร่วมได้ ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง
เมื่อถามว่าในที่ประชุมมีแนวคิดถึงขั้นจะพามวลชนมาเผชิญหน้ากันหรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย ไม่ต้องห่วงเราจะสร้างเครือข่ายระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอไปเรื่อยๆส่วนการจะเข้ากรุงเทพฯนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์
ด้าน นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาอดีต ส.ส.ภาคเหนือได้หารือเตรียมจัดตั้งกลุ่มมาเคลื่อนไหวเหมือน ส.ส.ภาคอีสาน ตอนนี้ให้เริ่มที่อีสานก่อน การประชุมพรรควันที่ 18 ก.พ.จะมีการหารือถึงรูปการการจัดตั้ง การเปิดตัวอีกครั้ง ในอนาคตทั้งภาคเหนือ อีสาน จะไหลรวมกันเป็นกลุ่มๆเดียวกัน อาจใช้ชื่อ อีสานล้านนา
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความกังวลว่าหากถึงจุดหนึ่งคงจะมีการเผชิญหน้าหรือไม่ นายสุรสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อถึงจุดๆหนึ่งต้องเกิดพร้อมปฏิเสธด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งของกลุ่ม ส.ส.อีสาน หรือ ส.ส.ภาคเหนือ มันเป็นความรู้สึกของพวกเราล้วนๆ ถ้าไม่ติดรัฐธรรมนูญมาตรา1 ผมคนหนึ่งก็ไม่อยากอยู่กับตุลาการศาลพวกนี้ ถ้าไม่ติดมาตรา1 คงจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่ก็ต้องอยู่ในผืนแผ่นดินไทย กล้าทำประชามติถามประชาชนว่า ประชาชนต้องการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้กันหรือไม่
“สุเทพ” ลั่น 19 นี้แตกหัก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ. ขอระดมทุกคนรบเพื่อแตกหักกับรัฐบาล และขอให้ กปปส. ทั่วประเทศเดินทางมาชุมนุมพร้อมกับคนกรุงเทพฯ ในทุกเวทีของ กปปส.ในกรุงเทพฯ เพราะรัฐบาลอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะชาวนา ธนาคารและระบบเศรษฐกิจเจ๊ง เพื่อให้อำนาจเป็นของประชาชนและไม่ให้มันมีแผ่นดินอยู่ ซึ่งเรารอเวลานี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับ ที่ชาวนาจะนัดมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลเพราะไม่ได้เงินจากโครงการรับจำนำข้าว อีกทั้งวันนี้ชาวนาได้ไปสำนักปลัดกลาโหมขอพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์และไม่ออกมาพบชาวนา และให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกฯ และรมว.คลัง มาเจอชาวนาก็ต้องวิ่งหนี ถือเป็นรัฐมนตรีคลังคนแรกที่ถูกชาวนาไล่ และจะเป็นรัฐบาลอยู่ได้อย่างไร ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นลูกคนอยู่ ขอให้กลับมาบัญชาเกมจะได้รู้ดำรู้แดง มิเช่นนั้นจะเรียกว่าลูกหมาอีกคน