xs
xsm
sm
md
lg

เปิดลับ...ฉากรบศึกวิชาไสยศาสตร์ “ทักษิณ”ตัดกรรม“สุเทพ”แก้เคล็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ยุทธวิธีในการชัทดาวน์กรุงเทพของกลุ่มกปปส. จัดเวทีหลักกระจายทั่วพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่กทม.ถึง 7 แห่ง หวังจะเป็นหมัดน็อกพิชิตรัฐบาลรักษาการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เพราะกำลังพลที่ไม่แน่นอน และอารมณ์ของมวลชนเกาะกุมไม่ได้แน่ วิธีดาวกระจายของการชุมนุมโดยการจัดตั้งเวทีจำนวนมากขนาดนี้ อาจจะผิดทั้งทางทฤษฎีและยุทธวิธี ทำให้เวทีที่กระจัดกระจายควบคุมได้ยาก บวกกับปริมาณของกลุ่มผู้ชุมนุมที่แต่ละเวทีลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเวลาช่วงกลางวันก่อนช่วงเลิกงาน และกลางดึก
ทั้งยังเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายรัฐบาลฉวยโอกาสก่อกวนได้ง่าย บ่อยครั้งที่หลัง“กำนันสุเทพ”ปราศรัยจบ ทำให้กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีและบรรดามือที่สามสบโอกาสใช้เป็นช่องในการทำลายกลุ่มผู้ชุมนุมได้อย่างง่ายดาย เพราะที่ผ่านมาบริเวณสะพานหัวช้าง เวทีปทุมวัน,โรงพยาบาลราชวิถี บริเวณเวทีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, เวทีแจ้งวัฒนะ,เวทีห้าแยกลาดพร้าว และสวนลุมฯ ต่างโดนประทัดยักษ์ ลูกระเบิด m79 และการก่อกวนทุกรูปแบบมาแล้ว
สุดท้ายนายสุเทพ หัวเรือใหญ่น่าจะเล็งเห็นเป้าที่ไร้วี่แววที่จะประสบความสำเร็จจากการหยุดกรงเทพฯ ตามยุทธวิธีตั้งเวทีในจุดเชื่อมถนน และพื้นที่ต่อสำคัญในกทม. เพราะเวลาผ่านไปเดือนเศษๆ เห็นแต่ความสูญเสีย ไม่มีแสงสว่างของชัยชนะกระพริบมาเลย จึงตัดสินใจยุบเวทีห้าแยกลาดพร้าว และเวทีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิลง
อย่างไรก็ดี การยุบสองเวทีดังกล่าวน่าจะเกี่ยวกับการจัดสรรตัวแกนนำด้วย เพราะอย่างที่รู้กันว่า นายสุเทพ คือแกนนำคนสำคัญเพียงคนเดียวที่มวลชนให้ความสนใจ และสามารถดึงดูดจำนวนของมวลชนได้เป็นอย่างดี หากไม่นับรวม “แก๊ง 4 กุมารสายฮาร์ดคอร์ด”อย่าง นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ นายชุมพล จุลใส นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และนายสกลธี ภัททิยกุล ที่มักจะออกรบแนวบู๊จนได้ใจมวลชน เพราะฉะนั้นระยะทางที่ห่างกันมากเกินไปของ 2 เวทีดังกล่าว ย่อมไม่ เป็นผลดีต่อทั้งความปลอดภัย และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแต่ละวัน
ทำให้ขณะนี้ กปปส. เหลือเวทีเพียงแค่ 4 เวที ที่ตั้งในแนววงกลมจากอโศกมาราชประสงค์ เดินต่อไปปทุมวัน และสวนลุมพินี ได้อย่างง่ายดาย ระยะทางไม่ไกลกันมาก น่าจะทำให้นายสุเทพสามารถวิ่งรอกไปเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจมวลชนแต่ละเวทีไม่ยากนัก
**ทุกวันนี้ทำให้นายสุเทพ สามารถขึ้นปราศรับได้วันหนึ่งถึง 3 เวที และควบรวมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ด้วยการสั่งเรียกประชุมแกนนำทุกเวทีทุกวัน
ด้านเวทีแจ้งวัฒนะ ของ หลวงปู่พุทธะอิสระ ต้องยอมรับว่ากำลังกลายเป็นม้านอกสายตาของกลุ่ม กปปส. เพราะนายสุเทพ มองว่าพื้นที่ศูนย์ราชการตรงนั้น ไม่มีความจำเป็นจะต้องปักหลักพักค้างอีกต่อไป อีกทั้งสมรภูมิรบแห่งนี้ก็ไม่ได้เอื้อต่อการรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด และสิ่งที่สังเกตุได้อย่างชัดเจนคือ นายสุเทพไม่เคยเดินทางไปปราศรัย ณ จุดนี้เลย
ซึ่งนายสุเทพ พยายามเจรจากับหลวงปู่พุทธะอิสระหลายต่อหลายครั้ง เพื่อความปลอดภัยของมวลชนให้หลวงปู่พุทธะอิสระ ตัดสินใจยุบเวทีดังกล่าวและมาร่วมกับอีก 4 เวทีที่เหลือ แต่ หลวงปู่พุทธะอิสระ ยืนกรานว่า ยังไงก็จะไม่มีทางคืนพื้นที่ให้กับศูนย์รักษาความสงบของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อย่างแน่นอน
เมื่อวันแห่งความรักที่ผ่านมา ศรส.ตัดสินใจสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ถนนราชดำเนิน ตั้งเเต่แยกสวนมิสกวัน ถึงแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยใช้เวลากว่า 1 ช.ม. สามารถขอคืนพื้นที่ได้สำเร็จ โดยใช้ตำรวจจากสันติบาล พร้อมรถ 6 ล้อ รถยก หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี สุนัขตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่ รวมทั้งรื้อสิ่งกีดขวาง อาทิ เต็นท์ป้ายข้อความต่างๆ ลวดหนามตาข่าย ยางรถยนต์ ในพื้นที่ดังกล่าว
แต่เบื้องหลังการเข้ายึดพื้นที่ในครั้งนี้ กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อทาง คปท.ปฏิบัติการแฉว่า การเข้าเคลียร์พื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ได้มีการประสานกับแกนนำ คปท. และกลุ่ม กปท.เอาไว้ก่อนแล้ว และทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกัน จะให้คืนพื้นที่เฉพาะ ถ.ราชดำเนินกลาง ช่วงแยกมิสกวัน ถึงสะพานมัฆวานฯ
เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว มีกลุ่มอิสระของอาชีวะไม่ขึ้นตรงกับ คปท. และกองทัพธรรม เข้าไปปักหลัก และคุมสถานการณ์มา 1-2 เดือนแล้ว และเป็นพวกหัวรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาต่อการจัดการพื้นที่ โดยมีสัญญาลูกผู้ชายว่า การกระชับพื้นที่ของตำรวจครั้งนี้ จะไม่แตะกับคปท. ซึ่งตั้งเวทีอยู่ตรงสะพานชมัยมรุเชฐ ติดทำเนียบรัฐบาลซึ่งรวมถึงเวทีของกปท. ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้สามารถเกิดข้อสงสัยต่อปฏิบัติการของศรส. เพราะถ้าเราจะมองเกมของรัฐบาลภายใต้การปฏิบัติการของศรส. จะเกิดคำถามขึ้นทันทีว่า เหตุใดรัฐบาลถึงไม่ยึดพื้นที่โดยรอบ และเอาทำเนียบรัฐบาลกลับมาเป็นศูนย์บัญชาการของรัฐบาลไปเลย ในเมื่อการยึดพื้นที่ครั้งนี้ ก็เป็นโอกาสแล้ว แต่กลับให้ ร.ต.อ.เฉลิม เข้าไปแสดงความกล้าประกาศชัยชนะในทำเนียบรัฐบาล ก่อนกลับออกมา และให้พื้นที่ดังกล่าวถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดคืนไปอีก
**เบื้องหลังการเข้าเหยียบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลของเป็ดเหลิมเพียงไม่กี่นาที เมื่อวันมาฆะ / วาเวลนไทน์ แท้จริงแล้วคือฉากหนึ่งที่ได้กำหนดขึ้น ในพิธีกรรมไสยศาสตร์มนต์ดำ ของทักษิณ และพวกที่ประเทศพม่า ตามแบบฉบับหมอผีหม่อง
ตามข่าวความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยา ได้เดินทางไปพบ ซาน ซาร์นี โบ หมอดูชื่อดังในนครย่างกุ้ง ของเมียนมาร์ เพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้ และขอคำแนะนำที่จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถเดินทางกลับบ้านเกิดเข้าประเทศไทยได้อีกครั้ง นอกจากนี้ทั้งสองคน ยังเดินทางไปยังเจดีย์กาบาเอ เพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากสถานที่นี้เคยเป็นสถานที่ที่มีการชำระพระไตรปิฎก ครั้งที่ 6 มาก่อน
และมีการคาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ไปประกอบพิธีกรรมในเมืองมัณฑะเลย์ เพื่อขับไล่แกนนำ กปปส.ได้แก่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ หลวงปู่พุทธะอิสระด้วย
**ความเชื่อที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกของคนในตระกูลชินวัตร จึงเป็นที่มาของคำตอบในเรื่องนี้ เพราะในวันเดียวกับที่ เหลิมได้เข้าไปเหยียบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะนั้นอยู่ในนครย่างกุ้ง และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สถานที่ ๆ เกิดขึ้นคือ จิ๊กซอว์ชั้นดี ที่ทำให้เชื่อมโยงไปถึงประวิติศาสตร์ คือในวันเดียวกันแตกต่างแค่ปี คือวันแห่งประวัติศาสตร์ที่พม่าสามารถนำทหารมาตีกรุงศรีอยุธยาแตก และทำให้ถูกพม่ายึดเป็นเมืองขึ้นได้สำเร็จ
พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะกำลังจินตนาการว่า ตัวเองคือนายพลของพม่า และส่งลูกน้องทั้ง “น้องปู”และ"เป็ดเหลิม" เป็นทหารชั้นผู้น้อย มายึดพื้นที่จาก กบฎสุเทพ และกปปส.
**และในช่วงวันที่ 17-21 ก.พ.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะลงมือทำพิธีสะเดาะเคราะห์ครั้งใหญ่อีกครั้ง นั่นก็คือการส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปเหยียบพื้นที่ทำเนียบฯ เป็นคนที่สอง และก็ช่างบังเอิญเหลือเกินเมื่อ ศรส.ก็ออกมาประกาศจะขอคืนพื้นที่ทำเนียบฯ ราชดำเนิน แจ้งวัฒนะ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพลังงาน ในช่วงเวลาเดียวกันทันที
ส่วนฟากของ กปปส. การประกาศยึดพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลคืน “กำนันสุเทพ” เป็นแม่ทัพยกกำลังมวลชนไปตั้งแต่เช้า เมื่อวานนี้สามารถเข้าครอบครองพื้นที่โดยรอบทำเนียบฯได้อย่างง่ายดายไร้การต่อต้านจากขี้ข้าทักษิณ พิธีกรรมการประกาศยึดทำเนียบฯครั้งนี้ น่าสนใจที่กลุ่มกำนันนำเอาปูนซีเมนต์มาเททับประตูทางเข้าหลักของทำเนียบฯไว้ หากมองในทางไสยเวท ก็จะได้คำตอบว่าเป็นการสะกดปิดตาย ยึดชัยภูมิแห่งอำนาจที่นี้ไว้ ไม่ให้ฝ่ายทักษิณมากล้ำกรายได้อีก
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการต่อสู้ที่น่าจับตาเป็นพิเศษในห้วงนี้ เป็นเวทีแจ้งวัฒนะ เพราะเป็นจุดล่อแหลมเสี่ยงภัยอันตรายจากการถูกตำรวจและชายชุดดำโจมตีมาหลายครั้ง เนื่องจากขณะนี้กลุ่มอาชีวะนอกคอกจากคปท. ได้เคลื่อนย้ายมาปักหลักร่วมกับหลวงปู่พุทธะอิสระ ที่แจ้งวัฒนะ เพื่อเตรียมออกแรงบู๊ล้างผลาญกับรัฐบาลแล้ว
**สัปดาห์ที่จะถึงนี้ หากร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้ดีแต่ปาก คงจะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่เกมการเมืองเริ่มร้อนระอุอีกครั้ง และเกมนี้ กปปส. อาจจะได้ฮีโร่คนใหม่เป็นหลวงปู่พุทธะอิสระ และเด็กๆอาชีวะ ก็เป็นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น