xs
xsm
sm
md
lg

เผาโกดังข้าวกลบทุจริต ชาวนาผูกคอตายอีก นัดขี่รถไถบุกกรุง19ก.พ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"หมอวรงค์"แฉรัฐเผาโกดังกลบโกงข้าว เชื่อลามอีกหลายโกดังแน่ หลังชาวนาขู่บุกตรวจสอบ เผย 3 ปี โกดังเก็บข้าวถูกไฟไหม้แล้ว 9 ครั้ง สภาทนายความฯ วอนชาวนาอย่าบุกโกดัง หวั่นเสียท่า เสนอตัวฟ้องให้เอง พร้อมดึงศาลเข้ามาร่วมตรวจสอบ ชาวนาผูกคอตายอีก 1 ราย เครียดหนี้บาน ไม่ได้เงินจำนำข้าว มติชาวนา 15 จังหวัดเหนือและกลาง นำรถไถเข้ากรุง 19 ก.พ.นี้ ทวงหนี้ค่าข้าว แย้มรถอาจเสียที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้านชาวนาพิจิตรถูกข่มขู่ หลังขึ้นเวที กปปส.

จากกรณีที่กลุ่มชาวนาซึ่งเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องเงินที่รัฐบาลค้างจ่ายจากโครงการจำนำข้าว โดยมีการชุมนุมกันอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี และได้ประกาศว่าจะเดินสายตรวจสอบข้าวในสต๊อกรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลยักย้ายถ่ายเทข้าวในสต๊อก และยังมีกระแสข่าวจากนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้จับตาสต๊อกลม และให้ระวังการเผาโกดังข้าว เพื่อปกปิดการทุจริต ตามที่มีการเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุด วานนี้ (11 ก.พ.) นพ.วรงค์ได้เผยแพร่ข้อความในเพจ Warong Dechgitvigrom ระบุไว้ว่า “ผมเพิ่งจะแถลงข่าวเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า จากนี้ไปให้ระวังโกดังไฟไหม้ ไม่ทันขาดคำครับเช้านี้ (วันที่ 11 ก.พ.) ไฟไหม้โกดังเก็บข้าวสารรัฐบาลแล้วครับ เป็นโกดังหลังที่พัง คลังสินค้ากลาง ลำนารายณ์หลังที่ 1 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกในปี 2555 อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ไหม้แล้วจ้า โกดังข้าวรัฐบาล ตามคาดและเชื่อว่าจะตามมาเรื่อยๆ ครับ”

จากนั้น นพ.วรงค์ได้เปิดแถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า มีการทำลายข้าวในโกดังของรัฐบาล หลังจากที่ตนได้เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเผาโกดังเพื่อทำลายหลักฐานข้าวเน่า และแจ้งข้าวหายทำสำนวนอ่อนเพื่อให้หลุดคดี โดยล่าสุดมีการเผาโกดังที่ลพบุรี คือ โครงการข้าวเปลือกนาปี 2555 คลังสินค้ากลางลำนารายณ์ หลังที่ 1 อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี โดยโกดังนี้เคยมีประวัติพังทลายลงมาแล้ว และเพิ่งเกิดไฟไหม้ในเวลาประมาณ 8 โมงเช้า วานนี้ (11 ก.พ.) และเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน คือกลบเกลื่อนการทุจริตด้วยการเผาโกดัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องประณามรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ใช้งบประมาณกว่า 7 แสนล้าน ขาดทุนมหาศาล และยังมีการทุจริตในทุกขั้นตอนด้วย

ทั้งนี้ นพ.วรงค์ยังได้โพสต์ข้อความและภาพอ้างว่าโกดังที่มีการลักลอบวางเพลิง เป็นโกดังโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งเป็นโกดังหลังที่พัง เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2557 คลังสินค้ากลาง หลังที่ 1 ต.ลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และพบว่า ภายในพบกระสอบข้าวกระจัดกระจาย ขึ้นรา เน่า ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วโกดัง ซึ่งยังมีตัวมอดอยู่จำนวนมากมายที่กำลังกัดกินเมล็ดข้าว

***3ปีไฟไหม้โกดังข้าว9ครั้งเหนือจรดใต้

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการรายวัน พบว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้โกดังเก็บข้าวของรัฐบาลเป็นจำนวนมากตั้งแต่เหนือจรดใต้ เริ่มจากวันที่ 8 ส.ค.2555 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไฟไหม้โรงสีที่รับจำนำข้าว, วันที่ 25 พ.ย.2555 จ.มหาสารคาม ไฟไหม้โรงสีที่รับจำนำข้าว โรงสีข้าวทองมหาสารคาม ที่ได้เปิดเป็นจุดรับจำนำข้าวเปลือกประจำปีการผลิต 2555/2556 ภายในเตาอบมีข้าวเปลือกอยู่ราว 400 ตัน คาดว่าจะเสียหายทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.8 ล้านบาท, วันที่ 27 พ.ย.2555 จ.ศรีสะเกษ ไฟไหม้โรงสีที่รับจำนำข้าว โรงสีบุญฟ้า ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) นำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมาฝากเก็บไว้ ไม่สามารถประเมินค่าความเสียหาย

วันที่ 5 ม.ค.2556 จ.เพชรบูรณ์ ไฟไหม้โรงสีที่รับจำนำข้าว เกิดเหตุที่โกดังเก็บข้าวเพชรธัญกิจ หมู่ 10 ต.บ้านโตก อ.เมือง เป็นโรงสีที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือแห่งหนึ่ง ประเมินค่าเสียหาย ข้าวสารที่เก็บไว้ 10 ล้านบาท แต่ข้าวในโครงการรับจำนำไม่ไหม้, วันที่ 2 มี.ค.2556 จ.พิษณุโลก ไฟไหม้โรงสีที่รับจำนำข้าว โรงสีข้าว เจริญพาณิชย์ ตั้งอยู่เลขที่ 59/1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยเริ่มรับจำนำตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นมา มีข้าวเปลือกอยู่เต็มโกดัง, วันที่ 22 มี.ค.2556 จ.สระบุรี ไฟไหม้โรงสีเสาไห้ โรงสีข้าว ของบริษัท เสาไห้ ไรซ์มิลด์ จำกัด ม.3 ต.เสาไห้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ประเมินความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท, วันที่ 24 มิ.ย.2556 เพลิงไหม้ ภายในโกดังเจียเม้งอยุธยา ในตำบลศาลาลอย อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ทำให้ข้าวสารถูกไฟไหม้เสียหายกว่า 200 กระสอบ, วันที่ 11 ธ.ค.2556 ไฟไหม้โรงสีข้าวในพื้นที่หมู่ 4 ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้าวเปลือกที่อยู่ในเครื่องอบมีประมาณ 30 ตัน เสียหายไปประมาณ 20 ตัน และและล่าสุดโกดังที่ลพบุรี คือ โครงการข้าวเปลือกนาปี 2555 คลังสินค้ากลางลำนารายณ์ หลังที่ 1 อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี

***สภาทนายความฯ เบรกชาวนาห้ามบุกโกดัง

วันเดียวกันนี้ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางไปหารือกับกลุ่มชาวนาที่ปักหลักอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า ต้องการมาห้ามกลุ่มชาวนาไม่ให้ไปบุกทำลายตรวจโกดังและคลังเก็บข้าวสาร แต่ให้เฝ้าสังเกตุการณ์ และปิดล้อมอยู่ด้านนอกเท่านั้น เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะจะเป็นการบุกรุก และอาจเข้าข่ายการทำลายทรัพย์สินได้

ส่วนแนวทางในการดำเนินการ สภาทนายความฯ จะเป็นตัวแทนในการฟ้องร้อง และยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขออำนาจและให้ศาลเข้าไปตรวจค้นข้าวในโกดังและคลังเก็บว่ามีอยู่จริงหรือไม่แทน

ทั้งนี้ นายเดชอุดมได้แสดงความมั่นใจว่า จะชนะคดีแน่นอน เพราะข้ออ้างของรัฐบาลที่ไม่สามารถหาเงินมาได้นั้น ฟังไม่ขึ้น จึงจะพิจารณาจากสัญญาหรือใบประทวนของชาวนาที่เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินแล้ว รัฐไม่จ่ายเงินให้ โดยในการฟ้องร้องจะฟ้องคู่สัญญาคือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายระวี รุ่งเรือง ประธานศูนย์ข้าวชุมชนภาคตะวันตก กล่าวว่า มติแกนนำต้องการเข้าไปดูโกดังข้าวในวันที่ 12 ก.พ.2557 แต่เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจน จะหาคำแนะนำของสภาทนายความฯ ไปหารือกันก่อน ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่ยังอยากรู้ว่าในโกดังมีข้าวอยู่จริงหรือไม่

***อคส.ยันบุกเปิดคลังผิดกฎหมาย

นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า การจะเข้าไปตรวจสอบหรือเปิดดูข้าวในโกดังหรือคลังกลาง ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือกุญแจ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดีกรมการค้าภายใน และธ.ก.ส. ก่อน ไม่เช่นนั้น คงไม่สามารถให้ผู้ใดเข้าไปตรวจสอบได้ ซึ่งหากเกิดเหตุอะไร ผู้บุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายและหากข้าวหายหรือเสียหายก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย โดยจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการประสานงานจากแกนนำชาวนาหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสั่งการให้เปิดโกดังหรือคลังเก็บข้าวในพื้นที่ใด

***"เต้น"ปัดรัฐบาลเผาหนีชาวนาสอบคลังข้าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กรณีเกิดเพลิงไหม้โกดังเก็บข้าว ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งอยู่โครงการรับจำนำข้าวปี 2555 เก็บข้าวพันธ์ปลายข้าวเอวันเลิศ มีข้าวจำนวน 43,500 กระสอบ แต่พบความเสียหายไม่เกิน 200 กระสอบ และการจากตรวจสอบของตำรวจพิสูจน์หลักฐานคาดว่าพื้นที่ใกล้เคียงเผาไร่อ้อย ลามเข้ามาในโกดัง ซึ่งต้องรอตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝีมือรัฐบาล ตามที่อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ พยายามโยงว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อไม่ให้ชาวนาได้เข้าไปตรวจสอบโกดังข้าว ขอพรรคประชาธิปัตย์ยุติการใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลได้แล้ว ซึ่งโกดังเก็บข้าว อคส. และเจ้าของโกดัง ทำประกันไว้แล้ว

***ชาวนาผูกคอตายอีก1 สังเวยจำนำข้าว

ร.ต.ท.สุกิจ กาวีอ้าย พนักงานสอบสวนสภ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร รับแจ้งจากนางสมจิตต์ กลิ่นซ้อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านบึงหล่ม ต.คลองน้ำไหล ว่า มีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 6 บ้านบึงหล่ม ต.คลองน้ำไหล จึงไปตรวจสอบพบศพนางบุญมา สระทองอ้วน อายุ 42 ปี อาชีพชาวนา ลำคอมีร่องรอยถูกรัดโดยรอบ ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย

สอบสวนนายเฉลิม สระทองอ้วน อายุ 45 ปี สามีนางบุญมาให้การว่า เช้ามืดวันนี้ขณะที่ตื่นนอนและกำลังออกไปทุ่งนา แต่หานางบุญมาไม่เจอ เมื่อเดินไปตามทางข้างบ้านก็พบนางบุญมานุ่งผ้าถุง เสื้อลายดอก ใช้สายเครื่องสูบน้ำเข้านาแขวนคอกับต้นมะขามข้างบ้าน จึงรีบนำตัวลงมา แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้

นายเฉลิมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางบุญมาบ่นเรื่องที่เป็นหนี้เงินกองทุนหมู่บ้านที่กู้ยืมกองทุนเงินล้านมา 4 หมื่นกว่าบาท เพื่อนำมาลงทุนทำนา ซึ่งขณะนี้ครบกำหนดส่งคืนแล้ว แต่ผู้ตายยังหาเงินได้ไม่ครบ อีกทั้งเงินจากโครงการรับจำนำข้าว 163,556.53 แสนบาท ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะได้เงิน ประกอบกับเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ไปตรวจร่างกายพบเป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย ทำให้เกิดความเครียด จนผูกคอตายหนีปัญหา ส่วนเงินทำศพ ก็ต้องหยิบยืมมา และใช้เงินเพื่อนบ้านที่ร่วมใส่ซองทำบุญเพื่อจัดพิธี

ด้านนางสมจิตร กล่าวว่า ตกใจเมื่อได้รับแจ้งว่านางบุญมาผูกคอตาย เพราะ 2 วันก่อนผู้ตายได้โทรศัพท์มาปรึกษาว่าไม่มีเงินเลย จะไปหาหมอก็ไม่มี เงินจำนำข้าวก็ไม่ออก รถก็เอาไปเข้าไฟแนนซ์ จะกินไปวันๆ ก็ไม่มี ซ้ำยังเป็นหนี้ร้านค้าอยู่ ไม่คิดว่านางบุญมาจะมาตัดสินใจผูกคอตาย

***ชาวนาราชบุรียกทัพเสริมที่"พาณิชย์"

ที่ จ.ราชบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ที่ศาลาเอนกประสงค์วัดสนามสุทธาวาส (เขาหลักไก่) หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี กลุ่มเกษตรกรชาวนาจาก 16 หมู่บ้านในตำบลทุ่งหลวง และตำบลหนองกระทุ่ม ได้รวมตัวกันเพื่อขึ้นรถบัสโดยสารประจำทางจำนวน 4 คัน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปร่วมทวงเงินรับจำนำข้าวที่กระทรวงพาณิชย์กับกลุ่มชาวนาที่ปักหลักชุมนุมอยู่ก่อนหน้านี้ หลังรัฐบาลยังไม่ยอมจ่ายเงินโครงการดังกล่าวให้แก่ชาวนาทั่วประเทศ

นายสมศักดิ์ ตำหนิงาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ แกนนำชาวนา กล่าวว่า จะไปทวงค่าจำนำข้าวจากรัฐบาลที่กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากชาวนาได้รับความเดือดร้อน เรื่องค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่ารถเกี่ยว ค่ารถไถยังไม่ได้จ่าย เขาก็มาทวงเงินตลอด และปีนี้พวกเราชาวนาได้นัดหยุดการทำนากันด้วย เพราะทุนไม่มี จนถึงขณะนี้รัฐบาลก็ยังไม่จ่ายเงินแล้วจะเอาทุนที่ไหนทำนา ดังนั้น ชาวนาจึงต้องร่วมกันดิ้นรนต่อสู้จนถึงที่สุด เพราะการทำนาปีมีแต่หนี้กับซังข้าว ทำนาปรังมีแต่หนี้กับใบประทวน

**ชาวนา15จังหวัดขนรถไถเข้ากรุง19ก.พ.

นายณัฐชัย พวงสมบัติ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า หลังรัฐบาลรักษาการยังไม่จ่ายเงินค่าจำนำข้าว และเบี้ยวนัดมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ชาวนาหลายจังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางไม่พอใจมาก ล่าสุดตัวแทนชาวนา 15 จังหวัด คือ น่าน สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี นนท์บุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปราจีนบุรี ได้มีมติร่วมกันว่าจะรวมตัวนำรถไถนาบุกเข้าทวงถามเงินวันที่ 19 ก.พ.นี้ แต่จำนวนคนและสถานที่ชุมนุมยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าชาวนาทั้ง 15 จังหวัดจะเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน

นายทรงพล พูลสวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติจังหวัดอ่างทอง เผยว่า ยังไม่กำหนดว่าจะไปหยุดรถที่ใด แต่รถของชาวนาเป็นรถเก่า สภาพไม่ดี หากเสียตรงไหน ก็คงต้องหยุดตรงนั้น หากไปเสียที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ต้องหยุดซ่อมกันสัก 4-5 วัน ก็คงไม่เป็นไร

**"ชาวนาพิจิตร" ร้อง อบจ.ถูกข่มขู่

นางนวลจันทร์ ญาติบรรทุง ชาวนา ต.ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กล่าวว่า หลังจากที่ไปขึ้นเวที กปปส.ที่กรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องเงินรับจำนำข้าว ปรากฏว่ามีกลุ่มคนเห็นต่างมาขู่และต่อว่าลูกๆ ที่อยู่บ้าน จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย โดยขอให้นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายกอบจ.พิจิตร ช่วยเหลือ ซึ่งทางนายชาติชาย ได้ประสานให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ช่วยดูแลความปลอดภัยของครอบครัวญาติตนแล้ว

"ที่ตัดสินใจขึ้นเวที กปปส. เพราะอัดอั้นเรื่องเงิน ซึ่งขณะนี้ มีหนี้สิ้นล้านกว่าบาท จากต้นทุนทำนา และเครื่องจักรกลทางการเกษตรและไม่สามารถหาหยิบยืมจากใครได้อีก แม้แต่เงินเพียง 100 บาทก็ตาม จึงตัดสินใจขึ้นเวทีที่ กทม. และจะเดินหน้าเพื่อทวงเงินเพื่อเป็นสิทธิของตนเองต่อไป โดยจะร่วมกับกลุ่ม กปปส.พิจิตร และหากกลุ่ม กปปส.พิจิตร เดินทางเข้า กทม. ก็จะเดินทางไปร่วมทุกครั้ง จนกว่าจะได้เงินของตนเองคืนมา"
กำลังโหลดความคิดเห็น