ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี เลขานุการคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้ปราศรัยบนเวทีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)เมื่อคืนวันที่ 9 ก.พ. ระบุว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ตนได้ไปที่เวที กปปส.ปทุมวัน มา ซึ่งน.อ.วินัย เสวกวิ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพลังงานวุฒิสภา จองคิวปราศรัยไว้ให้ ซึ่ง น.อ.วินัย และทีมงานจะขึ้นเวทีพูดเรื่องพลังงาน เวลา 15.30 น. แต่พอตนไปถึง เห็นเป็นทีมงาน ม.ล.กรณ์ ก็พูดว่า ขึ้นไม่ได้ ตอนแรกจองไว้เป็นทีมงาน เสธ.วินัย บอกว่าได้ แต่พอเป็นทีมงานม.ล.กรณ์ กลับไม่ได้ ไม่แจ้งชื่อก่อน ขึ้นไม่ได้ ขึ้นสองคนไม่ได้ เวลาไม่พอ พอตัดให้เหลือตนคนเดียว ทีมงานก็บอกยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ไม่ต้องขึ้น นอกจากนี้ มีรุ่นน้องบอกว่า พบอดีต รมว.พลังงาน อยู่หลังเวทีที่ปทุมวันด้วย ซึ่งไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เราพยายามพูดกัน
ด้านนายรักไทย บูรพ์ภาค อดีตหัวหน้าวิศวกรแท่นขุดเจาะน้ำมัน เวทเตอร์ฟอร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล คัมพานี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ตนอุตส่าห์เตรียมข้อมูลมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่น้องมวลมหาประชาชนทราบ เกี่ยวกับเรื่องพลังงานไทย แต่ดูเหมือนว่าตนกำลังถูกบังคับใหัพูดในสิ่งที่ขัดต่อข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองกับคนบางกลุ่มเท่านั้น แน่นอนว่าตนคงตัองขอถอนตัว สำหรับตนแล้ว การไม่ได้ขึ้นเวที หรือออกช่องบลูสกาย คงไม่ได้เป็นเรื่องน่าเสียดายอะไร แต่น่าเสียดายโอกาสที่มวลมหาประชาชน จะได้รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงด้านพลังงานของไทย ตนยังหวังว่า จะได้กลับมาเยือนเวที กปปส. ในโอกาสหน้า
มีรายงานว่า ตามกำหนดการปราศรัยหลังเวที หลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัย และเปิดให้กลุ่มบริจาคเงินขึ้นเวทีประมาณ 30 นาทีแล้ว ได้กำหนดว่า มีการเสวนาปฏิรูปพลังงาน ดำเนินรายการโดย นางอัญชลีพร กุสุมภ์ ซึ่งประกอบด้วย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน, นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนเครือข่ายปฏิรูปพลังงาน (กคป.) เวทีหน้าบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และนายรักไทย แต่ปรากฏว่า ได้ มีการสับเปลี่ยนเวลา โดยให้ นายนิพนธ์ วงศ์ตระหง่าน นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล แต่ภายหลังกลับเป็นการเสวนา โดยเปลี่ยนมาเป็นประเด็นปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ โดยมีเพียงนางอัญชลีพร และนายปิยสวัสดิ์ ขึ้นเวทีเพียง 2 คนเท่านั้น
แหล่งข่าวที่มีการติดต่อกับเวที กปปส. ปทุมวัน เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ที่หลังเวทีมีความขัดแย้งกันเรื่องประเด็นในการนำเสนอ จึงให้นายนิพนธ์ ขึ้นเวทีก่อน โดยนายปิยสวัสดิ์ ต้องการให้การเสวนาออกมาในลักษณะดีเบต แต่ นพ.ระวี เห็นว่า การเสวนาให้ความรู้ประชาชน ทำไมต้องดีเบต ซึ่งตนไม่ใช่นักพูด และนักโต้วาที ถ้าไม่ต้องการบิดเบือนแล้วจะมาท้าดีเบตทำไม ท้ายที่สุด นพ.ระวี ตัดสินใจว่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่ขึ้นเวที ก่อนที่นายปิยะสวัสดิ์ ขึ้นเวที เสวนาคนเดียว และเปลี่ยนหัวข้อแบบฉุกละหุก ในห้วข้อปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เวที กปปส.ไม่ยอมให้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ ขึ้นเวทีปทุมวัน หรือเวทีใดๆ ที่มีการถ่ายทอดสดบลูสกาย ขึ้นได้ทุกเวที ยกเว้นเวทีที่มีถ่ายทอดสด ขณะที่น.อ.วินัย เคยขึ้นเวทีพูดเรื่องพลังงาน 30 นาที ได้ออกอากาศ 10 นาที แล้วตัดไปออนแอร์ อย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม เช้าวานนี้ (10 ก.พ.) ผู้ดำเนินรายการข่าวภาคเช้า ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย ได้ชี้แจงในรายการว่า ในตอนแรกจะขึ้นเวทีทั้ง 3 คน แต่พอนั่งคุยข้อมูลกันเบื้องต้น พบว่า ข้อมูลแตกต่างและไม่สอดคล้องกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. ดูแลเวทีปทุมวัน และนพ.ระวี เห็นตรงกันว่า ขอเวลาเรียบเรียงข้อมูลให้ชัดเจนละเอียดถี่ถ้วนก่อน จะกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้ง ด้านนายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม บลูสกาย ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตนออกมาจากเวทีปทุมวัน เมื่อเวลา 20.30 น. ได้คุยกับ นพ.ระวี ที่หลังเวทีเรื่องจะทำนกหวีดรุ่นพิเศษ รุ่นสุทิน ธราทิน แล้วตนก็ออกมา ส่วนเรื่องพลังงาน ที่ไม่มีการขึ้นพูดนั้น คงต้องรอฟังจากนพ.ระวี
ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “สนับสนุนการต่อสู้ของชาวนายังได้แรงสนับสนุน และแนวร่วมมากเท่านี้ ถ้าเพิ่มการปฏิรูปพลังงานเข้าไป เป็นหัวข้อปฏิรูปที่ 6 กปปส. จะได้แรงสนับสนุน และแนวร่วมเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร เอาละ ย่อมได้ศัตรูตัวใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย แต่ว่าที่ศัตรูตัวใหญ่ทั้งไทยและเทศนั้น ณ วันนี้ก็มิใช่มิตร มิใช่หรือ ปฏิรูปพลังงานคือ ทั้งหมดของการปฏิรูปประเทศ มีปริมณฑลกว้างขวาง อ.ประสาท มีแต้ม เขียน ไว้ใน MGR online วันนี้ว่า มีเหตุผลถึง 12 ประการ เร่งตัดสินใจเสียเถอะ”
ด้านนายรักไทย บูรพ์ภาค อดีตหัวหน้าวิศวกรแท่นขุดเจาะน้ำมัน เวทเตอร์ฟอร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล คัมพานี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ตนอุตส่าห์เตรียมข้อมูลมาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่น้องมวลมหาประชาชนทราบ เกี่ยวกับเรื่องพลังงานไทย แต่ดูเหมือนว่าตนกำลังถูกบังคับใหัพูดในสิ่งที่ขัดต่อข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองกับคนบางกลุ่มเท่านั้น แน่นอนว่าตนคงตัองขอถอนตัว สำหรับตนแล้ว การไม่ได้ขึ้นเวที หรือออกช่องบลูสกาย คงไม่ได้เป็นเรื่องน่าเสียดายอะไร แต่น่าเสียดายโอกาสที่มวลมหาประชาชน จะได้รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงด้านพลังงานของไทย ตนยังหวังว่า จะได้กลับมาเยือนเวที กปปส. ในโอกาสหน้า
มีรายงานว่า ตามกำหนดการปราศรัยหลังเวที หลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัย และเปิดให้กลุ่มบริจาคเงินขึ้นเวทีประมาณ 30 นาทีแล้ว ได้กำหนดว่า มีการเสวนาปฏิรูปพลังงาน ดำเนินรายการโดย นางอัญชลีพร กุสุมภ์ ซึ่งประกอบด้วย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน, นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนเครือข่ายปฏิรูปพลังงาน (กคป.) เวทีหน้าบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และนายรักไทย แต่ปรากฏว่า ได้ มีการสับเปลี่ยนเวลา โดยให้ นายนิพนธ์ วงศ์ตระหง่าน นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล แต่ภายหลังกลับเป็นการเสวนา โดยเปลี่ยนมาเป็นประเด็นปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ โดยมีเพียงนางอัญชลีพร และนายปิยสวัสดิ์ ขึ้นเวทีเพียง 2 คนเท่านั้น
แหล่งข่าวที่มีการติดต่อกับเวที กปปส. ปทุมวัน เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ที่หลังเวทีมีความขัดแย้งกันเรื่องประเด็นในการนำเสนอ จึงให้นายนิพนธ์ ขึ้นเวทีก่อน โดยนายปิยสวัสดิ์ ต้องการให้การเสวนาออกมาในลักษณะดีเบต แต่ นพ.ระวี เห็นว่า การเสวนาให้ความรู้ประชาชน ทำไมต้องดีเบต ซึ่งตนไม่ใช่นักพูด และนักโต้วาที ถ้าไม่ต้องการบิดเบือนแล้วจะมาท้าดีเบตทำไม ท้ายที่สุด นพ.ระวี ตัดสินใจว่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่ขึ้นเวที ก่อนที่นายปิยะสวัสดิ์ ขึ้นเวที เสวนาคนเดียว และเปลี่ยนหัวข้อแบบฉุกละหุก ในห้วข้อปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เวที กปปส.ไม่ยอมให้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ ขึ้นเวทีปทุมวัน หรือเวทีใดๆ ที่มีการถ่ายทอดสดบลูสกาย ขึ้นได้ทุกเวที ยกเว้นเวทีที่มีถ่ายทอดสด ขณะที่น.อ.วินัย เคยขึ้นเวทีพูดเรื่องพลังงาน 30 นาที ได้ออกอากาศ 10 นาที แล้วตัดไปออนแอร์ อย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม เช้าวานนี้ (10 ก.พ.) ผู้ดำเนินรายการข่าวภาคเช้า ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย ได้ชี้แจงในรายการว่า ในตอนแรกจะขึ้นเวทีทั้ง 3 คน แต่พอนั่งคุยข้อมูลกันเบื้องต้น พบว่า ข้อมูลแตกต่างและไม่สอดคล้องกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. ดูแลเวทีปทุมวัน และนพ.ระวี เห็นตรงกันว่า ขอเวลาเรียบเรียงข้อมูลให้ชัดเจนละเอียดถี่ถ้วนก่อน จะกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้ง ด้านนายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม บลูสกาย ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตนออกมาจากเวทีปทุมวัน เมื่อเวลา 20.30 น. ได้คุยกับ นพ.ระวี ที่หลังเวทีเรื่องจะทำนกหวีดรุ่นพิเศษ รุ่นสุทิน ธราทิน แล้วตนก็ออกมา ส่วนเรื่องพลังงาน ที่ไม่มีการขึ้นพูดนั้น คงต้องรอฟังจากนพ.ระวี
ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “สนับสนุนการต่อสู้ของชาวนายังได้แรงสนับสนุน และแนวร่วมมากเท่านี้ ถ้าเพิ่มการปฏิรูปพลังงานเข้าไป เป็นหัวข้อปฏิรูปที่ 6 กปปส. จะได้แรงสนับสนุน และแนวร่วมเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร เอาละ ย่อมได้ศัตรูตัวใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย แต่ว่าที่ศัตรูตัวใหญ่ทั้งไทยและเทศนั้น ณ วันนี้ก็มิใช่มิตร มิใช่หรือ ปฏิรูปพลังงานคือ ทั้งหมดของการปฏิรูปประเทศ มีปริมณฑลกว้างขวาง อ.ประสาท มีแต้ม เขียน ไว้ใน MGR online วันนี้ว่า มีเหตุผลถึง 12 ประการ เร่งตัดสินใจเสียเถอะ”
