คนร้ายวางบึม-ยิงถล่มปลัดอำเภอโคกโพธิ์-ทหารเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 5 หลังวางแผนยิงเอ็ม 79 ใส่ป้อมชรบ. ลวงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก่อนรุมสังหาร ผู้ว่าฯสดุดีปฏิบัติหน้าที่สมบูรณ์แบบแล้ว อีกรายซุ่มยิงรถขนหีบบัตรเลือกตั้งส่งที่เขต อ.สายบุรี ตำรวจเจ็บ 1 นาย
เวลา 08.30 น. วานนี้ (2 ก.พ.) พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี นำกำลังชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ชุดพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ ทหารรวมกว่า 100 นาย ตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านปลักใหญ่ หมู่ 9 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นเหตุนายจักรตรา พรหมแก้ว อายุ 48 ปี ปลัดอำเภอโคกโพธิ์ พลเรือน และทหาร ที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถูกระเบิดและยิงปะทะกับคนร้ายจนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายนาย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุยิงจุดตรวจ ชรบ.บ้านปลักใหญ่ นายจักรตราพร้อมอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ผู้ใหญ่บ้าน และชรบ. เดินทางเข้าที่เกิดเหตุ ระหว่างทางถูกคนร้ายซุ่มข้างทาง กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังไว้ใต้พื้นถนน 2 ลูก จากนั้นใช้อาวุธปืนสงครามยิงซ้ำ จนเกิดการปะทะกันนาน 10 นาที เป็นเหตุให้นายจักรตราเสียชีวิต ส่วนนายอับดุลการิม เจ๊ะและ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 นายอาแซ หวังถิ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และนายอับดุลเลาะ เจ๊ะยีมะ ชรบ. บาดเจ็บ รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ต่อมา ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 จำนวน 6 นายเข้าไปที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงระยะห่างจากจุดเกิดเหตุปะทะ 500 เมตร คนร้ายกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังไว้ใต้พื้นถนน จนรถยนต์พังเสียหายยับเยิบ ทหารเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บสาหัส 2 นาย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว. ระดมกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นในรัศมี 1 กิโลเมตร โดยเชื่อน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการและแนวร่วมในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 20 คน วางแผนฝังระเบิดไว้ใต้พื้นถนน ก่อนจะใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงใส่ป้อมชรบ. เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แล้วจึงกดชนวนระเบิดซ้ำและซุ่มยิง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จุดแรกพบซากรถกระบะของทหาร หลุมระเบิดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายจักรตราเสียชีวิต พบรถกระบะ 2 คันถูกยิงพรุนทั้งคัน หลุมระเบิด 2 หลุม กว้าง 3 เมตร ลึก 1 เมตร ชิ้นส่วนระเบิด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า นับเป็นความรุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากอยู่ช่วงเลือกตั้ง เท่าที่ตรวจสอบพบว่าหลังเกิดเหตุระเบิดทุกคนยังปลอดภัย แต่ถูกคนร้ายกราดยิงจนเกิดการปะทะกัน จนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกราย เพราะทุกคนปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย นายจักรตรา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จ.ส.อ.รุ่งเรือง กล้ารบ อายุ 34 ปี และจ.ส.อ.ทศพร โชติกลาง อายุ 45 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา พลฯสำรวย สุพรรณเมือง อายุ 22 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ทหารบาดเจ็บสาหัส 2 นาย คือ จ.ส.ท.เพลิน ไพศาล อายุ 42 ปี ส.ท.นิวัฒน์ ทาดีจันทร์ อายุ 25 ปี และพลเรือน 3 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
เวลา 17.30 น. พ.ต.อ.จีรเศรษฐ ดาวเงินตระกูล ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งตำรวจถูกยิงบนถนนบ้านชะเมาสามต้น-บ้านบาโงยือริง หมู่ 3 ต.ตะบิ้ง จึงไปตรวจสอบพบรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน บ 7887 ปัตตานี ประตูด้านคนขับมีรูกระสุน 1 รู คนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ทราบชื่อส.ต.ต.อิศราวุฒิ สุวรรณวิโก อายุ 23 ปี ผบ.หมู่ป.สภ.สายบุรี ถูกยิงที่ขาขวา 1 นัดอาการปลอดภัย
สอบสวนทราบว่าส.ต.ต.อิศราวุฒิ ขับรถมากับภรรยาเพื่อนำหีบบัตรเลือกตั้งประจำหน่วยไปส่งที่เขต ถึงที่เกิดเหตุคนร้ายซุ่มอยู่ข้างทางใช้ปืนสงครามยิง แต่พยายามเร่งเครื่องหลบหนีได้ เจ้าหน้าที่คาดเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่.
เวลา 08.30 น. วานนี้ (2 ก.พ.) พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี นำกำลังชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ชุดพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ ทหารรวมกว่า 100 นาย ตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านปลักใหญ่ หมู่ 9 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นเหตุนายจักรตรา พรหมแก้ว อายุ 48 ปี ปลัดอำเภอโคกโพธิ์ พลเรือน และทหาร ที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถูกระเบิดและยิงปะทะกับคนร้ายจนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายนาย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุยิงจุดตรวจ ชรบ.บ้านปลักใหญ่ นายจักรตราพร้อมอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ผู้ใหญ่บ้าน และชรบ. เดินทางเข้าที่เกิดเหตุ ระหว่างทางถูกคนร้ายซุ่มข้างทาง กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังไว้ใต้พื้นถนน 2 ลูก จากนั้นใช้อาวุธปืนสงครามยิงซ้ำ จนเกิดการปะทะกันนาน 10 นาที เป็นเหตุให้นายจักรตราเสียชีวิต ส่วนนายอับดุลการิม เจ๊ะและ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 นายอาแซ หวังถิ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และนายอับดุลเลาะ เจ๊ะยีมะ ชรบ. บาดเจ็บ รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ต่อมา ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 จำนวน 6 นายเข้าไปที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงระยะห่างจากจุดเกิดเหตุปะทะ 500 เมตร คนร้ายกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังไว้ใต้พื้นถนน จนรถยนต์พังเสียหายยับเยิบ ทหารเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บสาหัส 2 นาย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว. ระดมกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นในรัศมี 1 กิโลเมตร โดยเชื่อน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการและแนวร่วมในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 20 คน วางแผนฝังระเบิดไว้ใต้พื้นถนน ก่อนจะใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงใส่ป้อมชรบ. เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แล้วจึงกดชนวนระเบิดซ้ำและซุ่มยิง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จุดแรกพบซากรถกระบะของทหาร หลุมระเบิดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายจักรตราเสียชีวิต พบรถกระบะ 2 คันถูกยิงพรุนทั้งคัน หลุมระเบิด 2 หลุม กว้าง 3 เมตร ลึก 1 เมตร ชิ้นส่วนระเบิด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า นับเป็นความรุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากอยู่ช่วงเลือกตั้ง เท่าที่ตรวจสอบพบว่าหลังเกิดเหตุระเบิดทุกคนยังปลอดภัย แต่ถูกคนร้ายกราดยิงจนเกิดการปะทะกัน จนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกราย เพราะทุกคนปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย นายจักรตรา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จ.ส.อ.รุ่งเรือง กล้ารบ อายุ 34 ปี และจ.ส.อ.ทศพร โชติกลาง อายุ 45 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา พลฯสำรวย สุพรรณเมือง อายุ 22 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ทหารบาดเจ็บสาหัส 2 นาย คือ จ.ส.ท.เพลิน ไพศาล อายุ 42 ปี ส.ท.นิวัฒน์ ทาดีจันทร์ อายุ 25 ปี และพลเรือน 3 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
เวลา 17.30 น. พ.ต.อ.จีรเศรษฐ ดาวเงินตระกูล ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งตำรวจถูกยิงบนถนนบ้านชะเมาสามต้น-บ้านบาโงยือริง หมู่ 3 ต.ตะบิ้ง จึงไปตรวจสอบพบรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน บ 7887 ปัตตานี ประตูด้านคนขับมีรูกระสุน 1 รู คนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ทราบชื่อส.ต.ต.อิศราวุฒิ สุวรรณวิโก อายุ 23 ปี ผบ.หมู่ป.สภ.สายบุรี ถูกยิงที่ขาขวา 1 นัดอาการปลอดภัย
สอบสวนทราบว่าส.ต.ต.อิศราวุฒิ ขับรถมากับภรรยาเพื่อนำหีบบัตรเลือกตั้งประจำหน่วยไปส่งที่เขต ถึงที่เกิดเหตุคนร้ายซุ่มอยู่ข้างทางใช้ปืนสงครามยิง แต่พยายามเร่งเครื่องหลบหนีได้ เจ้าหน้าที่คาดเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่.