นับตั้งแต่พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา เรามีการปฏิวัติรัฐประหารเกือบ 20 ครั้ง รัฐประหารส่วนใหญ่จะอ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ แต่ที่จริงแล้วมูลเหตุสำคัญที่ผลักดันให้เกิดรัฐประหารล้วนแต่เกิดจากผลประโยชน์ของผู้ก่อการเกือบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันช่วงชิงอำนาจ การรักษาผลประโยชน์ และความไม่พอใจที่ถูกโยกย้าย เป็นต้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราก็ไม่อาจคาดหวังให้ทหารทำการปฏิวัติเพื่อประชาชน นอกจากนี้ก็ยังมีการสร้างกระแสว่าต่างชาติไม่สนับสนุนการปฏิวัติ ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลา 80 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเข้าแทรกแซงการเมืองไทยเป็นอย่างมาก และยังสนับสนุนค้ำจุนรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติทุกยุคทุกสมัย เพราะเหตุที่รัฐบาลเหล่านี้ล้วนสนับสนุนผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนั้นได้แก่การต่อต้านคอมมิวนิสต์
นอกจากนี้ สหรัฐฯ โดยผ่านทางบริษัทยักษ์ใหญ่ และบรรษัทการเงินในวอลล์สตรีทก็ยังเคยทุ่มเงินหนุนพรรคการเมืองบางพรรคที่สนับสนุนระบบทุนนิยม และทักษิณเองก็เป็นตัวแทนของกลุ่มนี้ โดยเฉพาะกลุ่มทุนที่สัมพันธ์อยู่กับอดีตประธานาธิบดีบุช แม้ในปัจจุบันทักษิณก็ยังอาศัยสายสัมพันธ์นี้ทำการล็อบบี้สมาชิกรัฐสภาอเมริกัน และนักการเมืองชั้นนำคนอื่นๆ อีกด้วย
สถานการณ์ทางการเมืองไทยปัจจุบัน นับว่าเข้าตาจน ไม่อาจหาทางออกได้ ทหารเองก็อ้างว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง และทหารเดินตามกติกาของบ้านเมือง การอ้างเหตุเช่นนี้เท่ากับทหารยังค้ำจุนบัลลังก์ของรัฐบาลปัจจุบัน และไม่ว่าจะมีคนล้มตายไปกี่คน ทหารก็ยังคงอยู่เฉย บางคนตั้งข้อสงสัยว่าทหารบางคนถูกทักษิณซื้อไปแล้ว
ประชาชนไม่อาจป้องกันตนเองได้ และฝ่ายรัฐบาลเองก็อาศัยนักเลงอันธพาลลอบทำร้าย ปาระเบิดใส่ประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า บางคนบอกว่าตำรวจชี้เป้าให้มือสังหารลั่นไกใส่ผู้นำประชาชน ดังเช่นการฆ่าแกนนำที่วัดศรีเอี่ยม เป็นต้น
แต่ข้อมูลที่น่าตกใจก็คือ ขณะนี้มีผู้นำคนต่างชาติจากเขมรเข้ามานับสิบคันรถ เพื่อมาทำร้ายประชาชนผู้ซึ่งอดทนไม่ไหวก็คือ นายทหารเรือ ผู้บัญชาการหน่วยซีล หากเป็นเช่นนั้นจริงก็นับว่าเป็นเรื่องอัปรีย์มากที่คนไทยเราเอากองกำลังต่างชาติเข้ามาฆ่าคนไทยด้วยกันเอง
เหตุนี้น่าจะเป็นเงื่อนไขที่พอเพียงแล้วในการทำให้ผู้นำทหารต้องตัดสินใจว่า เวลานี้ปัญหาความมั่นคงมาถึงแล้ว และเป็นหน้าที่ของกองทัพที่จะต้องแก้ไข หากทหารทำเฉยเสียก็เท่ากับปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาทำร้ายคนไทยถึงในบ้าน และความนิ่งเฉยก็คือการทรยศต่อชาติบ้านเมืองนั่นเอง
ดังนั้น เวลานี้เราจึงควรเรียกร้องให้ทหารตระหนักในหน้าที่ และทำการปกป้องอธิปไตยของชาติ พิทักษ์รักษาความมั่นคงของชาติ การเอากองกำลังเขมรเข้ามานี้ ตำรวจก็รู้เห็นเป็นใจด้วย เพราะแทนที่จะจับกุมชายฉกรรจ์ 10 กว่าคนที่ไม่มีบัตรประชาชนก็กลับปล่อยไป โดยอ้างว่าเป็นมวลชนที่มาสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ความคิดที่จะเอาต่างชาติเข้ามาทำร้ายคนไทยด้วยกันเองนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลบางคนก็เห็นฮุนเซนเป็นพ่อถึงกับแต่งเพลงสดุดีให้
เมื่อถึงวันนี้ เราก็ยังไม่ได้ยินอะไรที่ชัดเจนจากผู้นำเหล่าทัพ บางคนวิเคราะห์ว่าผู้นำเหล่าทัพไม่มีเอกภาพ บางคนเห็นว่าผู้นำบางคนได้ถูกทักษิณซื้อไปแล้วเท่ากับกองทัพอยู่ภายใต้การนำคนของทักษิณ ส่วนตำรวจนั้นไม่ต้องพูดถึง เต็มไปด้วยคนที่ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” แล้วเราจะหวังพึ่งได้อย่างไร
แต่การจะปล่อยให้บ้านเมืองดำเนินไปอย่างยถากรรม ก็เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เราจึงขอเรียกร้องให้ทหารหาข่าวให้แน่ชัดว่า มีกองกำลังต่างชาติเข้ามาจริง และถ้าปรากฏเป็นจริงเช่นนั้น ทหารก็ควรกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราก็ไม่อาจคาดหวังให้ทหารทำการปฏิวัติเพื่อประชาชน นอกจากนี้ก็ยังมีการสร้างกระแสว่าต่างชาติไม่สนับสนุนการปฏิวัติ ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลา 80 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเข้าแทรกแซงการเมืองไทยเป็นอย่างมาก และยังสนับสนุนค้ำจุนรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติทุกยุคทุกสมัย เพราะเหตุที่รัฐบาลเหล่านี้ล้วนสนับสนุนผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนั้นได้แก่การต่อต้านคอมมิวนิสต์
นอกจากนี้ สหรัฐฯ โดยผ่านทางบริษัทยักษ์ใหญ่ และบรรษัทการเงินในวอลล์สตรีทก็ยังเคยทุ่มเงินหนุนพรรคการเมืองบางพรรคที่สนับสนุนระบบทุนนิยม และทักษิณเองก็เป็นตัวแทนของกลุ่มนี้ โดยเฉพาะกลุ่มทุนที่สัมพันธ์อยู่กับอดีตประธานาธิบดีบุช แม้ในปัจจุบันทักษิณก็ยังอาศัยสายสัมพันธ์นี้ทำการล็อบบี้สมาชิกรัฐสภาอเมริกัน และนักการเมืองชั้นนำคนอื่นๆ อีกด้วย
สถานการณ์ทางการเมืองไทยปัจจุบัน นับว่าเข้าตาจน ไม่อาจหาทางออกได้ ทหารเองก็อ้างว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง และทหารเดินตามกติกาของบ้านเมือง การอ้างเหตุเช่นนี้เท่ากับทหารยังค้ำจุนบัลลังก์ของรัฐบาลปัจจุบัน และไม่ว่าจะมีคนล้มตายไปกี่คน ทหารก็ยังคงอยู่เฉย บางคนตั้งข้อสงสัยว่าทหารบางคนถูกทักษิณซื้อไปแล้ว
ประชาชนไม่อาจป้องกันตนเองได้ และฝ่ายรัฐบาลเองก็อาศัยนักเลงอันธพาลลอบทำร้าย ปาระเบิดใส่ประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า บางคนบอกว่าตำรวจชี้เป้าให้มือสังหารลั่นไกใส่ผู้นำประชาชน ดังเช่นการฆ่าแกนนำที่วัดศรีเอี่ยม เป็นต้น
แต่ข้อมูลที่น่าตกใจก็คือ ขณะนี้มีผู้นำคนต่างชาติจากเขมรเข้ามานับสิบคันรถ เพื่อมาทำร้ายประชาชนผู้ซึ่งอดทนไม่ไหวก็คือ นายทหารเรือ ผู้บัญชาการหน่วยซีล หากเป็นเช่นนั้นจริงก็นับว่าเป็นเรื่องอัปรีย์มากที่คนไทยเราเอากองกำลังต่างชาติเข้ามาฆ่าคนไทยด้วยกันเอง
เหตุนี้น่าจะเป็นเงื่อนไขที่พอเพียงแล้วในการทำให้ผู้นำทหารต้องตัดสินใจว่า เวลานี้ปัญหาความมั่นคงมาถึงแล้ว และเป็นหน้าที่ของกองทัพที่จะต้องแก้ไข หากทหารทำเฉยเสียก็เท่ากับปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาทำร้ายคนไทยถึงในบ้าน และความนิ่งเฉยก็คือการทรยศต่อชาติบ้านเมืองนั่นเอง
ดังนั้น เวลานี้เราจึงควรเรียกร้องให้ทหารตระหนักในหน้าที่ และทำการปกป้องอธิปไตยของชาติ พิทักษ์รักษาความมั่นคงของชาติ การเอากองกำลังเขมรเข้ามานี้ ตำรวจก็รู้เห็นเป็นใจด้วย เพราะแทนที่จะจับกุมชายฉกรรจ์ 10 กว่าคนที่ไม่มีบัตรประชาชนก็กลับปล่อยไป โดยอ้างว่าเป็นมวลชนที่มาสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ความคิดที่จะเอาต่างชาติเข้ามาทำร้ายคนไทยด้วยกันเองนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลบางคนก็เห็นฮุนเซนเป็นพ่อถึงกับแต่งเพลงสดุดีให้
เมื่อถึงวันนี้ เราก็ยังไม่ได้ยินอะไรที่ชัดเจนจากผู้นำเหล่าทัพ บางคนวิเคราะห์ว่าผู้นำเหล่าทัพไม่มีเอกภาพ บางคนเห็นว่าผู้นำบางคนได้ถูกทักษิณซื้อไปแล้วเท่ากับกองทัพอยู่ภายใต้การนำคนของทักษิณ ส่วนตำรวจนั้นไม่ต้องพูดถึง เต็มไปด้วยคนที่ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” แล้วเราจะหวังพึ่งได้อย่างไร
แต่การจะปล่อยให้บ้านเมืองดำเนินไปอย่างยถากรรม ก็เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เราจึงขอเรียกร้องให้ทหารหาข่าวให้แน่ชัดว่า มีกองกำลังต่างชาติเข้ามาจริง และถ้าปรากฏเป็นจริงเช่นนั้น ทหารก็ควรกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แล้ว