xs
xsm
sm
md
lg

สมรู้ร่วมคิด บ้าจี้จัดเลือกตั้ง กกต.เสี่ยงเงาหัวขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคานต์ดาวน์รอ "เลือดตั้ง" ได้เลย !! ตามคิวที่ “ปูกรรเชียง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เป่ากระหม่อมท่องคาถา “มีอะไรให้ช่วยเหลือในการเลือกตั้ง รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่” ตลอดการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐบาล กับ กกต. ที่สโมสรทหารบก เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทำเอา “5 เสือ”แห่งสำนักงาน กกต. อ่อนระทวย ไปไม่ถูก เถียงไม่ขึ้น จนสุดท้ายต้องเออออห่อหมก ตกลงเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ต่อไป
แม้ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งจะวินิจฉัยอยู่หยกๆ แบบชัดแจ้งว่า การเลื่อนการเลือกตั้งสามารถทำได้ หากนายกรัฐมนตรีและประธานกกต. เห็นพ้องต้องกัน
กกต. ที่ก่อนหน้านี้เข้มขลัง จนได้รับการกล่าวขานเยินยอ เจอมนต์“ยิ่งลักษณ์”กำราบ เสียเสื่อมสิ้น
จาก“ดอกไม้”ที่เคยถูกชื่นชมมอบให้ เลยกลายมาเป็น“ก้อนอิฐ” ที่หลายฝ่ายพร้อมใจกันเขวี้ยงใส่แบบไม่ยั้ง ชนิดไม่รีรอและไม่ลังเล
เพราะหากย้อนกลับไปก่อนที่จะถึงวันถกผ่าทางตันประเทศ ร่วมกับรัฐบาลรักษาการ “5 เสือกกต.” ตะโกนเสียงดังลั่นมาตลอดว่า เห็นควรให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่เอื้ออำนวย
โดยเฉพาะ “สมชัย ศรีสุทธิยากร”กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ที่ตะเบ็งเสียง คอเป็นเอ็น ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เบิ้ลบลั๊ฟกับรัฐบาลกันตลอด ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ว่าจะให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป ถึงขนาดเดินสายเป็นตัวกลางระหว่างคู่ขัดแย้ง ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และ กลุ่มกปปส.
เขียนเฟซบุ๊กตอบโต้ราวกับนักการเมือง จนถูกคนในระบอบทักษิณรุมกระซวกไส้ รายวันว่า ไม่เป็นกลาง ควรจะลาออกไป
หรือปล่อยบทยียวนกวนประสาท เดี๋ยวฝันนู่น ฝันนี่ ชนิดแม่นราวกับตาเห็น เรื่อยไปจนแม้กระทั่งเป็นตัวตั้งตัวตี ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจ ทั้งที่รัฐบาลข่มเสียงสู้ว่า ทำไม่ได้
เรียกว่าตอนนั้น “5เสือกกต.”ชุดนี้แพ็กกันแน่นปึ้ก ชนิดที่รัฐบาลรักษาการยิ่งลักษณ์ ขย่มเท่าไหร่ก็ไม่สะท้าน ต่อกรขบเหลี่ยมกันสนุก ด้วยแง่กฎหมาย และคมเขี้ยวการเมือง
แถมเคยสวมบทโหดหนักๆ ว่า จะจับมือกันลาออกเพื่อกู้วิกฤตชาติ เพื่อให้การเลือกตั้งหยุดชะงัก คลี่คลายสถานการณ์
**แต่สุดท้ายหลักที่จับมาแน่นหักโค่นไม่เป็นท่า ทั้งมิตรทั้งศัตรู ด่ากันขรมเมือง
เลยมิวายถูกติฉิน กังขา ว่า กกต.สู้ไม่เต็มที่ ไม่กล้าทุ่มหมดหน้าตักเพื่อปลดชนวนปัญหาชาติ เพราะหากวัดกันตามแง่กฎหมาย น้ำหนักฝั่งรัฐบาลสุดแสนจะเบา ทำได้อย่างเดียวคือ ดื้อแพ่งไปเรื่อยๆ จนสีข้างถลอก
โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผูกพันทุกองค์กร ลิ่วล้อฝั่งเพื่อไทย พยายามงัดมุกเดิมมาบอกว่า เป็นเพียงคำแนะนำ จะปฏิบัติตามหรือไม่ ก็ได้ รวมไปถึงข้ออ้างว่า ไม่สามารถออกพระราชกฤษฎีกาซ้ำซ้อนของเดิมได้ หรือกลัวว่า จะมีผู้ไปฟ้องร้องเอาผิดในภายหลัง
** เหล่านี้ล้วนเป็นข้ออ้างที่บังหน้า เหตุผลจริงๆ ต่างรู้ว่า เป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น
การออกมาบอกว่า กังวลจะมีผู้ไปฟ้องร้องเอาผิดหากยอมเลื่อนการเลือกตั้งนั้น ฟังไม่ขึ้นทุกถ้อยกระบวนความ เพราะในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า สามารถทำได้ หากจะมีใครไปฟ้องร้อง ต้องไม่สะทกสะท้าน เพราะเป็นเหมือนยันต์กันผี
แต่รัฐบาลจงใจแกล้งโง่ เพื่อจะดันทุรังเลือกตั้ง
ยิ่งถอดคำพูดของ "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ยิ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่า เป็นเรื่องการต่อรองทางการเมืองล้วนๆ
ทั้งการบอกว่า หากรัฐบาลยอมเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ก็ไม่มีหลักประกันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะยุติ ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า เหตุผลว่าจะเลื่อน หรือไม่เลื่อน อยู่ที่ตัวแปรสำคัญอย่าง"ม็อบกปปส." ว่า จะเลิกรากลับบ้าน และพรรคประชาธิปัตย์ จะกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งหรือไม่
หรือการโยงว่า หากปล่อยให้มีรัฐบาลรักษาการนานๆ ประเทศจะยิ่งเสียหาย แต่ความจริงแล้ว รัฐบาลรู้ดีหากยอมเลื่อนออกไป จะยิ่งทำให้ตัวเองเดินเข้าสู่มุมอับ หาทางดิ้นได้ยาก โอกาสจะโดนไล่สอยมีสูง โดยเฉพาะคดีในองค์กรอิสระที่เงื้อดาบรออยู่
อีกทั้งการเลื่อนการเลือกตั้ง ยังจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีเวลาในการปฏิรูปประเทศ แน่นอนว่า หากปล่อยไปถึงจุดนั้น รัฐบาลจะต้องถูกบีบจากหลายฝ่าย เพื่อให้ไขก๊อกจากตำแหน่งรักษาการ เพื่อเปิดทางให้การปฏิรูปเป็นไปอย่างชอบธรรม
แล้วเมื่อถึงตรงนั้น โอกาสจะถูกตามเช็กบิลยิ่ง ง่ายกว่าเก่า เพราะไม่มีทั้งอำนาจ และกลไกอยู่ในมือเหมือนปัจจุบันแล้ว
** น้ำหนักของเหตุผลที่ไม่เลื่อน จึงไม่ใช่เรื่องข้อกฎหมายเลย แต่เป็นเรื่องของตัวเองล้วนล้วน
แต่ กกต. กลับสู้แค่ครึ่งตัว แถมยังปล่อยให้ตัวเองถูกไล่ต้อน ทั้งที่ไพ่ในมืออย่างเรื่องกฎหมาย ได้เปรียบกว่า
แถม “สมชัย”ยังสิ้นลายเสือ เมื่อออกมาแถลงชมคนที่จ้องจะแจ้งจับตัวเองแท้ๆ ก่อนหน้านี้อย่าง“อ้ายปึ้ง”สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ที่หยอดน้ำผึ้งใส่ระหว่างหารือกับรัฐบาลว่า เข้าใจกกต.ว่า ทำงานด้วยความยากลำบาก
** เคลิ้มจนหมดสภาพกันเลย
และก็ดูจะยังเมาหมัดไม่เลิก กับคิวล่าสุดที่ กกต.ตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องบัตรเลือกตั้งบางส่วนที่ติดอยู่ที่ไปรษณีย์ อาทิ ที่ จ.สงขลา นครศรีธรรมราช และ สตูล จนไม่สามารถเอาออกมาใช้ได้ เนื่องจากผู้ชุมนุมปิดล้อมเอาไว้ ด้วยการเว้นระเบียบ กกต. ที่กำหนดให้ต้องมีการประทับตราสัญลักษณ์ของกกต. ในบัตรเลือกตั้ง ที่จะใช้ในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้ใช้กระดาษที่ไม่มีตราสัญลักษณ์ก็ได้ เป็นการอนุโลม
เข้าทำนองจะช่วยให้การเลือกตั้งเดินได้ แต่ไม่ได้เหลือบดูความเป็นจริง
** เพราะปกติการมีตราสัญลักษณ์ของกกต.ประทับเอาไว้ ก็ยังมีการโกงบัตรเลือกตั้งกันสะบั้นหั่นแหลกอยู่แล้ว แต่รอบนี้ไม่มีตราสัญลักษณ์ พวกนักทุจริตได้เสกกระดาษอัพคะแนนเสียงให้ตัวเองกันสนุกมือ
การแก้ปัญหาแบบนี้จึงแทบไม่ต่างจากการแกล้งหลับให้โจรวิ่งเข้าไปปล้นบ้านตัวเอง
ดังนั้น เตรียมตัวเที่ยวงานมหกรรมการโกงครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติกันได้เลย
ขณะเดียวกัน ไปๆ มาๆ จากบทพระเอกที่สังคมคาดหวังก่อนหน้านี้ ดูเหมือน“5 เสือกกต.” กำลังแหย่ขาตัวเองเข้าคุกเสียแล้ว ตั้งแต่ยอมให้รัฐบาลรักษาการ เดินหน้าเลือกตั้งต่อ ทั้งที่ขาดความชอบธรรม และกระทำผิดกฎหมายหลายข้อ สุ่มเสี่ยงจะเป็นโมฆะ จนมาถึงยอมให้มีการละเว้นระเบียบข้อสำคัญที่สุดข้อหนึ่งของการเลือกตั้ง
โอกาสเงาหัวจะขาดตามรัฐบาลมาติดๆ
สถานะกกต.ตอนนี้จึงไม่ต่างจากนั่งเรือลำเดียวกับโจร เพื่อเดินหน้าไปสู่ “เลือกตั้งเลือด”
**ฉะนั้น ก่อน 2 กุมภาพันธ์ ยังมีเวลาตัดสินใจ ไขก๊อกยกก๊ก ปลดวิกฤติชาติ ยังเป็นคำตอบสุดท้ายที่ใช้ได้อยู่ เพื่อกู้ศรัทธา
กำลังโหลดความคิดเห็น