00 นับจากนี้ไป ทักษิณ ชินวัตร คงจะสั่งป่วนหนักข้อขึ้นทุกวัน ทางหนึ่งเพื่อสร้างความรุนแรงข่มขู่คนกรุงเทพฯ ขู่มวลชนไม่ให้มาร่วมกับ "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งวิธีการมีทั้งดักยิง ลอบขว้างระเบิด เป้าหมายมีทั้งแกนนำและโยนใส่ ยิงใส่มวลชนแบบมั่วๆ ทำกันทุกทาง และเชื่อว่าจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยเป้าหมายที่วางไว้เฉพาะหน้าก่อนก็คือ จนถึงวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. นั่นคือทำอย่างไรก็ได้ให้"ลาก"ไปให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นให้ได้
00 เพราะนี่คือความหวังสุดท้ายจริงๆ สำหรับการ "ฟอก" สำหรับการอ้างความชอบธรรมกับต่างประเทศ โดยเฉพาะกับมหาอำนาจที่จ้องผลประโยชน์ทั้งทรัพยากร และการลงทุนในเส้นทาง "ทุนสามานย์" ที่ เครือข่ายระบอบทักษิณ ได้ล็อบบี้แลกเปลี่ยนกันอย่างลงตัวอยู่แล้ว หากสังเกตให้ดีจะพบว่า คราวนี้ตั้งแต่ต้น จะมีการประสานดึงเอาทั้งต่างประเทศ และยูเอ็น เข้ามาเป็นหลังพิงตลอดเวลา ซึ่งพวกนี้ใช้สูตรสำเร็จอย่างเดียวคือ "เลือกตั้ง" โดยไม่ต้องไปสนใจที่มาที่ไป แต่นั่นต้องหมายความว่า เป็นการเลือกตั้งที่ตัวเองได้ผลประโยชน์ด้วยนะ
00 ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เราจะได้เห็นการ "ซุ่มยิง" รวมไปถึง "ยิงกันซึ่งหน้า" กลางวันแสกๆ โดยใช้อันธพาลของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งก็มีทั้งจากคนเสื้อแดง และกองกำลังรับจ้างจาก"เขมร" โดยที่ตำรวจ "หลิ่วตา" ให้ตลอดเวลา หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็จับไปก่อน แล้วปล่อยตัวทีหลัง รวมไปถึงการบิดเบือนข้อหาไปอีกทางหนึ่ง ส่วนคดีไหนที่แม้ว่าเห็นหน้าคนร้ายชัด แต่จับไม่ได้ ก็คงจับไม่ได้ตลอดไป เพราะพวกเดียวกัน มิหนำซ้ำไม่แน่ว่า "ตำรวจชี้เป้า" ให้ก็ได้
00 ผลจากการป่วนที่เกิดขึ้น อาจยั่วยุ หรือทำให้ "สมจริง" สำหรับสร้าง "เงื่อนไข" รัฐประหาร มันก็เข้าทางตีน เพราะนั่นเท่ากับว่า "กระบวนการต่อรอง" แบ่งปันอำนาจกำลังเริ่มต้น ถ้าเป็นแบบนี้ "แม้ว" ก็สามารถตั้งหลักได้ใหม่ "รอจังหวะ"กลับมาอีกรอบ นั่นคือเกมที่วางเอาไว้ล่วงหน้า แต่นาทีนี้ ทุกอย่างมันพัฒนาไปไกลลิบแล้ว อย่างน้อยมวลมหาประชาชนที่ออกมาคราวนี้ "หลายล้านคน" ยังมีคนที่บ้านอีกกี่ล้าน ญาติพี่น้องของคนพวกนี้ทั้งในกรุงเทพฯและ "ต่างจังหวัด"อีกเท่าไหร่ ในยุคติดต่อสื่อสารไร้สายแบบนี้ มันย่อมมีการส่งข่าว อธิบายให้เห็นภาพได้ไม่ยาก จริงอยู่ในชนบทห่างไกล อิทธิพลของระบอบทักษิณ นโยบาย"ประชานิยม" ยังมีอิทธิพลสูง ชาวบ้านรากหญ้ายังชื่นชอบ แต่ถามว่าบรรยากาศตอนนี้ กับเมื่อสองปีก่อน มันเริ่มเจอจางลงไปเรื่อยๆ อย่างน้อยที่เห็นจากโครงการ "จำนำข้าว" ที่สังเกตเห็นว่า "มีเสียงด่ายิ่งลักษณ์-ทักษิณ" ให้ได้ยินชัดมากขึ้น และเรื่องนี้แหละที่ต้อง "แข่งกับเวลา" หากยังหาเงินมาใช้ "หนี้"ขอย้ำว่า "จ่ายหนี้ชาวนา"ไม่ได้ ภายในอย่างช้าที่สุดสิ้นเดือนนี้ รับรองว่า "หายนะ"แน่นอน
00 ปัญหาที่บังเกิดขึ้นล่าสุดก็คือ แม้ว่า รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง จะวิ่งเต้น ทั้งขู่ทั้งปลอบ จนทำให้ สบน. หาช่องทางกู้เงิน 1.3 แสนล้าน โดยใช้วิชามารไปโยกงบที่เคยคิดจะใช้ในโครงการ "โคตรกู้" 2 ล้านล้านบาท มาตั้งงบสำหรับโครงการจำนำข้าวไปก่อน และใช้ที่ปรึกษากฎหมายรัฐบาลแสตมป์กฤษฎีกา รับรองแล้วก็ตาม โดยวิธีการหลังจากนี้ คือจะให้ ธ.ก.ส.ไปกู้จากสถาบันการเงินต่างๆ แล้วให้ กระทรวงการคลังค้ำประกัน แต่ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ก็คือ ยังไม่มีสถาบันการเงินที่ไหน "กล้าปล่อยกู้" เพราะภาพของโครงการจำนำข้าวมัน "เน่า" จนไม่มีชิ้นดีแล้ว ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของแบงก์กรุงไทยรีบออกมาปฏิเสธข่าวการปล่อยกู้ให้รัฐบาล 1.6 แสนล้านบาท ให้กับรัฐบาลเพื่อไปโปะโครงการดังกล่าว นั่นหมายความว่า ถ้าแบงก์ไหนปล่อยกู้ แบงก์นั้นก็จะ "สั่นสะเทือน"ทันที เพราะมีสิทธิที่ประชาชนจะแห่ไปถอนเงินออกมา !!
00 เพราะนี่คือความหวังสุดท้ายจริงๆ สำหรับการ "ฟอก" สำหรับการอ้างความชอบธรรมกับต่างประเทศ โดยเฉพาะกับมหาอำนาจที่จ้องผลประโยชน์ทั้งทรัพยากร และการลงทุนในเส้นทาง "ทุนสามานย์" ที่ เครือข่ายระบอบทักษิณ ได้ล็อบบี้แลกเปลี่ยนกันอย่างลงตัวอยู่แล้ว หากสังเกตให้ดีจะพบว่า คราวนี้ตั้งแต่ต้น จะมีการประสานดึงเอาทั้งต่างประเทศ และยูเอ็น เข้ามาเป็นหลังพิงตลอดเวลา ซึ่งพวกนี้ใช้สูตรสำเร็จอย่างเดียวคือ "เลือกตั้ง" โดยไม่ต้องไปสนใจที่มาที่ไป แต่นั่นต้องหมายความว่า เป็นการเลือกตั้งที่ตัวเองได้ผลประโยชน์ด้วยนะ
00 ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เราจะได้เห็นการ "ซุ่มยิง" รวมไปถึง "ยิงกันซึ่งหน้า" กลางวันแสกๆ โดยใช้อันธพาลของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งก็มีทั้งจากคนเสื้อแดง และกองกำลังรับจ้างจาก"เขมร" โดยที่ตำรวจ "หลิ่วตา" ให้ตลอดเวลา หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็จับไปก่อน แล้วปล่อยตัวทีหลัง รวมไปถึงการบิดเบือนข้อหาไปอีกทางหนึ่ง ส่วนคดีไหนที่แม้ว่าเห็นหน้าคนร้ายชัด แต่จับไม่ได้ ก็คงจับไม่ได้ตลอดไป เพราะพวกเดียวกัน มิหนำซ้ำไม่แน่ว่า "ตำรวจชี้เป้า" ให้ก็ได้
00 ผลจากการป่วนที่เกิดขึ้น อาจยั่วยุ หรือทำให้ "สมจริง" สำหรับสร้าง "เงื่อนไข" รัฐประหาร มันก็เข้าทางตีน เพราะนั่นเท่ากับว่า "กระบวนการต่อรอง" แบ่งปันอำนาจกำลังเริ่มต้น ถ้าเป็นแบบนี้ "แม้ว" ก็สามารถตั้งหลักได้ใหม่ "รอจังหวะ"กลับมาอีกรอบ นั่นคือเกมที่วางเอาไว้ล่วงหน้า แต่นาทีนี้ ทุกอย่างมันพัฒนาไปไกลลิบแล้ว อย่างน้อยมวลมหาประชาชนที่ออกมาคราวนี้ "หลายล้านคน" ยังมีคนที่บ้านอีกกี่ล้าน ญาติพี่น้องของคนพวกนี้ทั้งในกรุงเทพฯและ "ต่างจังหวัด"อีกเท่าไหร่ ในยุคติดต่อสื่อสารไร้สายแบบนี้ มันย่อมมีการส่งข่าว อธิบายให้เห็นภาพได้ไม่ยาก จริงอยู่ในชนบทห่างไกล อิทธิพลของระบอบทักษิณ นโยบาย"ประชานิยม" ยังมีอิทธิพลสูง ชาวบ้านรากหญ้ายังชื่นชอบ แต่ถามว่าบรรยากาศตอนนี้ กับเมื่อสองปีก่อน มันเริ่มเจอจางลงไปเรื่อยๆ อย่างน้อยที่เห็นจากโครงการ "จำนำข้าว" ที่สังเกตเห็นว่า "มีเสียงด่ายิ่งลักษณ์-ทักษิณ" ให้ได้ยินชัดมากขึ้น และเรื่องนี้แหละที่ต้อง "แข่งกับเวลา" หากยังหาเงินมาใช้ "หนี้"ขอย้ำว่า "จ่ายหนี้ชาวนา"ไม่ได้ ภายในอย่างช้าที่สุดสิ้นเดือนนี้ รับรองว่า "หายนะ"แน่นอน
00 ปัญหาที่บังเกิดขึ้นล่าสุดก็คือ แม้ว่า รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง จะวิ่งเต้น ทั้งขู่ทั้งปลอบ จนทำให้ สบน. หาช่องทางกู้เงิน 1.3 แสนล้าน โดยใช้วิชามารไปโยกงบที่เคยคิดจะใช้ในโครงการ "โคตรกู้" 2 ล้านล้านบาท มาตั้งงบสำหรับโครงการจำนำข้าวไปก่อน และใช้ที่ปรึกษากฎหมายรัฐบาลแสตมป์กฤษฎีกา รับรองแล้วก็ตาม โดยวิธีการหลังจากนี้ คือจะให้ ธ.ก.ส.ไปกู้จากสถาบันการเงินต่างๆ แล้วให้ กระทรวงการคลังค้ำประกัน แต่ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ก็คือ ยังไม่มีสถาบันการเงินที่ไหน "กล้าปล่อยกู้" เพราะภาพของโครงการจำนำข้าวมัน "เน่า" จนไม่มีชิ้นดีแล้ว ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของแบงก์กรุงไทยรีบออกมาปฏิเสธข่าวการปล่อยกู้ให้รัฐบาล 1.6 แสนล้านบาท ให้กับรัฐบาลเพื่อไปโปะโครงการดังกล่าว นั่นหมายความว่า ถ้าแบงก์ไหนปล่อยกู้ แบงก์นั้นก็จะ "สั่นสะเทือน"ทันที เพราะมีสิทธิที่ประชาชนจะแห่ไปถอนเงินออกมา !!
