วานนี้ ( 23 ม.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้ลงตรวจการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ ที่ จ.ตรัง และ กระบี่ โดยนายสมชัย กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการหารือมอบนโยบายแก่กกต. จังหวัด และกกต.ประจำเขต จ.ตรัง ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ยากที่สุดตั้งแต่มีกกต. มา ภายใต้ความขัดแย้งโดยความเชื่อที่รุนแรงของแต่ละฝ่ายที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางให้สำเร็จ ทำให้กกต.อยู่ใต้แรงกดดันของการต้องทำตามหน้าที่ และการอยู่ร่วมกับคนในสังคม บางครั้งการเดินหน้าของกกต.กลับถูกมองว่าเป็นศัตรู ดังนั้นสิ่งที่เป็นหลักของกกต. คือเดินทางกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และทำตามหน้าที่เต็มที่เท่าที่จะทำได้
“กกต.กลางก็พูดต่อสังคมตลอดว่า เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.แล้วยังไงก็มีปัญหาเปิดประชุมสภาไม่ได้ แต่กกต.ก็ขยายเวลาเองเกินกฎหมายไม่ได้ และสิ่งที่ได้พูดล่วงหน้าก็เป็นจริงหมด จนกกต.ถูกกล่าวหาว่าตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ จึงไม่เข้าใจว่าคนที่กล่าวหาว่าเราพูดผิด เขาคิดตามเหตุผลที่เราบอกไปหรือไม่”
นายสมชัย กล่าวอีกว่า รัฐบาลอยากให้ กกต. ออกเป็นประกาศ เพราะถ้าผิด กกต.จะเป็นฝ่ายผิด และรัฐบาลก็ไม่คุยกับกกต. ทำให้ 28 เขต จะมีส.ส. เมื่อไรไม่รู้ ส่วน 22 เขต ที่มีผู้สมัครรายเดียว หลายเขตอยู่ทางใต้ อาจมีกรณีโหวตโน มากกว่า แต่ยังไงก็ตาม เลือก 3 ครั้งก็จบ แต่โจทย์ที่ใหญ่กว่าคือ บัญชีรายชื่อ 125 คน ผู้รู้บอกว่าจะนับคะแนนได้ ต้องรวมทุกหน่วย คะแนนขาดหน่วยเดียวก็ประกาศไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงดูเหมือนจะไม่ได้ขาดแค่หน่วยเดียว แต่จะขาดแค่ไหนก็ไม่รู้
“หลายคนห่วงว่า พวก ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้งก่อน จะกินเงินเดือนฟรีๆ คำตอบคือ จะรับเงินเดือนได้เมื่อเปิดประชุมสภา และมีการปฏิญาณตนก่อน จึงไม่มีส.ส.คนไหนจะได้รับเงินเดือนในช่วงนี้ ไปจนเปิดประชุมสภาได้ เห็นชัดๆว่าเป็นแบบนี้ยังจะเดินหน้าต่อ ก็ไม่ว่ากัน”นายสมชัย กล่าวและว่า วันนี้โจทย์ใหญ่ที่สุดยังไม่ใช่ปัญหาวันเลือกตั้งลงคะแนนไม่ได้ แต่คือการฟ้องเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะวันนี้พบว่าการเลือกตั้ง ไม่สามารถจัดเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศแล้ว และเชื่อว่า จะต้องมีคนหาเหตุร้องแน่
นายสมชัย แนะว่าให้กกต.จังหวัดและตำรวจ บันทึกภาพเหตุการณ์ วีดีโอ หากเกิดเหตุในวันลงคะแนน ส่วนการจับกุมขึ้นอยู่ที่ตำรวจ ต้องตัดสินใจ อาจไม่จำเป็นต้องกระทำในวันเกิดเหตุจริง แม้แต่กกต.เองถูกตั้งคำถามว่า ทำไมไม่แจ้งความดำเนินคดี หากการแจ้งความไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ก็อย่าไปทำ เช่นเดียวกับการเดินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เดินมาหลายวัน แต่ทำไมตำรวจไม่จับกุม ก็เพราะรู้ว่าจับกุมแล้วเหตุการณ์มันจะรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในการประชุม กกต.ประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 4 เขตเลือกตั้งของ จ.ตรัง ได้รายงานปัญหาให้กับนายสมชัย ทราบระบุว่า มีปัญหาความไม่เข้าใจในพื้นที่สูง มีการลงบันทึกประจำวันกรณีถูกปิดล้อม เพื่อยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ ก็ถูกนำไปตีความว่าแจ้งความกล่าวหาผู้ชุมนุม กดดันจนกกต. เขตหลายคนต้องลาออกไป 4 คน และกระทรวงศึกษาธิการ ก็ไม่ให้ความร่วมมือแล้ว เพราะต่างมองว่า กปปส.กำลังจะชนะ ครูยิ่งไม่ออกมา รวมทั้งยังเห็นว่าเหตุปาระเบิดและการที่รัฐบาลออกพ.ร.กฉุกเฉิน ที่กทม. ส่งผลให้เกิดปฏิกริยาในภาคใต้ ทำให้การต่อต้านการเลือกตั้งทวีความรุนแรงมากขึ้น เจ้าหน้าที่กกต.ที่เป็นประชาชน อาจไม่กลัวกับความผิดเล็กๆ ที่ละเว้นการทำหน้าที่ ส่วนที่เป็นข้าราชการ ก็พยายามทำเท่าที่ทำได้ กปน.หลายคนพยายามหาแล้ว นอกจากไม่ครบ ที่หามาก็ยังมีการลาออก เชื่อว่าวันที่ 2 ก.พ.นี้ ถ้าเอากฎหมายมาจับ จะลุกเป็นไฟ และมองหน้ากันไม่ติด”อนุ กกต.เขต รายหนึ่งกล่าวรายงานต่อ นายสมชัย
ด้านพล.ต.ต.จีระวัฒน์ อุดมสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย โดยต้องรอ นโยบายผู้บังคับบัญชาว่า หากมีผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากๆ จะทำอย่างไร ประเมินแล้วแม้มีรปภ.หน่วยละ 2 คน ก็ยังมีปัญหา จึงได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อคอยแก้ปัญหา โดยตำรวจ ต้องรับภาระโดยไม่มีงบประมาณพิเศษให้ ต้องใช้งบปกติของตนเอง
“คาดว่าวันที่ 26 ม.ค. ถ้าไม่มีการสลายผู้ชุมนุมในพื้นที่ ปะทะกันจะไม่รุแรง จะใช้หลักการเจรจา ส่วนใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องลงบันทึกประจำวันถ้ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ยกเว้นความผิดซึ่งหน้า แต่หากเป็นเรื่องการเมืองต้องคำนึงถึงมวลชน แต่หากใครที่เข้าไปถูกทุกตี มาร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ถูกคุกคามมาแจ้งความตำรวจ ก็ต้องดำเนินคดี ยืนยันตำรวจมีเพียงโล่ กับกระบองเท่านั้น ไม่มีการใช้อาวุธปืน” ผบ.สภจ.ตรัง กล่าว
หลังการหารือ นายสมชัยได้เชิญตัวแทน กปปส.ตรัง ประมาณ 6 คน มาสะท้อนความคิดต่อที่ประชุม เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ โดยกปปส. ตรัง ที่เดินทางมา กล่าวว่า เคยเป็นพีเน็ตมาก่อน วันนี้ถ้าไม่ใช่นายสมชัย ซึ่งเป็นอดีตพีเน็ตมา เชื่อว่าวงประชุมนี้ แตกไปแล้ว
นายศักดิ์สฤษฏ์ ศรีประสาท ตัวแทน กปปส.ตรัง ซึ่งเป็นนักวิชาการ สะท้อนว่า วันที่ 26 ม.ค. และ 2 ก.พ. กกต.อย่าเสี่ยงเลย เพราะไม่มีทางจัดการเลือกตั้งในจ.ตรังได้ ใครก็เอาไม่อยู่ ต่อให้เอาทหารทั้งกองทัพมา ก็เอาไม่อยู่ และไม่ใช่ว่าแค่พรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครแล้วจะมีการเลือกตั้งได้ แต่ต้องให้คนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองในพื้นที่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ ไม่เฉพาะการหาเสียง แต่รวมถึงการแสดงความเห็น
ทางวิชาการ ที่เห็นต่างได้ จึงจะมีการเลือกตั้ง เพราะเราทนกับวิธีการคุกคามในภาคเหนือภาคอีสานมานานแล้ว ทั้งที่จังหวัดตรัง มีสถานีวิทยุที่เชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งใจกลางเมือง ก็ไม่มีใครไปคุกคาม
“ขนาดคนที่แสดงอาการจาบจ้วงในหลวง ที่สนามรัชมังคลาฯ ยังไปแสงความคิดเห็นเปิดเผยที่ จ.เชียงใหม่ โดยที่ตำรวจไม่ทำอะไร ทำให้พวกเรารับไม่ได้”นายศักดิ์สฤษฏ์ กล่าว
** ห่วงเลือกตั้งล่วงหน้า 26ม.ค.ถูกปิดล้อม
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.ว่า แม้ขณะนี้ทางกกต.จะอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า หน่วยงานใดมีอำนาจออก พ.ร.ฎ.วันเลือกตั้ง และกำหนดเลือกตั้งใหม่นั้น แต่หากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำสั่งใดๆออกมา ทางกกต.ก็ต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งไปตามกำหนดการตามปกติ โดยขณะนี้ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก มีความพร้อมใน การจัดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ส่วนภาคกลางถือว่ามีความพร้อมในระดับหนึ่ง แม้จะมีรายงานว่ามีกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งมาปิดล้อมศาลากลางและสำนักงานกกต.ประจำจังหวัด จำนวน 3-4 แห่งก็ตาม แต่ภาพรวมทุกอย่าง ก็ถือว่ามีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง
ส่วนกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ 15 จังหวัด พื้นที่ภาคใต้ ถือว่ายังเป็นปัญหาอยู่ โดยเฉพาะขณะนี้ศาลากลางจังหวัด และสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดที่เป็นศูนย์บัญชาการได้ถูกกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้งปิดล้อมหมดทุกแห่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไปอาศัยสถานที่เซฟเฮาส์ปฏิบัติงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งแทน แต่ก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งทางกกต.ก็จะพยายามเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
สำหรับวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 26ม.ค.นี้ ทางกกต. มีความเป็นห่วงว่า ในวันนั้นจะไม่สามารถเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าได้ เพราะจากสถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่แน่ใจว่าจะมีบุคคลที่ไม่เห็นด้วยมาปิดล้อม หรือขัดขวางการลงคะแนนหรือไม่ แต่หากมีการปิดล้อมหรือกดดันการลงคะแนนเลือกตั้ง ทางกกต.ก็มีแนวทางปฏิบัติซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ ตามมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. อย่างไรก็ตาม ทางประธานกกต.และกกต. ทุกคนได้เน้นย้ำในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการปะทะความรุนแรงกับการจัดการลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
** หาที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งใหม่
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่านายสมมาตร มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้า สำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้รายรายงานข้อมูลให้ที่ประชุมทราบว่า โรงพิมพ์องค์การค้าฯ ลาดพร้าว ได้รับความเสียหายอย่างน่าตกใจ จากการที่ผู้ชุมนุมเข้ามาปิดล้อมและบุกรุก เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการตัดไฟ ทำลายอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ต่างๆ จนทำให้อุปกรณ์ที่สำคัญภายในองค์การค้าฯ ลาดพร้าว ได้รับความเสียหายหลายชิ้น เช่น โต๊ะควบคุมการจ่ายหมึกพิมพ์ จอควบคุมการทำงาน เครื่องพิมพ์ออฟเซทป้อนม้วน แผงวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพิมพ์แบบเรียนไม่เสร็จตามกำหนดเวลา
ทั้งนี้ องค์การค้าฯจะลงมือซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย และเร่งจัดพิมพ์ตำราเรียน ซึ่งองค์การค้าฯ ยังมั่นใจว่าจะสามารถพิมพ์ตำราเรียนได้ทันให้เสร็จตามกำหนด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้องค์การค้าฯ ตามแผนสำรองไว้เผื่อโรงพิมพ์ถูกปิดล้อม หรือบุกทำลายอุปกรณ์อีก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปทำงานในโรงพิมพ์ได้ ก็ให้องค์การค้าฯหาวิธีที่จะจัดพิมพ์ตำราเรียนให้ทันกำหนด
“เรื่องการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งนั้น เป็นการทำสัญญาระหว่างองค์การค้าฯกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะฉะนั้น ศธ.จะไม่เข้าไปก้าวก่าย แต่ให้องค์การค้าฯไปหาสถานที่จัดพิมพ์ใหม่ภายใต้การยินยอม และการควบคุมของ กกต. เพื่อให้การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเสร็จตามกำหนด ซึ่งเข้าใจว่าเหลือจำนวนบัตรเลือกตั้งที่จะต้องจัดพิมพ์อีกไม่มาก”นายจาตุรนต์ กล่าว
“กกต.กลางก็พูดต่อสังคมตลอดว่า เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.แล้วยังไงก็มีปัญหาเปิดประชุมสภาไม่ได้ แต่กกต.ก็ขยายเวลาเองเกินกฎหมายไม่ได้ และสิ่งที่ได้พูดล่วงหน้าก็เป็นจริงหมด จนกกต.ถูกกล่าวหาว่าตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ จึงไม่เข้าใจว่าคนที่กล่าวหาว่าเราพูดผิด เขาคิดตามเหตุผลที่เราบอกไปหรือไม่”
นายสมชัย กล่าวอีกว่า รัฐบาลอยากให้ กกต. ออกเป็นประกาศ เพราะถ้าผิด กกต.จะเป็นฝ่ายผิด และรัฐบาลก็ไม่คุยกับกกต. ทำให้ 28 เขต จะมีส.ส. เมื่อไรไม่รู้ ส่วน 22 เขต ที่มีผู้สมัครรายเดียว หลายเขตอยู่ทางใต้ อาจมีกรณีโหวตโน มากกว่า แต่ยังไงก็ตาม เลือก 3 ครั้งก็จบ แต่โจทย์ที่ใหญ่กว่าคือ บัญชีรายชื่อ 125 คน ผู้รู้บอกว่าจะนับคะแนนได้ ต้องรวมทุกหน่วย คะแนนขาดหน่วยเดียวก็ประกาศไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงดูเหมือนจะไม่ได้ขาดแค่หน่วยเดียว แต่จะขาดแค่ไหนก็ไม่รู้
“หลายคนห่วงว่า พวก ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้งก่อน จะกินเงินเดือนฟรีๆ คำตอบคือ จะรับเงินเดือนได้เมื่อเปิดประชุมสภา และมีการปฏิญาณตนก่อน จึงไม่มีส.ส.คนไหนจะได้รับเงินเดือนในช่วงนี้ ไปจนเปิดประชุมสภาได้ เห็นชัดๆว่าเป็นแบบนี้ยังจะเดินหน้าต่อ ก็ไม่ว่ากัน”นายสมชัย กล่าวและว่า วันนี้โจทย์ใหญ่ที่สุดยังไม่ใช่ปัญหาวันเลือกตั้งลงคะแนนไม่ได้ แต่คือการฟ้องเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะวันนี้พบว่าการเลือกตั้ง ไม่สามารถจัดเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศแล้ว และเชื่อว่า จะต้องมีคนหาเหตุร้องแน่
นายสมชัย แนะว่าให้กกต.จังหวัดและตำรวจ บันทึกภาพเหตุการณ์ วีดีโอ หากเกิดเหตุในวันลงคะแนน ส่วนการจับกุมขึ้นอยู่ที่ตำรวจ ต้องตัดสินใจ อาจไม่จำเป็นต้องกระทำในวันเกิดเหตุจริง แม้แต่กกต.เองถูกตั้งคำถามว่า ทำไมไม่แจ้งความดำเนินคดี หากการแจ้งความไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ก็อย่าไปทำ เช่นเดียวกับการเดินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เดินมาหลายวัน แต่ทำไมตำรวจไม่จับกุม ก็เพราะรู้ว่าจับกุมแล้วเหตุการณ์มันจะรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในการประชุม กกต.ประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 4 เขตเลือกตั้งของ จ.ตรัง ได้รายงานปัญหาให้กับนายสมชัย ทราบระบุว่า มีปัญหาความไม่เข้าใจในพื้นที่สูง มีการลงบันทึกประจำวันกรณีถูกปิดล้อม เพื่อยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ ก็ถูกนำไปตีความว่าแจ้งความกล่าวหาผู้ชุมนุม กดดันจนกกต. เขตหลายคนต้องลาออกไป 4 คน และกระทรวงศึกษาธิการ ก็ไม่ให้ความร่วมมือแล้ว เพราะต่างมองว่า กปปส.กำลังจะชนะ ครูยิ่งไม่ออกมา รวมทั้งยังเห็นว่าเหตุปาระเบิดและการที่รัฐบาลออกพ.ร.กฉุกเฉิน ที่กทม. ส่งผลให้เกิดปฏิกริยาในภาคใต้ ทำให้การต่อต้านการเลือกตั้งทวีความรุนแรงมากขึ้น เจ้าหน้าที่กกต.ที่เป็นประชาชน อาจไม่กลัวกับความผิดเล็กๆ ที่ละเว้นการทำหน้าที่ ส่วนที่เป็นข้าราชการ ก็พยายามทำเท่าที่ทำได้ กปน.หลายคนพยายามหาแล้ว นอกจากไม่ครบ ที่หามาก็ยังมีการลาออก เชื่อว่าวันที่ 2 ก.พ.นี้ ถ้าเอากฎหมายมาจับ จะลุกเป็นไฟ และมองหน้ากันไม่ติด”อนุ กกต.เขต รายหนึ่งกล่าวรายงานต่อ นายสมชัย
ด้านพล.ต.ต.จีระวัฒน์ อุดมสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย โดยต้องรอ นโยบายผู้บังคับบัญชาว่า หากมีผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากๆ จะทำอย่างไร ประเมินแล้วแม้มีรปภ.หน่วยละ 2 คน ก็ยังมีปัญหา จึงได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อคอยแก้ปัญหา โดยตำรวจ ต้องรับภาระโดยไม่มีงบประมาณพิเศษให้ ต้องใช้งบปกติของตนเอง
“คาดว่าวันที่ 26 ม.ค. ถ้าไม่มีการสลายผู้ชุมนุมในพื้นที่ ปะทะกันจะไม่รุแรง จะใช้หลักการเจรจา ส่วนใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องลงบันทึกประจำวันถ้ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ยกเว้นความผิดซึ่งหน้า แต่หากเป็นเรื่องการเมืองต้องคำนึงถึงมวลชน แต่หากใครที่เข้าไปถูกทุกตี มาร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ถูกคุกคามมาแจ้งความตำรวจ ก็ต้องดำเนินคดี ยืนยันตำรวจมีเพียงโล่ กับกระบองเท่านั้น ไม่มีการใช้อาวุธปืน” ผบ.สภจ.ตรัง กล่าว
หลังการหารือ นายสมชัยได้เชิญตัวแทน กปปส.ตรัง ประมาณ 6 คน มาสะท้อนความคิดต่อที่ประชุม เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ โดยกปปส. ตรัง ที่เดินทางมา กล่าวว่า เคยเป็นพีเน็ตมาก่อน วันนี้ถ้าไม่ใช่นายสมชัย ซึ่งเป็นอดีตพีเน็ตมา เชื่อว่าวงประชุมนี้ แตกไปแล้ว
นายศักดิ์สฤษฏ์ ศรีประสาท ตัวแทน กปปส.ตรัง ซึ่งเป็นนักวิชาการ สะท้อนว่า วันที่ 26 ม.ค. และ 2 ก.พ. กกต.อย่าเสี่ยงเลย เพราะไม่มีทางจัดการเลือกตั้งในจ.ตรังได้ ใครก็เอาไม่อยู่ ต่อให้เอาทหารทั้งกองทัพมา ก็เอาไม่อยู่ และไม่ใช่ว่าแค่พรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครแล้วจะมีการเลือกตั้งได้ แต่ต้องให้คนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองในพื้นที่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ ไม่เฉพาะการหาเสียง แต่รวมถึงการแสดงความเห็น
ทางวิชาการ ที่เห็นต่างได้ จึงจะมีการเลือกตั้ง เพราะเราทนกับวิธีการคุกคามในภาคเหนือภาคอีสานมานานแล้ว ทั้งที่จังหวัดตรัง มีสถานีวิทยุที่เชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งใจกลางเมือง ก็ไม่มีใครไปคุกคาม
“ขนาดคนที่แสดงอาการจาบจ้วงในหลวง ที่สนามรัชมังคลาฯ ยังไปแสงความคิดเห็นเปิดเผยที่ จ.เชียงใหม่ โดยที่ตำรวจไม่ทำอะไร ทำให้พวกเรารับไม่ได้”นายศักดิ์สฤษฏ์ กล่าว
** ห่วงเลือกตั้งล่วงหน้า 26ม.ค.ถูกปิดล้อม
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.ว่า แม้ขณะนี้ทางกกต.จะอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า หน่วยงานใดมีอำนาจออก พ.ร.ฎ.วันเลือกตั้ง และกำหนดเลือกตั้งใหม่นั้น แต่หากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำสั่งใดๆออกมา ทางกกต.ก็ต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งไปตามกำหนดการตามปกติ โดยขณะนี้ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก มีความพร้อมใน การจัดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ส่วนภาคกลางถือว่ามีความพร้อมในระดับหนึ่ง แม้จะมีรายงานว่ามีกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งมาปิดล้อมศาลากลางและสำนักงานกกต.ประจำจังหวัด จำนวน 3-4 แห่งก็ตาม แต่ภาพรวมทุกอย่าง ก็ถือว่ามีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง
ส่วนกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ 15 จังหวัด พื้นที่ภาคใต้ ถือว่ายังเป็นปัญหาอยู่ โดยเฉพาะขณะนี้ศาลากลางจังหวัด และสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดที่เป็นศูนย์บัญชาการได้ถูกกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้งปิดล้อมหมดทุกแห่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไปอาศัยสถานที่เซฟเฮาส์ปฏิบัติงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งแทน แต่ก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งทางกกต.ก็จะพยายามเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
สำหรับวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 26ม.ค.นี้ ทางกกต. มีความเป็นห่วงว่า ในวันนั้นจะไม่สามารถเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าได้ เพราะจากสถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่แน่ใจว่าจะมีบุคคลที่ไม่เห็นด้วยมาปิดล้อม หรือขัดขวางการลงคะแนนหรือไม่ แต่หากมีการปิดล้อมหรือกดดันการลงคะแนนเลือกตั้ง ทางกกต.ก็มีแนวทางปฏิบัติซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ ตามมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. อย่างไรก็ตาม ทางประธานกกต.และกกต. ทุกคนได้เน้นย้ำในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการปะทะความรุนแรงกับการจัดการลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
** หาที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งใหม่
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่านายสมมาตร มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้า สำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้รายรายงานข้อมูลให้ที่ประชุมทราบว่า โรงพิมพ์องค์การค้าฯ ลาดพร้าว ได้รับความเสียหายอย่างน่าตกใจ จากการที่ผู้ชุมนุมเข้ามาปิดล้อมและบุกรุก เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการตัดไฟ ทำลายอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ต่างๆ จนทำให้อุปกรณ์ที่สำคัญภายในองค์การค้าฯ ลาดพร้าว ได้รับความเสียหายหลายชิ้น เช่น โต๊ะควบคุมการจ่ายหมึกพิมพ์ จอควบคุมการทำงาน เครื่องพิมพ์ออฟเซทป้อนม้วน แผงวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพิมพ์แบบเรียนไม่เสร็จตามกำหนดเวลา
ทั้งนี้ องค์การค้าฯจะลงมือซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย และเร่งจัดพิมพ์ตำราเรียน ซึ่งองค์การค้าฯ ยังมั่นใจว่าจะสามารถพิมพ์ตำราเรียนได้ทันให้เสร็จตามกำหนด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้องค์การค้าฯ ตามแผนสำรองไว้เผื่อโรงพิมพ์ถูกปิดล้อม หรือบุกทำลายอุปกรณ์อีก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปทำงานในโรงพิมพ์ได้ ก็ให้องค์การค้าฯหาวิธีที่จะจัดพิมพ์ตำราเรียนให้ทันกำหนด
“เรื่องการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งนั้น เป็นการทำสัญญาระหว่างองค์การค้าฯกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะฉะนั้น ศธ.จะไม่เข้าไปก้าวก่าย แต่ให้องค์การค้าฯไปหาสถานที่จัดพิมพ์ใหม่ภายใต้การยินยอม และการควบคุมของ กกต. เพื่อให้การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเสร็จตามกำหนด ซึ่งเข้าใจว่าเหลือจำนวนบัตรเลือกตั้งที่จะต้องจัดพิมพ์อีกไม่มาก”นายจาตุรนต์ กล่าว