ASTV ผู้จัดการรายวัน - แฉ" น.ส.อรวรรณ จาบกัน " หนึ่งในสามคนร้ายที่อยู่ในรถเก๋งยิงใส่ผู้ชุมนุมกปปส.อนุสาวรีย์ชัยฯกลางดึกที่ 21 ม.ค.เคยถูกจับคดีร่วมกับแฟนหนุ่ม ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณ มียาไอซ์ครอบครองตำรวจเผยเร่งสืบสวนคดีปาบึ้มอนุสาวรีย์ชัยฯ ขณะที่“กบ วงศ์ยอด” ส่งทนายแจ้งความสน.พญาไท อ้างความบริสุทธิ์ ยันวันเกิดเหตุพาเมียไปฝากท้องที่ จ.ชัยนาท
เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.พีระกิตต์ หาญเวช พงส.สน.พญาไท รับแจ้งมีเหตุยิงด้วยอาวุธปืนเข้าใส่ที่ชุมนุม กปปส.เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณถนนพหลโยธินขาออก บริเวณใกล้กับทางด่วนพหลโยธิน แขวงสามเสนนอก เขตพญาไท จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รอง ผบก.น.1 พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน กฉ 5906 ตรัง สภาพรถมีรอยกระสุนถูกยิงที่ด้านข้างรถเหนือยางขวา 1 นัด และที่ทะเบียนหลังอีก 1 นัด โดยการ์ด กปปส.สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือ น.ส.อรวรรณ จาบกัน อายุ 26 ปี
สอบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวได้ขับวนอนุสาวรีย์ฯ 2 รอบ โดยภายในมีทั้งหมด 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 ก่อนจะยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 3 นัด ก่อนพยายามขับหนีไปทางถนนพหลโยธิน แต่ติดด่านที่ผู้ชุมนุมตั้งไว้ จึงจอดรถทิ้งไว้ โดยชายทั้ง 2 คนได้วิ่งหนีหายเข้าไปบริเวณใต้ทางด่วนพหลโยธิน โดยรูปพรรณของชายผู้ก่อเหตุรายแรกรูปร่างอ้วน สวมเสื้อแขนยาวสีเขียวขี้ม้าทับเสื้อยืดสีฟ้า สวมกางเกงขายาวสีเทา ซึ่งทางการ์ดยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงปืนครั้งนี้ ส่วนอีกรายเป็นชายรูปร่างผอม ไม่ทราบลักษณะการแต่งกาย ด้าน น.ส.อรวรรณพยายามวิ่งไปฝั่งตรงข้าม แต่พบกับการ์ดที่เฝ้าอยู่พอดีจึงถูกควบคุมตัวไว้ได้ ซึ่งทางตำรวจเร่งสอบปากคำและหาหลักฐานเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อทำการสืบค้นประวัติน.ส.อรวรรณ จาบกัน พบเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับดำเนินคดีร่วมกับแฟนหนุ่ม ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2556 ในข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ด้วย
**เร่งสืบสวนคดีปาบึ้มอนุสาวรีย์ชัยฯ
เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ สน.พญาไท พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองผบก.น.1 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท ร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดีคนร้ายปาระเบิดบริเวณอนุเสาวรีย์ชัยฯ โดยพล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากยังไม่มีเบาะแสและยังไม่มีใครเข้ามาให้เบาะแส ส่วนในทางคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้
สำหรับคดีที่มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิวิค สีดำ ทะ เบียนกฉ-5906 ตรัง ขับเข้าบริเวณด่านรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมที่อนุเสาวรีย์ชัยฯ และมีการกราดยิงกันนั้น โดยในที่เกิดเหตุสามารถควบคุมตัวผู้ที่โดยสารมา กับรถคันดังกล่าวได้ เป็นหญิงสาว 1 รายทราบชื่อคือ น.ส.อรวรรณ จาบกัน อายุ 26 ปี ส่วนคนร้ายเป็นชาย2 คน หลบหนีไปได้
และจากการตรวจปัสสาวะของ น.ส.อรวรรณ พบว่า มีปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่าเพิ่งเสพมา ส่วนสาเหตุที่วนรถ เข้าไปอนุเสาวรีย์ชัยนั้น อ้างว่าดูเส้นทางตามจีพีเอสแล้วหลงทาง สำหรับเหตุการยิงกันนั้น น.ส.อรวรรณ อ้างว่า ชายในรถทั้ง 2 ตัวเองไม่รู้จักและไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด ส่วนรถคันดังกล่าวตรวจสอบแล้วพบว่าเป็ยของ นายคอหมาด แสงลำฟ้า ชาว จ.ตรัง เป็นรถที่เจ้าของเอามาจำนำไว้แล้วขาดส่ง ผู้รับจำนำจึงได้นำไปขายต่อ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา น.ส.อรวรรณว่าเสพยาเสพติดให้โทษ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบสวน น.ส.อรวรรณ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุน.ส.อรวรรณ ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลมีชื่อท่านหนึ่งใน จ.กาญจนบุรีในราคา 5,000 บาท ให้มาส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ บริเวณถนนเพชรบุรีซอย 12 เมื่อมาถึงก็ได้จอดรถรับชาย 2 คนที่นัดไว้ขับรถออกจากซอยเพชรบุรี12 เพื่อจะไปส่ง น.ส.อรวรรณ ที่จ.นครปฐม ก่อนจะมาเกิดเหตุดังกล่าว
****“กบ วงศ์ยอด”ส่งทนายแจ้งความอ้างไม่เกี่ยว
ที่สน.พญาไท นายจิระศักดิ์ บุณณะ ทนายความของ ส.ต.รชต วงศ์ยอด ทหารสังกัด ร.152 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 15 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อธิกภพ จันทร์โสดา พนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อลงบันทึกประจำวันกรณีที่มีคนนำภาพส.ต.รชต ไปเปรียบเทียบว่า เป็นคนเดียวกับที่ลอบปาระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ พร้อมนำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด สำเนาบันทึกภาพการเผยแพร่ข่าวส.ต.รชตซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยคดีปา ระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งภาพถ่ายปัจจุบันของส.ต.รชตมามอบให้ กับพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐาน
นายจิระศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตนได้สอบถามวันเวลาที่เกิดเหตุนั้น พบว่า ส.ต.รชตไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ เเต่พาภรรยาไปฝากครรภ์ที่จ.ชัยนาจ โดยมีหลักฐาน เป็นภาพวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในจ.ชัยนาจ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจในการขอภาพวงจรปิดเหล่านั้นเป็นหลักฐานในการยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งในเบื้องต้นทางตำรวจรับลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจะประสานขอภาพจากกล้อง วงจรปิดซึ่งนายจิระศักดิ์อ้างว่าเป็น หลักฐานยืนยันตัวตนส.ต.รชตที่จ.ชัยนาท เพื่อรวบรวบพยานหลักฐานต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม ส.ต.รชต ถึงตำแหน่งหน้าที่ราชการปัจจุบัน ส.ต.รชตกล่าวว่า ตนถูกสั่งพักราชการอยู่ โดยสังกัดอยู่ ร.152 พัน.3 กองพลทหารราบที่ 15 จ.ประจวบคีรีขันธ์ กองทัพบก โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ส.ต.รชต วงศ์ยอด ยังได้โพสต์ลงในยูทูป โต้ตอบกับคนในโลกไซเบอร์ที่กล่าวหาว่าเป็นคนปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ.
เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.พีระกิตต์ หาญเวช พงส.สน.พญาไท รับแจ้งมีเหตุยิงด้วยอาวุธปืนเข้าใส่ที่ชุมนุม กปปส.เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณถนนพหลโยธินขาออก บริเวณใกล้กับทางด่วนพหลโยธิน แขวงสามเสนนอก เขตพญาไท จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รอง ผบก.น.1 พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน กฉ 5906 ตรัง สภาพรถมีรอยกระสุนถูกยิงที่ด้านข้างรถเหนือยางขวา 1 นัด และที่ทะเบียนหลังอีก 1 นัด โดยการ์ด กปปส.สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือ น.ส.อรวรรณ จาบกัน อายุ 26 ปี
สอบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวได้ขับวนอนุสาวรีย์ฯ 2 รอบ โดยภายในมีทั้งหมด 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 ก่อนจะยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 3 นัด ก่อนพยายามขับหนีไปทางถนนพหลโยธิน แต่ติดด่านที่ผู้ชุมนุมตั้งไว้ จึงจอดรถทิ้งไว้ โดยชายทั้ง 2 คนได้วิ่งหนีหายเข้าไปบริเวณใต้ทางด่วนพหลโยธิน โดยรูปพรรณของชายผู้ก่อเหตุรายแรกรูปร่างอ้วน สวมเสื้อแขนยาวสีเขียวขี้ม้าทับเสื้อยืดสีฟ้า สวมกางเกงขายาวสีเทา ซึ่งทางการ์ดยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงปืนครั้งนี้ ส่วนอีกรายเป็นชายรูปร่างผอม ไม่ทราบลักษณะการแต่งกาย ด้าน น.ส.อรวรรณพยายามวิ่งไปฝั่งตรงข้าม แต่พบกับการ์ดที่เฝ้าอยู่พอดีจึงถูกควบคุมตัวไว้ได้ ซึ่งทางตำรวจเร่งสอบปากคำและหาหลักฐานเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อทำการสืบค้นประวัติน.ส.อรวรรณ จาบกัน พบเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับดำเนินคดีร่วมกับแฟนหนุ่ม ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2556 ในข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ด้วย
**เร่งสืบสวนคดีปาบึ้มอนุสาวรีย์ชัยฯ
เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ สน.พญาไท พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองผบก.น.1 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท ร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดีคนร้ายปาระเบิดบริเวณอนุเสาวรีย์ชัยฯ โดยพล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากยังไม่มีเบาะแสและยังไม่มีใครเข้ามาให้เบาะแส ส่วนในทางคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้
สำหรับคดีที่มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิวิค สีดำ ทะ เบียนกฉ-5906 ตรัง ขับเข้าบริเวณด่านรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมที่อนุเสาวรีย์ชัยฯ และมีการกราดยิงกันนั้น โดยในที่เกิดเหตุสามารถควบคุมตัวผู้ที่โดยสารมา กับรถคันดังกล่าวได้ เป็นหญิงสาว 1 รายทราบชื่อคือ น.ส.อรวรรณ จาบกัน อายุ 26 ปี ส่วนคนร้ายเป็นชาย2 คน หลบหนีไปได้
และจากการตรวจปัสสาวะของ น.ส.อรวรรณ พบว่า มีปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่าเพิ่งเสพมา ส่วนสาเหตุที่วนรถ เข้าไปอนุเสาวรีย์ชัยนั้น อ้างว่าดูเส้นทางตามจีพีเอสแล้วหลงทาง สำหรับเหตุการยิงกันนั้น น.ส.อรวรรณ อ้างว่า ชายในรถทั้ง 2 ตัวเองไม่รู้จักและไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด ส่วนรถคันดังกล่าวตรวจสอบแล้วพบว่าเป็ยของ นายคอหมาด แสงลำฟ้า ชาว จ.ตรัง เป็นรถที่เจ้าของเอามาจำนำไว้แล้วขาดส่ง ผู้รับจำนำจึงได้นำไปขายต่อ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา น.ส.อรวรรณว่าเสพยาเสพติดให้โทษ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบสวน น.ส.อรวรรณ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุน.ส.อรวรรณ ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลมีชื่อท่านหนึ่งใน จ.กาญจนบุรีในราคา 5,000 บาท ให้มาส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ บริเวณถนนเพชรบุรีซอย 12 เมื่อมาถึงก็ได้จอดรถรับชาย 2 คนที่นัดไว้ขับรถออกจากซอยเพชรบุรี12 เพื่อจะไปส่ง น.ส.อรวรรณ ที่จ.นครปฐม ก่อนจะมาเกิดเหตุดังกล่าว
****“กบ วงศ์ยอด”ส่งทนายแจ้งความอ้างไม่เกี่ยว
ที่สน.พญาไท นายจิระศักดิ์ บุณณะ ทนายความของ ส.ต.รชต วงศ์ยอด ทหารสังกัด ร.152 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 15 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อธิกภพ จันทร์โสดา พนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อลงบันทึกประจำวันกรณีที่มีคนนำภาพส.ต.รชต ไปเปรียบเทียบว่า เป็นคนเดียวกับที่ลอบปาระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ พร้อมนำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด สำเนาบันทึกภาพการเผยแพร่ข่าวส.ต.รชตซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยคดีปา ระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งภาพถ่ายปัจจุบันของส.ต.รชตมามอบให้ กับพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐาน
นายจิระศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตนได้สอบถามวันเวลาที่เกิดเหตุนั้น พบว่า ส.ต.รชตไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ เเต่พาภรรยาไปฝากครรภ์ที่จ.ชัยนาจ โดยมีหลักฐาน เป็นภาพวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในจ.ชัยนาจ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจในการขอภาพวงจรปิดเหล่านั้นเป็นหลักฐานในการยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งในเบื้องต้นทางตำรวจรับลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจะประสานขอภาพจากกล้อง วงจรปิดซึ่งนายจิระศักดิ์อ้างว่าเป็น หลักฐานยืนยันตัวตนส.ต.รชตที่จ.ชัยนาท เพื่อรวบรวบพยานหลักฐานต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม ส.ต.รชต ถึงตำแหน่งหน้าที่ราชการปัจจุบัน ส.ต.รชตกล่าวว่า ตนถูกสั่งพักราชการอยู่ โดยสังกัดอยู่ ร.152 พัน.3 กองพลทหารราบที่ 15 จ.ประจวบคีรีขันธ์ กองทัพบก โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ส.ต.รชต วงศ์ยอด ยังได้โพสต์ลงในยูทูป โต้ตอบกับคนในโลกไซเบอร์ที่กล่าวหาว่าเป็นคนปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ.