ตร.ถกเครียดคดีบึ้มอนุสาวรีย์ชัยฯ

ตำรวจประชุมแนวทางสืบสวนหาตัวคนร้ายปาระเบิดที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมเผยกรณีคนร้ายซิ่งเก๋งยิงที่อนุสาวรีย์ชัยฯ จับสาวได้ 1 ราย ฉี่ม่วง ส่วนชายอีก 2 คน หลบหนีไปได้

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ สน.พญาไท พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท ร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดีคนร้ายปาระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ กล่าวว่า กรณีติดตามคนร้ายปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งลงพื้นที่ติดตามคนร้ายตามภาพวงจรปิดอยู่ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากยังไม่มีเบาะแส และยังไม่มีใครเข้ามาให้เบาะแส ส่วนในทางคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้ หากใครมีเบาะแส หรือรู้จักบุุคคลในภาพวงจรปิดสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มใด ตราบใดที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ก็อย่าไประบุว่าเป็นใครหรือฝ่ายใด ส่วนหมวกและเสื้อที่พบหลังก่อเหตุนั้นได้ส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์แล้ว

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีที่มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะ เบียน กฉ 5906 ตรัง ขับเข้าบริเวณด่านรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ และมีการกราดยิงกันนั้น โดยในที่เกิดเหตุสามารถควบคุมตัวผู้ที่โดยสารมา กับรถคันดังกล่าวได้ เป็นหญิงสาว 1 รายทราบชื่อคือ น.ส.อรวรรณ จาบกัน อายุ 26 ปี ส่วนคนร้ายเป็นชาย 2 คน หลบหนีไปได้

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ กล่าวอีกว่า หลังจากออกจากถนนเพชรบุรีก็ได้เลี้ยวรถเข้าถนนพญาไท มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัย ก่อนผ่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณโรงพยาบาลโรคไตหลังจากนั้นก็ได้แหกด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปอนุสาวรีย์ชัยฯ จึงไปเจอด่านตรวจรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุม จึงไม่สามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าไปสะพานซังฮี้ได้ จึงเลี้ยวขวาวนอนุสาวรีย์ชัยฯไป ก่อนจะไปเจออีกด่านของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยว จากนั้นก็มีการยิงกันเกิดขึ้น โดยกระสุนโดนเข้าที่แผ่นป้ายทะเบียน 1 นัด และแก้มหลังขวาอีก 1 นัด ยังไม่ทราบขนาดของกระสุนปืน จากนั้นชาย 2 คน ได้ทิ้งรถแล้วหลบหนีไป ส่วน น.ส.อรวรรณ หลบหนีไม่ทัน ถูกควบคุมตัวไว้

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจปัสสาวะของ น.ส.อรวรรณ พบว่า มีปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่ง น.ส.อรวรรณ สารภาพว่าเพิ่งเสพยาเสพติดมา ส่วนสาเหตุที่วนรถเข้าไปอนุสาวรีย์ชัยฯนั้น อ้างว่าดูเส้นทางตามจีพีเอสแล้วหลงทาง สำหรับเหตุการยิงกันนั้น น.ส.อรวรรณ อ้างว่า ชายในรถทั้ง 2 ตัวเองไม่รู้จัก และไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด ส่วนรถคันดังกล่าวตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นของ นายคอหมาด แสงลำฟ้า ชาว จ.ตรัง เป็นรถที่เจ้าของเอามาจำนำไว้แล้วขาดส่ง ผู้รับจำนำจึงได้นำไปขายต่อ ซึ่งจากการตรวจค้นรถเบื้องต้นยังไม่พบอะไรผิดปกติ แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถอย่างละเอียดอีกครั้งเสียก่อน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา น.ส.อรวรรณ ว่าเสพยาเสพติดให้โทษ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป

จากการสอบสวน น.ส.อรวรรณ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.อรวรรณ ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลมีชื่อท่านหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ในราคา 5,000 บาท ให้มาส่งลูกค้าที่กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนเพชรบุรีซอย 12 เมื่อมาถึงก็ได้จอดรถรับชาย 2 คนที่นัดไว้ขับรถออกจากซอยเพชรบุรี 12 เพื่อจะไปส่ง น.ส.อรวรรณ ที่ จ.นครปฐม ก่อนจะมาเกิดเหตุดังกล่าว