จีเอ็มและเชฟโรเลตมั่นใจประเทศไทย เมินปัญหาขัดแย้งทางการเมือง ยันระยะเวลาที่เหลือ 45 วัน มุ่งมั่นศึกษาแผนดำเนินการ “อีโคคาร์” ระยะที่ 2 เชื่อปีนี้รักษายอดขาย 5.7 หมื่นคัน แม้ตลาดรถรวมจะลดลง 7.7%
นายกุสตาโว โคลอซซี รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอ็ม ประเทศไทย และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในไทยปัจจุบัน จีเอ็มมองเป็นเรื่องปกติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขณะที่นโยบายการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร รัฐบาลไทยยังคงให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
“จากนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลไทยที่ผ่านๆ มา แม้จะไม่สามารถทราบได้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย แต่ทำให้เรามั่นใจต่อประเทศไทย รวมถึงโครงการต่อเนื่องอย่างอีโคคาร์ระยะ 2 ที่เหลือเวลาอีก 45 วัน ในการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจีเอ็มและเชฟโรเลตสนใจโครงการดังกล่าวมาก เราจึงมุ่งมั่นศึกษารายละเอียดและการดำเนินงานต่างๆ คืบหน้าไปมาก เมื่อถึงเวลาเชื่อมั่นจะมีความชัดเจนและให้คำตอบได้อย่างแน่นอน”
ในส่วนการดำเนินงานในปี 2556 ที่ผ่านมา เชฟโรเลตประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถใหม่ 5 รุ่น ขยายตัวแทนจำหน่ายในไทยและอาเซียนอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงกิจกรรมตอบแทนสังคมต่อเนื่อง ทำให้เชฟโรเลตมียอดขายเติบโตเกือบทุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวนรวมทั้งหมด 82,884 คัน โดยสามารถสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการในประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และลาว รวมถึงการเข้าไปสร้างศูนย์เชฟโรเลตในประเทศพม่า เพื่อการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์เชฟโรเลต รองรับการเข้าไปขายอย่างเป็นทางการในปีนี้
สำหรับประเทศไทยเชฟโรเลตมียอดขาย 56,389 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 97% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะในปีที่ผ่านมามีความยากลำบากในการทำตลาด จากผลกระทบของโครงการรถคันการรถคันแรก ที่ทำให้เกิดการเติบโตผิดปกติของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ปีนี้จึงคาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ และเชฟโรเลตตั้งเป้าหมายเท่ากับปีที่ผ่านมา หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาด 4.4-4.6% แม้ภาพรวมตลาดรถในไทยปี 2557 นี้ จะลดลงจากการปรับตัวของตลาด 7.7% โดยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านคัน ขณะที่การส่งออกของเชฟโรเลตจากไทยจะเพิ่มขึ้น 10%
นายกุสตาโว โคลอซซี รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอ็ม ประเทศไทย และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในไทยปัจจุบัน จีเอ็มมองเป็นเรื่องปกติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขณะที่นโยบายการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร รัฐบาลไทยยังคงให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
“จากนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลไทยที่ผ่านๆ มา แม้จะไม่สามารถทราบได้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย แต่ทำให้เรามั่นใจต่อประเทศไทย รวมถึงโครงการต่อเนื่องอย่างอีโคคาร์ระยะ 2 ที่เหลือเวลาอีก 45 วัน ในการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจีเอ็มและเชฟโรเลตสนใจโครงการดังกล่าวมาก เราจึงมุ่งมั่นศึกษารายละเอียดและการดำเนินงานต่างๆ คืบหน้าไปมาก เมื่อถึงเวลาเชื่อมั่นจะมีความชัดเจนและให้คำตอบได้อย่างแน่นอน”
ในส่วนการดำเนินงานในปี 2556 ที่ผ่านมา เชฟโรเลตประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถใหม่ 5 รุ่น ขยายตัวแทนจำหน่ายในไทยและอาเซียนอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงกิจกรรมตอบแทนสังคมต่อเนื่อง ทำให้เชฟโรเลตมียอดขายเติบโตเกือบทุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวนรวมทั้งหมด 82,884 คัน โดยสามารถสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการในประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และลาว รวมถึงการเข้าไปสร้างศูนย์เชฟโรเลตในประเทศพม่า เพื่อการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์เชฟโรเลต รองรับการเข้าไปขายอย่างเป็นทางการในปีนี้
สำหรับประเทศไทยเชฟโรเลตมียอดขาย 56,389 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 97% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะในปีที่ผ่านมามีความยากลำบากในการทำตลาด จากผลกระทบของโครงการรถคันการรถคันแรก ที่ทำให้เกิดการเติบโตผิดปกติของตลาดในช่วงที่ผ่านมา ปีนี้จึงคาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ และเชฟโรเลตตั้งเป้าหมายเท่ากับปีที่ผ่านมา หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาด 4.4-4.6% แม้ภาพรวมตลาดรถในไทยปี 2557 นี้ จะลดลงจากการปรับตัวของตลาด 7.7% โดยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านคัน ขณะที่การส่งออกของเชฟโรเลตจากไทยจะเพิ่มขึ้น 10%
