ป.ป.ช.มติฟัน “ขุนค้อน-นิคม”กรณีแก้ไขรธน. ที่มาของส.ว. ชี้เข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ จงใจขัดรธน. ไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรงตาม ม. 270 เรียกรับทราบข้อกล่าวหา 10 ม.ค. 57 ส่วน ส.ส.-ส.ว.ที่เหลือ เตรียมสรุปสำนวน 7 ม.ค. นี้
วานนี้ (26 ธ.ค.) เวลา นายวิชา มหาคุณ กรรมการ และโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ตามที่ ป.ป.ช.มีคำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน กล่าวหา ส.ส.และส.ว.จำนวน 383 คน ว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่และ ร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่ได้ร่วมกันเสนอ ร่าง รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. โดย ป.ป.ช.ทั้งชุดร่วมเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงรวม 6 ปาก และได้ขอเอกสาร หลักฐาน จากศาลรัฐธรรมนูญ รัฐสภา และจากผู้ร้องเป็นจำนวนมาก แล้วพิจารณาเห็นว่าพยานหลักฐานตามที่ได้ในขณะนี้ เพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีผู้ถูกกล่าวหากระทำการส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 รวม 2 ราย คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา จึงมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลทั้งสอง โดยให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 10 ม.ค. 57
ส่วน ส.ส.และส.ว.ที่เหลือ ซึ่งถูกร้องในข้อหาเดียวกันนั้น เนื่องจากมีจำนวนมาก และมีรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาแตกต่างกัน ป.ป.ช. จึงเห็นสมควรให้สรุปสำนวน และลงมติในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 7 ม.ค. 57
วานนี้ (26 ธ.ค.) เวลา นายวิชา มหาคุณ กรรมการ และโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ตามที่ ป.ป.ช.มีคำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน กล่าวหา ส.ส.และส.ว.จำนวน 383 คน ว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่และ ร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่ได้ร่วมกันเสนอ ร่าง รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. โดย ป.ป.ช.ทั้งชุดร่วมเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงรวม 6 ปาก และได้ขอเอกสาร หลักฐาน จากศาลรัฐธรรมนูญ รัฐสภา และจากผู้ร้องเป็นจำนวนมาก แล้วพิจารณาเห็นว่าพยานหลักฐานตามที่ได้ในขณะนี้ เพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีผู้ถูกกล่าวหากระทำการส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 รวม 2 ราย คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา จึงมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลทั้งสอง โดยให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 10 ม.ค. 57
ส่วน ส.ส.และส.ว.ที่เหลือ ซึ่งถูกร้องในข้อหาเดียวกันนั้น เนื่องจากมีจำนวนมาก และมีรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาแตกต่างกัน ป.ป.ช. จึงเห็นสมควรให้สรุปสำนวน และลงมติในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 7 ม.ค. 57