ASTVผู้จัดการรายวัน-“ชัยสิทธิ์”เผย "ทักษิณ" โทรคุยขอให้คนตระกูลชินฯ โลว์โปรไฟล์ทางการเมือง หวัง "ประยุทธ์"ประสานคุย "สุเทพ" แก้ปัญหาม็อบ แนะอย่านิ่งดูดาย เผยยังโทรให้กำลังใจ "ปู" ซัดม็อบทำเกินไปไล่พ้นประเทศ ด้าน ผบ.ทบ. ส่งสารอวยพรปีใหม่ทหารและครอบครัว ด้าน "ประยุทธ์" โอดครวญถูกทุกฝ่ายพาดพิง แต่ทำเงียบหลังแกว่งปากหาเรื่อง “เอเอสทีวีผู้จัดการ”
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (25 ธ.ค.) พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และญาติผู้พี่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านพักย่านรังสิต เพื่อให้อดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนตท.5 และบุคคลใกล้ชิดเยี่ยมคารวะในโอกาสเทศกาลปีใหม่ โดยมีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ได้นำกำลังพลเข้าคารวะแสดงมุทิตาจิตและรับพรปีใหม่
พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มกปปส.ว่า ขอฝากกองทัพในฐานะเสาหลักของประเทศช่วยดูแลประชาชน โดยมองว่า ขณะนี้ ผบ.เหล่าทัพวางตัวต่อสถานการณ์การเมืองได้เหมาะสมแล้ว และทำงานเป็นกลไกของรัฐบาล แต่ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. น่าจะเพิ่มเติมในเชิงลึกด้วยการใช้กลยุทธ์ส่วนตัวในฐานะที่เคยทำงานร่วมกัน ประสานพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า น่าจะมีช่องทางพูดคุยกันได้ เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ภายใต้กติกาและกฎหมาย
"สถานการณ์การเมืองจนถึงปีหน้า คาดการณ์ได้ยาก แต่กองทัพจะนิ่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้กลยุทธ์ต่างๆ ที่เหมาะสมช่วยแก้ไขสถานการณ์ด้วย"
พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาหาตนเมื่อ2-3 วันที่ผ่านมาว่า ขอให้คนตระกูลชินวัตรโลว์โปรไฟล์ทางการเมืองไปก่อน เพราะจะเห็นว่า ขณะนี้มีเพียงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบปาร์ตี้ลิสต์
นอกจากนี้ ตนในฐานะที่เป็นเครือญาติกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้มีการติดต่อให้กำลังใจไปบ้าง แต่นายกรัฐมนตรีอาจมีภารกิจมากจึงไม่ได้รับโทรศัพท์ โดยเห็นว่า นายกรัฐมนตรี ขยันทำงาน และประสานกับต่างประเทศดีมาก รวมทั้งมีนโยบายแก้ปัญหาผู้ชุมนุมที่เหมาะสม เพราะไม่ต้องการทำให้เกิดการปะทะ ขอกลุ่มผู้ชุมนุมอย่ารุกไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนถึงขั้นใหัออกนอกประเทศ เพราะถือว่า เกินไป ทั้งที่รัฐบาลยอมถอยทุกทางแล้ว และมองว่า กรณีความเคลื่อนไหวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และผู้ชุมนุม ถือเป็นการปฏิวัติเงียบไปแล้ว เพราะทหาร ตำรวจ ไม่ออกมาทำหน้าที่
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ส่งสารอวยพรปีใหม่ 2557 แด่กำลังพลและครอบครัว โดยระบุว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณกำลังพลที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม สร้างคุณประโยชน์อย่างยิ่งต่อกองทัพและประเทศ
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะเรื่องการกล่าวพาดพิงถึงกองทัพและผู้บังคับบัญชาบนเวทีของทุกพวกทุกฝ่าย ซึ่งไม่น่าจะเหมาะและไม่ก่อให้เกิดผลดีกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เนื่องจากบรรยากาศในสังคมขณะนี้ควรจะเร่งเสริมสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้น กองทัพคงจะพยายามใช้ความอดทนให้ได้อย่างถึงที่สุด สถานการณ์ปัจจุบันน่าจะพยายามหาทางออกจากความขัดแย้งให้ได้ด้วยการตกลงและทำความเข้าใจกันเพื่อประเทศชาติได้เดินหน้าไปได้ เพื่อการปฏิรูปหรือการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ขยายผลความขัดแย้งไปสู่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ยังอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่บ้าง หากทุกฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองพ้นจากอันตราย ในฐานะคนไทยด้วยกันน่าจะพูดคุยกันได้เสียสละกันบ้าง ถอยให้กันบ้าง
“ขณะที่ประเทศชาติมีปัญหาและต้องการการเยียวยา หากใช้ยาผิดหรือยาแรงเกินไปอาจไม่เกิดผลดีในระยะยาวขณะนี้อาจมีผู้ไม่หวังดีมุ่งหวังให้เกิดความรุนแรงขึ้น ถึงขั้นมีข่าวว่ามีการเตรียมกองกำลังติดอาวุธให้กับประชาชน ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นจริง ทหารคงจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดมาใช้ความรุนแรงกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดเพราะทุกฝ่ายคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น อยากให้ทุกพวกทุกฝ่ายได้ลดความเกลียดชังที่มีต่อกัน ใช้เหตุผลหลักการในการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้สิ่งต่างๆลุกลามบานปลายและเกิดเป็นปัญหาขึ้นมาอีกในอนาคต กองทัพพยายามรักษาสถานะของตนเองให้มั่นคง เพื่อสามารถดูแลประเทศชาติและประชาชนได้ต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย ไม่ได้กล่าวถึงในกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมที่จะดำเนินการกับสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ หลังปรากฎข่าวเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องเงินทอง ตามที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวานนี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (25 ธ.ค.) พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และญาติผู้พี่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านพักย่านรังสิต เพื่อให้อดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนตท.5 และบุคคลใกล้ชิดเยี่ยมคารวะในโอกาสเทศกาลปีใหม่ โดยมีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ได้นำกำลังพลเข้าคารวะแสดงมุทิตาจิตและรับพรปีใหม่
พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มกปปส.ว่า ขอฝากกองทัพในฐานะเสาหลักของประเทศช่วยดูแลประชาชน โดยมองว่า ขณะนี้ ผบ.เหล่าทัพวางตัวต่อสถานการณ์การเมืองได้เหมาะสมแล้ว และทำงานเป็นกลไกของรัฐบาล แต่ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. น่าจะเพิ่มเติมในเชิงลึกด้วยการใช้กลยุทธ์ส่วนตัวในฐานะที่เคยทำงานร่วมกัน ประสานพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า น่าจะมีช่องทางพูดคุยกันได้ เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ภายใต้กติกาและกฎหมาย
"สถานการณ์การเมืองจนถึงปีหน้า คาดการณ์ได้ยาก แต่กองทัพจะนิ่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้กลยุทธ์ต่างๆ ที่เหมาะสมช่วยแก้ไขสถานการณ์ด้วย"
พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาหาตนเมื่อ2-3 วันที่ผ่านมาว่า ขอให้คนตระกูลชินวัตรโลว์โปรไฟล์ทางการเมืองไปก่อน เพราะจะเห็นว่า ขณะนี้มีเพียงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบปาร์ตี้ลิสต์
นอกจากนี้ ตนในฐานะที่เป็นเครือญาติกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้มีการติดต่อให้กำลังใจไปบ้าง แต่นายกรัฐมนตรีอาจมีภารกิจมากจึงไม่ได้รับโทรศัพท์ โดยเห็นว่า นายกรัฐมนตรี ขยันทำงาน และประสานกับต่างประเทศดีมาก รวมทั้งมีนโยบายแก้ปัญหาผู้ชุมนุมที่เหมาะสม เพราะไม่ต้องการทำให้เกิดการปะทะ ขอกลุ่มผู้ชุมนุมอย่ารุกไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนถึงขั้นใหัออกนอกประเทศ เพราะถือว่า เกินไป ทั้งที่รัฐบาลยอมถอยทุกทางแล้ว และมองว่า กรณีความเคลื่อนไหวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และผู้ชุมนุม ถือเป็นการปฏิวัติเงียบไปแล้ว เพราะทหาร ตำรวจ ไม่ออกมาทำหน้าที่
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ส่งสารอวยพรปีใหม่ 2557 แด่กำลังพลและครอบครัว โดยระบุว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณกำลังพลที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม สร้างคุณประโยชน์อย่างยิ่งต่อกองทัพและประเทศ
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะเรื่องการกล่าวพาดพิงถึงกองทัพและผู้บังคับบัญชาบนเวทีของทุกพวกทุกฝ่าย ซึ่งไม่น่าจะเหมาะและไม่ก่อให้เกิดผลดีกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เนื่องจากบรรยากาศในสังคมขณะนี้ควรจะเร่งเสริมสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้น กองทัพคงจะพยายามใช้ความอดทนให้ได้อย่างถึงที่สุด สถานการณ์ปัจจุบันน่าจะพยายามหาทางออกจากความขัดแย้งให้ได้ด้วยการตกลงและทำความเข้าใจกันเพื่อประเทศชาติได้เดินหน้าไปได้ เพื่อการปฏิรูปหรือการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ขยายผลความขัดแย้งไปสู่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ยังอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่บ้าง หากทุกฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองพ้นจากอันตราย ในฐานะคนไทยด้วยกันน่าจะพูดคุยกันได้เสียสละกันบ้าง ถอยให้กันบ้าง
“ขณะที่ประเทศชาติมีปัญหาและต้องการการเยียวยา หากใช้ยาผิดหรือยาแรงเกินไปอาจไม่เกิดผลดีในระยะยาวขณะนี้อาจมีผู้ไม่หวังดีมุ่งหวังให้เกิดความรุนแรงขึ้น ถึงขั้นมีข่าวว่ามีการเตรียมกองกำลังติดอาวุธให้กับประชาชน ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นจริง ทหารคงจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดมาใช้ความรุนแรงกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดเพราะทุกฝ่ายคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น อยากให้ทุกพวกทุกฝ่ายได้ลดความเกลียดชังที่มีต่อกัน ใช้เหตุผลหลักการในการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้สิ่งต่างๆลุกลามบานปลายและเกิดเป็นปัญหาขึ้นมาอีกในอนาคต กองทัพพยายามรักษาสถานะของตนเองให้มั่นคง เพื่อสามารถดูแลประเทศชาติและประชาชนได้ต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย ไม่ได้กล่าวถึงในกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมที่จะดำเนินการกับสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ หลังปรากฎข่าวเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องเงินทอง ตามที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวานนี้
