xs
xsm
sm
md
lg

ด้านระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

เป็นอันแน่นอนว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งใครสักคนลงสมัครรับเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ มีแต่บริษัทบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นที่จะเดินหน้าต่อกับการลือกตั้งทั่วไป เชื่อว่าผลก็จะออกมาเหมือนเดิมที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเคยยุบสภาให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งหลายจังหวัดมีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

กกต.คงจะไม่มีใครต้องติดคุกอีก เพราะมีบทเรียนมาแล้วจากกรณี กกต.สามหนาห้าห่วง

ประเทศไทยเราก็คงจะต้องเสียงบประมาณไปกับการเลือกตั้งครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 หรือครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้จนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จจะสิ้น

แน่นอนว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยก็จะต้องชนะเลือกตั้งสบายๆ เพราะเมื่อต้องแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังชนะสบายๆ ได้จัดตั้งรัฐบาล มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี รับจำนำข้าวต่อไปเดินหน้าโครงการต่างๆ ต่อไป เป็นต้นโครงการขนส่งที่จะต้องใช้เงิน 2 ล้านล้านบาท โครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท และรับจำนำข้าวให้มันขาดทุนอีกปีละ 2 แสนล้านบาทต่อไป

และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ก็จะสามารถสร้างความฉิบหายให้กับประเทศได้อีกต่อไปอย่างสบายอกสบายใจ เพราะได้รับเสียงข้างมาก นายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก็สามารถนำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลสมความตั้งอกตั้งใจว่า ยังไงก็อยู่ร่วมรัฐบาลดีกว่าเพราะมันอิ่มหมีพีมันดี

ทั้งหมดก็จะได้อ้างกับประชาชนว่ามาจากประชาชน มาจากเสียงข้างมาก และก็คงจะไม่สนใจว่า ตัวบทกฎหมายเขียนไว้ว่าอย่างไร เป็นต้น เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่จะกู้มาแล้วบอกว่าไม่ใช่เงินแผ่นดิน (แต่เอาเงินภาษีของประชาชนไปใช้หนี้ 50 ปีเต็มๆ) ก็จะต้องมีคนไปร้องศาล

และโปรดเชื่อเถอะว่า พวกเขาจะต้องบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญเขาไม่ฟัง ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิพิจารณาหรือตัดสินในเรื่องนี้ เงิน 3.5 แสนล้านบาทที่จะกู้มาใช้กับโครงการป้องกันน้ำท่วมที่ใครต่อใครบอกว่าหมดเวลายืมแล้ว เขาก็จะยืมต่อไป (ไม่ยืมได้อย่างไรเล่าในเมื่อเงินงบประมาณแผ่นดินเขาถลุงจนแทบจะหมดสิ้นแล้ว ต่อไปจะมีเงินจ่ายเงินเดือนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้)

พวกมันชอบทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย แล้วก็บอกว่าเขามีเสียงข้างมากจะทำอะไรก็ได้ ศาลไม่มีสิทธิหรือศาลไม่มีอำนาจเพราะพวกเขาเป็นเสียงข้างมากมาจากประชาชน พวกเขาเท่านั้นเป็นประชาธิปไตยคนอื่นเป็นซากเดนอำมาตย์ เป็นพวกอนุรักษนิยมไม่ทันสมัยเหมือนพวกเขา

พรรคประชาธิปัตย์เล่า?

พรรคประชาธิปัตย์ก็จะกลายเป็นพรรคฝ่ายค้านนอกสภาฯ กำนันสุเทพซึ่งเก็บข้าวของออกจากพรรคประชาธิปัตย์มานานแล้ว อาจจะเหลือมวลชนรอบข้างอยู่ไม่กี่คน คนเรือนแสนเรือนล้านก็ต้องกลับไปทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แกนนำกับกำนันสุเทพก็เช่นเดียวกัน

ภาพที่เคยเห็นแล้วฮึกเหิมมีพลังกลายเป็นความอ้างว้างหดหู่ ประชาชนที่เคยออกมาบนท้องถนนก็จะเจียมเนื้อเจียมตัวว่า สู้เขาไม่ได้ ท่านตำรวจเล็กตำรวจน้อยไปจนกระทั่งท่านนายพลทั้งหลายก็อาจจะวางก้ามได้เขื่องโขยิ่งขึ้น อาณาจักรของตำรวจก็จะยิ่งใหญ่ต่างกับทหารที่นายพลยาโด๊ปบอกนายของเขาในคลิปเสียงว่า เลือกวางเลือกตั้งได้เลย จะให้ใครไปอยู่ที่ไหน ตำแหน่งใด ไม่ต่างกับเจ้าของจะสวมกระโปรงหรือจะติดกิ๊บ ผูกโบให้ชิวาว่าตัวโปรดของเขา

ข้าราชการทั้งหลายก็จะต้องบอกได้ใช้ฟังยิ่งขึ้น เพราะได้มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วว่า ใครได้ดิบได้ดีด้วยเหตุผลใด คำสั่งจากดูไบก็จะเป็นคำสั่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต่างกับพระคัมภีร์พระเวทย์ยังไงยังงั้น

นี่ต้องนับว่าเป็นความสามารถพิเศษของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยแท้ เพราะทอดตาทั่วแผ่นดินแล้วยังหาคนที่สองไม่พบที่จะไม่รู้สึกรู้สากับคนเรือนแสนเรือนล้านสามารถตีบทแตก ตรงนี้สมควรหลั่งน้ำตา ตรงนี้สมควรยืดอก ตรงนี้สมควรไปต่างประเทศหรือไปต่างจังหวัด โดยที่ไม่สนอกสนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือเสียงก่นด่าของผู้คน

นางสาวยิ่งลักษณ์สามารถยืนหยัดอยู่ได้กับความเชย ความเปิ่น ความไม่รู้ของเธอไม่สะทกสะท้าน ไม่รู้จักเขินอาย

ทั้งหมดนี้เป็นเวลาที่ประชาคมอาเซียนเราจะกระชับกันแน่นขึ้น ทำมาค้าขายใกล้ชิดกันมากขึ้น ผู้คนไปมาหาสู่กันมากขึ้น ประชาชนในประเทศอื่นๆ เช่น ลาว กัมพูชา พม่า อาจจสงสัยว่า ทำไมประชาชนคนไทยจึงบอกได้ใช้ฟังขนาดนี้

ทำไมประชาชนคนไทยยอมรับการปกครอง ยอมรับการบริหารได้ง่ายอย่างนี้

ประชาชนคนไทยก็คงจะไม่มีคำตอบนอกจากคิดในใจว่า กูทำทุกวิถีทางแล้วโว้ย แต่ผู้บริหารประเทศกูมันหนังหนาหน้าด้านกว่าใครในโลก ทำอย่างไรมันก็เฉย ไม่รู้สึกรู้สากับอะไรทั้งสิ้น พวกกูเคยเดินขบวนอออกมาเป็นแสนเป็นล้านมันก็เฉย เฉยจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วโว้ยเท่านั้น

เท่านั้นจริงๆ

กำลังโหลดความคิดเห็น