เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (18ธ.ค.) ที่พรรคภูมิใจไทย มีการประชุมพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง มีแกนนำพรรคคนสำคัญ รวมถึงอดีต ส.ส. อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งครั้งนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกคนรู้สึกฮึกเหิมแล้วหรือยัง ขณะนี้ปี่กลองการเมืองดังขึ้นแล้ว เราเป็นนักรบสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น สิ่งที่ทำให้ทุกคนเป็นส.ส.ได้อย่างสมบูรณ์แบบคือ การเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยึดถือเรื่องกฎ กติกา และเคารพบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งอย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทย จะยึดถือความถูกต้อง ยึดกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ เป็นแนวทางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค
“ขอขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งกัน เห็นหน้าเดิมๆอยู่กันครบ ในฐานะคนครอบครัวเดียวกันก็ได้พิสูจน์เพื่อนแท้ของพรรคภูมิใจไทย ขอให้ได้ส.ส.กลับเข้ามาเท่ากับจำนวนคนที่นั่งในห้องนี้ก็พอ อย่ามากกว่านี้เลยเดี๋ยวดูแลกันไม่ไหว” นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าในการประชุมครั้งนี้มีนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ อดีตส.ส.สระบุรี ที่ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 13ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง
** ต้องแก้กติกาให้ทุกฝ่ายยอมรับก่อน
จากนั้น เวลา15.20 น. นายอนุทิน ได้อ่านแถลงการณ์ของพรรค เพื่อเสนอแนวทางยุติวิกฤตการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่ปกติ และยืดเยื้อมายาวนานกว่า 50 วัน พรรคจึงขอเสนอแนวทางว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.57 ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติ มีประชาชนจำนวนมากต่อต้านคัดค้าน และอาจนำจะนำมาสู่การขัดขวางการเลือกตั้ง อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติมากยิ่งขึ้น
จึงขอให้รัฐบาล และกกต. ดำเนินการวิธีการใดๆ ก็ตามให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนยอมรับการเลือกตั้ง ก่อนที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันปัญหาตามมา เช่น การขัดขวางการเลือกตั้งทุกรูปแบบ รวมทั้งการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในที่สุด
ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยขอเสนอให้รัฐบาล และกกต. สร้างการยอมรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นด้วยการ จัดทำกฎกติกา หรืตรากฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนก่อนที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง สามารถทำได้ตามแนวทางที่พรรคเสนอ 3 แนวทาง คือ
1. หัวหน้าพรรคทุกพรรคทำข้อตกลงร่วมกัน ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จนกว่าจะมีการทำกติกา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเลือกตั้งใหม่ ให้ทุกฝ่ายยอมรับของประชาชนทุกภาคส่วนก่อน ทั้งนี้เพื่อจะให้กกต. มีเหตุที่จะพิจารณาการขยายเวลาการจัดการเลือกตั้งออกไป สามารถทำได้หากไม่มีผู้เลือกตั้ง
2. ประธานวุฒิสภา เรียกประชุมวุฒิสภาในฐานะที่ประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาทางการเมือง และจัดทำกฎ กติกาการเลือกตั้งใหม่ ตามกระบวนการในรัฐสภาก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ตามกระบวนการในรัฐสภา โดยเปิดโอกาสให้ผู้แทนประชาชนทุกภาคส่วน ภาคประชาชน ภาควิชาการ ภาคการเมือง ภาครัฐ และภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วม
3. หัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค ทำข้อตกลงร่วมกัน ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง และยอมรับผลการเลือกตั้งตามกฎกติกาใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้การเลือกตั้งใหม่ การตัดสินใจของประชาชนเป็นที่ยุติของปัญหาที่เกิดขึ้น และรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง จะสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างสง่างาม
“แนวทางที่พรรคนำเสนอ สามารถปฏิบัติได้จริง ไม่ขัดกฎหมาย และจำเป็นต้องทำเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย ด้วยระบบรัฐสภา และสันติวิธี เพียงแต่นักการเมืองทุกพรรค จะต้องยอมเสียสละ ถอยคนละก้าว ยอมเข้าสู่อำนาจช้าลงไปสักระยะ ด้วยการร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อน จนกว่าจะมีการจัดทำ กฎ กติกา การเลือกตั้งใหม่ ให้เป็นที่ยอมรับร่วมกันเสียก่อน หากนักการเมืองร่วมมือช่วยกันหาทางออกให้ประเทศ ตามแนวทางนี้ จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติทางการเมืองอีก”นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคอื่นๆ ไม่รับข้อเสนอ พรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าสามารถสมัคร หรือสามารถหาเสียง และประชาชนมาใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ พรรคก็ต้อทำตามสิ่งที่ได้กำหนดไว้ทุกประการ พรรคมีความพร้อม
เมื่อถามว่าตั้งเป้า ส.ส.ไว้เท่าไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องการให้ได้มากที่สุด เราพร้อมสนับสนุนผู้สมัครของพรรคโดยใช้นโยบายพรรคขับเคลื่อนร่วมกับคะแนนนิยมในตัวผู้สมัครเอง โดยคิดจะส่ง ส.ส.เต็มรูปแบบทั้ง 2 ระบบ โดยตนจะเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 พร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน ยิ้มก่อนกล่าวทีเล่นทีจริงว่า “บอลมาผมก็เตะเข้าโกลทุกที”
**ชู 4 นโยบายหลักหาเสียง
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ ผอ.การเลือกตั้ง กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคจะเน้นปากท้องประชาชนเป็นหลัก โดยมีนโยบายหลัก 4 ด้าน ดังนี้
1. เกษตรกร จะให้มีการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรทั้งหมด โดยกำหนดเป็น พ.ร.บ.
2. ภาคธุรกิจ พบว่ามีกฎหมายเกี่ยวข้อง 38 ฉบับ ที่ทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ จึงต้องแก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ภาคภาคเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น
3. ด้านเยาวชน จะให้มีการเรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี และการกู้ยืมเงินมาเรียน สำหรับคนไม่มีความสามารถชำระหนี้ พรรคมีแนวคิดจะเลิกหนี้ให้ โดยมีเงื่อนไขว่า เด็กที่เรียนจบต้องทำงานแล้วไปเสียภาษีเพื่อมายื่นยกเลิกกับกองทุน
4.ด้านสังคม เน้นปัญหาผู้สูงอายุ ตั้งกองทุนผู้สูงอายุ เพื่อแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้น ส่วนนโยบายอื่นๆ ก็ดำเนินการหมด เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นพรรคภูมิใจไทยเตรียมเปิดตัวผู้สมัครทั่วประเทศพร้อมคิกออฟการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ม.ค.ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ของทีมสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด จ.บุรีรัมย์
**ชพน.ไม่สนก๊วน "พินิจ-ปรีชา" ชิ่งหนี
ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยถึงกำหนดการประชุมของพรรคในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ว่า ที่ประชุมจะมีการหารือแกนนำ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสูการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองในกลุ่มของนายพินิจ จารุสมบัติ และนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ย้ายสังกัดไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่นนั้น เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาต่อพรรค เพราะยังมีคนรุ่นใหม่ที่พร้อมร่วมงานทางการเมืองกับทางพรรคอีกมาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค ว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้หรือไม่ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคแทน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่นั้น ต้องรอให้ที่ประชุมสมาชิกพรรค ที่จะมีการนัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 25 ธ.ค.นี้ เป็นผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้นายสุวัจน์ ยังไม่ได้สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา แต่อย่างใด
ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งครั้งนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกคนรู้สึกฮึกเหิมแล้วหรือยัง ขณะนี้ปี่กลองการเมืองดังขึ้นแล้ว เราเป็นนักรบสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น สิ่งที่ทำให้ทุกคนเป็นส.ส.ได้อย่างสมบูรณ์แบบคือ การเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยึดถือเรื่องกฎ กติกา และเคารพบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งอย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทย จะยึดถือความถูกต้อง ยึดกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ เป็นแนวทางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค
“ขอขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งกัน เห็นหน้าเดิมๆอยู่กันครบ ในฐานะคนครอบครัวเดียวกันก็ได้พิสูจน์เพื่อนแท้ของพรรคภูมิใจไทย ขอให้ได้ส.ส.กลับเข้ามาเท่ากับจำนวนคนที่นั่งในห้องนี้ก็พอ อย่ามากกว่านี้เลยเดี๋ยวดูแลกันไม่ไหว” นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าในการประชุมครั้งนี้มีนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ อดีตส.ส.สระบุรี ที่ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 13ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง
** ต้องแก้กติกาให้ทุกฝ่ายยอมรับก่อน
จากนั้น เวลา15.20 น. นายอนุทิน ได้อ่านแถลงการณ์ของพรรค เพื่อเสนอแนวทางยุติวิกฤตการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่ปกติ และยืดเยื้อมายาวนานกว่า 50 วัน พรรคจึงขอเสนอแนวทางว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.57 ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติ มีประชาชนจำนวนมากต่อต้านคัดค้าน และอาจนำจะนำมาสู่การขัดขวางการเลือกตั้ง อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติมากยิ่งขึ้น
จึงขอให้รัฐบาล และกกต. ดำเนินการวิธีการใดๆ ก็ตามให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนยอมรับการเลือกตั้ง ก่อนที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันปัญหาตามมา เช่น การขัดขวางการเลือกตั้งทุกรูปแบบ รวมทั้งการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในที่สุด
ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยขอเสนอให้รัฐบาล และกกต. สร้างการยอมรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นด้วยการ จัดทำกฎกติกา หรืตรากฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนก่อนที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง สามารถทำได้ตามแนวทางที่พรรคเสนอ 3 แนวทาง คือ
1. หัวหน้าพรรคทุกพรรคทำข้อตกลงร่วมกัน ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จนกว่าจะมีการทำกติกา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเลือกตั้งใหม่ ให้ทุกฝ่ายยอมรับของประชาชนทุกภาคส่วนก่อน ทั้งนี้เพื่อจะให้กกต. มีเหตุที่จะพิจารณาการขยายเวลาการจัดการเลือกตั้งออกไป สามารถทำได้หากไม่มีผู้เลือกตั้ง
2. ประธานวุฒิสภา เรียกประชุมวุฒิสภาในฐานะที่ประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาทางการเมือง และจัดทำกฎ กติกาการเลือกตั้งใหม่ ตามกระบวนการในรัฐสภาก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ตามกระบวนการในรัฐสภา โดยเปิดโอกาสให้ผู้แทนประชาชนทุกภาคส่วน ภาคประชาชน ภาควิชาการ ภาคการเมือง ภาครัฐ และภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วม
3. หัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค ทำข้อตกลงร่วมกัน ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง และยอมรับผลการเลือกตั้งตามกฎกติกาใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้การเลือกตั้งใหม่ การตัดสินใจของประชาชนเป็นที่ยุติของปัญหาที่เกิดขึ้น และรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง จะสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างสง่างาม
“แนวทางที่พรรคนำเสนอ สามารถปฏิบัติได้จริง ไม่ขัดกฎหมาย และจำเป็นต้องทำเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย ด้วยระบบรัฐสภา และสันติวิธี เพียงแต่นักการเมืองทุกพรรค จะต้องยอมเสียสละ ถอยคนละก้าว ยอมเข้าสู่อำนาจช้าลงไปสักระยะ ด้วยการร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อน จนกว่าจะมีการจัดทำ กฎ กติกา การเลือกตั้งใหม่ ให้เป็นที่ยอมรับร่วมกันเสียก่อน หากนักการเมืองร่วมมือช่วยกันหาทางออกให้ประเทศ ตามแนวทางนี้ จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติทางการเมืองอีก”นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคอื่นๆ ไม่รับข้อเสนอ พรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าสามารถสมัคร หรือสามารถหาเสียง และประชาชนมาใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ พรรคก็ต้อทำตามสิ่งที่ได้กำหนดไว้ทุกประการ พรรคมีความพร้อม
เมื่อถามว่าตั้งเป้า ส.ส.ไว้เท่าไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องการให้ได้มากที่สุด เราพร้อมสนับสนุนผู้สมัครของพรรคโดยใช้นโยบายพรรคขับเคลื่อนร่วมกับคะแนนนิยมในตัวผู้สมัครเอง โดยคิดจะส่ง ส.ส.เต็มรูปแบบทั้ง 2 ระบบ โดยตนจะเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 พร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน ยิ้มก่อนกล่าวทีเล่นทีจริงว่า “บอลมาผมก็เตะเข้าโกลทุกที”
**ชู 4 นโยบายหลักหาเสียง
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ ผอ.การเลือกตั้ง กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคจะเน้นปากท้องประชาชนเป็นหลัก โดยมีนโยบายหลัก 4 ด้าน ดังนี้
1. เกษตรกร จะให้มีการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรทั้งหมด โดยกำหนดเป็น พ.ร.บ.
2. ภาคธุรกิจ พบว่ามีกฎหมายเกี่ยวข้อง 38 ฉบับ ที่ทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ จึงต้องแก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ภาคภาคเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น
3. ด้านเยาวชน จะให้มีการเรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี และการกู้ยืมเงินมาเรียน สำหรับคนไม่มีความสามารถชำระหนี้ พรรคมีแนวคิดจะเลิกหนี้ให้ โดยมีเงื่อนไขว่า เด็กที่เรียนจบต้องทำงานแล้วไปเสียภาษีเพื่อมายื่นยกเลิกกับกองทุน
4.ด้านสังคม เน้นปัญหาผู้สูงอายุ ตั้งกองทุนผู้สูงอายุ เพื่อแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้น ส่วนนโยบายอื่นๆ ก็ดำเนินการหมด เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นพรรคภูมิใจไทยเตรียมเปิดตัวผู้สมัครทั่วประเทศพร้อมคิกออฟการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ม.ค.ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ของทีมสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด จ.บุรีรัมย์
**ชพน.ไม่สนก๊วน "พินิจ-ปรีชา" ชิ่งหนี
ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยถึงกำหนดการประชุมของพรรคในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ว่า ที่ประชุมจะมีการหารือแกนนำ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสูการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองในกลุ่มของนายพินิจ จารุสมบัติ และนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ย้ายสังกัดไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่นนั้น เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาต่อพรรค เพราะยังมีคนรุ่นใหม่ที่พร้อมร่วมงานทางการเมืองกับทางพรรคอีกมาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค ว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้หรือไม่ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคแทน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่นั้น ต้องรอให้ที่ประชุมสมาชิกพรรค ที่จะมีการนัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 25 ธ.ค.นี้ เป็นผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้นายสุวัจน์ ยังไม่ได้สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา แต่อย่างใด