วานนี้(15ธ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 16-17 ธ.ค. นี้ พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค โดยวันที่ 16 ธ.ค. จะประชุมสาขาพรรค ส่วนวันที่ 17 ธ.ค. จะเริ่มต้นพิจารณาแก้ไขข้อบังคับพรรค ตามโครงสร้างการปฏิรูปพรรคใหม่ จากนั้น จะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเริ่มที่ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ด้วยการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสม มีผู้รับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง และมีการลงคะแนนเลือกตั้ง จากนั้นเป็นการเลือก รองหัวหน้าพรรค 10 คน โดยแบ่งเป็น สัดส่วนหัวหน้าพรรคเสนอชื่อ 5 คน ส่วนอีก 5 คน เป็นรองหัวหน้าพรรครายภาค หากมีการเสนอชื่อมากกว่าจำนวนที่กำหนด จะมีการลงคะแนน เพื่อเลือกให้เหลือเท่ากับจำนวนที่กำหนดไว้ จากนั้นหัวหน้าพรรค จะเสนอชื่อเลขาธิการพรรค หากเสนอชื่อมากกว่า 1 คน ที่ประชุมจะเลือกให้เหลือ 1 คน
ส่วนในช่วงบ่ายวันที่ 17 ธ.ค. จะมีการเลือก รองเลขาธิการพรรค 3 คน โดยเลขาธิการพรรค จะเป็นผู้เสนอชื่อ และจะเลือกเหรัญญิกพรรค นายทะเบียนพรรค และโฆษกพรรค โดยทั้ง 3 ตำแหน่ง หัวหน้าพรรคจะเสนอชื่อ ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค 7 คน และกรรมการบริหารสำรอง ที่ประชุมใหญ่จะเสนอชื่อให้ที่ประชุมเลือก เมื่อเสร็จแล้ว ที่ประชุมจะเลือกคณะกรรมการ 3 คณะ คือ 1. คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร 2. คณะกรรมการนโยบายพรรค และ 3. คณะกรรมส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งหวังว่าการเลือกตั้งทั้งหมดจะทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีส่วนสำคัญบริหารจัดการให้พรรคเดินหน้าทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองต่อไป และภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญนี้ ไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่ง ทุกคนจะร่วมมือทำงานเพื่อให้การบริหารจัดการพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ. 57 นั้น ขึ้นอยู่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะพิจารณาในวันใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้รับหนังสือขอลาออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคของนายเฉลิมัย ศรีอ่อน แล้ว และถือว่ามีผล จึงให้ นายจุติ ไกรกฤษ์ รองหัวหน้าภาคเหนือ ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการพรรคไปก่อน จนกว่าจะจะมีการคัดเลือก คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาระเบียบข้อบังคับพรรคใหม่ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคในวันที่16-17ธ.ค. โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันเห็นควรให้มีการแก้ไขเพิ่มจำนวนสัดส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคจากเดิมที่มีการกำหนดไว้ที่ 25 คน โดยมีมติเพิ่มจำนวนขึ้นอีก10 คนเป็น 35 คน โดยจะเพิ่มจำนวนรองเลขาธิการพรรคที่เดิมมี 3 คน เพิ่มเป็น 5 คน และที่เหลืออีก 8 คน เพิ่มสัดส่วนตัวแทนกรรมการบริหารพรรคจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนสาขาพรรค
ส่วนความคืบหน้าในการคัดเลือกผู้สมัครกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในส่วนของตำแห่งสำคัญ เช่น หัวหน้าพรรค คาดว่าจะยังคงเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อีกหนึ่งสมัย แม้จะมีสมาชิกบางกลุ่มพยายามที่จะผลักดันให้เปลี่ยนตัว โดยเสนอชื่อ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ขึ้นมาชิงตำแหน่ง แต่เมื่อประเมินดูแล้วสมาชิกส่วนใหญ่จะยังคงโหวตให้กับนายอภิสิทธิ์ อีกครั้ง
ตำแหน่งรองหัวหน้าวีไอพี ที่แต่งตั้งโดยหัวหน้าพรรคจำนวน 5 คน ที่ชัดเจนแล้วคือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายเกียรติ สิทธีอมร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น แหล่งข่าวคนใกล้ชิด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย จะไม่รับตำแหน่งใดๆในครั้งนี้ ขณะที่มีรายงานด้วยว่า หากนายอภิสิทธิ์ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค ก็จะเสนอชื่อของนายจุติ ไกรฤกษ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค
ขณะที่รองหัวหน้าในส่วนของภาคใต้ จะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ กับ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุด ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าภาคเหนือ คาดว่าน่าจะเป็น นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าภาคอีสานแข่งขันกันระหว่างคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กับนายศุภชัย ศรีหล้า แต่มีการประเมินว่า คุณหญิงกัลยา น่าจะได้รับการคัดเลือก ส่วนภาคกลางจะเป็นการแข่งขันระหว่างนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ประกาศจะเสนอตนเอง กับนายสาธิต ปิตุเตชะ สำหรับรองภาคกทม. คาดว่าจะเป็นของ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์
ส่วนตำแหน่งโฆษกพรรคคือนายศิริโชค โสภา
อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกบางส่วนมองว่า ในส่วนของสมาชิกพรรคที่ผันตัวไปเป็นแกนนำเคลื่อนไหวมวลชนร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคนั้น ไม่ควรจะเข้ามามีตำแหน่งใดๆในพรรค เพราะเกรงว่าจะสร้างปัญหาให้พรรคในภายหลังได้
ส่วนในช่วงบ่ายวันที่ 17 ธ.ค. จะมีการเลือก รองเลขาธิการพรรค 3 คน โดยเลขาธิการพรรค จะเป็นผู้เสนอชื่อ และจะเลือกเหรัญญิกพรรค นายทะเบียนพรรค และโฆษกพรรค โดยทั้ง 3 ตำแหน่ง หัวหน้าพรรคจะเสนอชื่อ ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค 7 คน และกรรมการบริหารสำรอง ที่ประชุมใหญ่จะเสนอชื่อให้ที่ประชุมเลือก เมื่อเสร็จแล้ว ที่ประชุมจะเลือกคณะกรรมการ 3 คณะ คือ 1. คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร 2. คณะกรรมการนโยบายพรรค และ 3. คณะกรรมส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งหวังว่าการเลือกตั้งทั้งหมดจะทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีส่วนสำคัญบริหารจัดการให้พรรคเดินหน้าทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองต่อไป และภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญนี้ ไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่ง ทุกคนจะร่วมมือทำงานเพื่อให้การบริหารจัดการพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ. 57 นั้น ขึ้นอยู่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะพิจารณาในวันใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้รับหนังสือขอลาออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคของนายเฉลิมัย ศรีอ่อน แล้ว และถือว่ามีผล จึงให้ นายจุติ ไกรกฤษ์ รองหัวหน้าภาคเหนือ ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการพรรคไปก่อน จนกว่าจะจะมีการคัดเลือก คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาระเบียบข้อบังคับพรรคใหม่ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคในวันที่16-17ธ.ค. โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันเห็นควรให้มีการแก้ไขเพิ่มจำนวนสัดส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคจากเดิมที่มีการกำหนดไว้ที่ 25 คน โดยมีมติเพิ่มจำนวนขึ้นอีก10 คนเป็น 35 คน โดยจะเพิ่มจำนวนรองเลขาธิการพรรคที่เดิมมี 3 คน เพิ่มเป็น 5 คน และที่เหลืออีก 8 คน เพิ่มสัดส่วนตัวแทนกรรมการบริหารพรรคจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนสาขาพรรค
ส่วนความคืบหน้าในการคัดเลือกผู้สมัครกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในส่วนของตำแห่งสำคัญ เช่น หัวหน้าพรรค คาดว่าจะยังคงเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อีกหนึ่งสมัย แม้จะมีสมาชิกบางกลุ่มพยายามที่จะผลักดันให้เปลี่ยนตัว โดยเสนอชื่อ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ขึ้นมาชิงตำแหน่ง แต่เมื่อประเมินดูแล้วสมาชิกส่วนใหญ่จะยังคงโหวตให้กับนายอภิสิทธิ์ อีกครั้ง
ตำแหน่งรองหัวหน้าวีไอพี ที่แต่งตั้งโดยหัวหน้าพรรคจำนวน 5 คน ที่ชัดเจนแล้วคือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายเกียรติ สิทธีอมร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น แหล่งข่าวคนใกล้ชิด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย จะไม่รับตำแหน่งใดๆในครั้งนี้ ขณะที่มีรายงานด้วยว่า หากนายอภิสิทธิ์ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค ก็จะเสนอชื่อของนายจุติ ไกรฤกษ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค
ขณะที่รองหัวหน้าในส่วนของภาคใต้ จะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ กับ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุด ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าภาคเหนือ คาดว่าน่าจะเป็น นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าภาคอีสานแข่งขันกันระหว่างคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กับนายศุภชัย ศรีหล้า แต่มีการประเมินว่า คุณหญิงกัลยา น่าจะได้รับการคัดเลือก ส่วนภาคกลางจะเป็นการแข่งขันระหว่างนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ประกาศจะเสนอตนเอง กับนายสาธิต ปิตุเตชะ สำหรับรองภาคกทม. คาดว่าจะเป็นของ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์
ส่วนตำแหน่งโฆษกพรรคคือนายศิริโชค โสภา
อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกบางส่วนมองว่า ในส่วนของสมาชิกพรรคที่ผันตัวไปเป็นแกนนำเคลื่อนไหวมวลชนร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคนั้น ไม่ควรจะเข้ามามีตำแหน่งใดๆในพรรค เพราะเกรงว่าจะสร้างปัญหาให้พรรคในภายหลังได้