ASTVผู้จัดการรายวัน - อดีต ส.ส.หญิง ปชป.“รังสิมา” “นาถยา” “บุณย์ธิดา” นำกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.หญิงล้วนบุกหน้าสโมสร ทบ.เป่านกหวัดไล่ “ยิ่งลักษณ์” และ ครม.ลาออกจากตำแหน่ง หลังนายกฯ ม็อบ กปปส.ช่วงค่ำคึกคัก ทั้งนางเลิ้งและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จวก "ปู"ไม่ต้องบีบน้ำตา ลั่นต้องออกเท่านั้น
วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ภายหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำลังให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และกำลังจะเดินทางออกจากสโมสร ทบ.ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นผู้หญิงล้วนจำนวนหลายร้อยคน นำโดยกลุ่มอดีต ส.ส.หญิงของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ และ น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ซึ่งเดินทางด้วยกระบะและรถหกล้อ จากเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน มารวมตัวกันเป่านกหวีดที่หน้าสโมสรทหารบก เพื่อเรียกร้องให้ อดีตนายกรัฐมนตรี และ อดีตครม.ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่มีความชอบธรรมในการอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป รวมถึงไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับไปแจ้งข้อหาจับกุมคนอื่นในข้อหากบฏ
ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 1 กองร้อย คอยดูแลสถานการณ์ความเรียบร้อยที่หน้าสโมสร และขอให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับ อย่ากีดขวางทางเข้า-ออกของสโมสร ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชุมนุมอยู่หน้าสโมสรประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับไปยังเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
*** ที่อนุสาวรีย์ปชต.ยังคึก
สำหรับบรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินนอก เป็นไปอย่างหนาตา โดยมีผู้ชุมนุมได้จับจองพื้นที่บริเวณหน้าเวทีปราศรัยจนเต็มพื้นที่ ทั้งนี้ บนเวทีปราศรัยได้มีการถ่ายทอดสดการแถลงการณ์ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จากเวทีแยกนางเลิ้ง ที่ประกาศว่านายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้เป็นโมฆะแล้ว เนื่องจากละเมิดศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมต่างเป่านกหวีดเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงความด้วย
ขณะที่บนเวทีปราศรัยยังคงมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การแสดงดนตรีจาก อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และการกล่าวปราศรัยจาก พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ที่ได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันตำรวจ ทั้งนี้ยังขอให้ประชาชนต่อสู้ต่อไป โดยรวมกำลังใจและกำลังกายต่อสู้ให้ถึงที่สุด จนกว่าจะเป็นฝ่ายชนะเด็ดขาด
ส่วนในช่วงค่ำเบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยประชาชนจำนวนมากทยอยเข้าสู่พื้นที่หน้าเวทีเพื่อรอฟังการปราศรัยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่เตรียมประกาศท่าทีหลังครบ 24 ชั่วโมงที่มีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีลาออกและไม่รักษาการ ซึ่งได้มีการแจ้งผ่านเวทีชุมนุม กปปส. เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.
**จวก "ปู"ไม่ต้องบีบน้ำตา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวทีปราศรัยของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) บริเวณแยกสนามม้านางเลิ้งว่า ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ว่า บรรดาการ์ดกลุ่ม กปปส.ยังคงจัดระเบียบพื้นที่ชุมนุมอย่างต่อเนื่องภายหลังมีการย้ายเวทีปราศรัยใหญ่จากศูนย์ราชการมาที่บริเวณแยกนางเลิ้งตั้งแต่เมื่อวานนี้
ส่วนด้านกิจกรรมบนเวทียังมีการปราศรัยของแกนนำกลุ่มย่อยสลับกับการเล่นดนตรีให้กับผู้ชุมนุมเป็นระยะ โดยเนื้อหาการปราศรัยยังคงเกี่ยวเนื่องกับการยุบสภา รวมถึงโจมตีกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่มีอาการน้ำตาซึมในช่วงการแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ส่วนแกนนำกปปส. อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ไม่ได้อยู่ด้านหลังเวทีแต่แอย่างใด โดยมีการคาดว่าบรรดาแกนนำกปปส.จะเตรียมแถลงท่าทีการเคลื่อนไหวในช่วงเย็น
ส่วนบรรยากาศในช่วงค่ำวยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง บนเวทีเป็นการปราศรัยสลับกับดนตรี ทั้งนี้การพูดคุยบนเวทีส่วนใหญ่เน้นว่า แค่นายกฯ ยุบสภายังไม่พอ ต้องลาออกด้วย ขอให้มวลชนจับตาสถานการณ์ต่อจากนี้อย่างใกล้ชิด อย่ากระพริบตา และในเวลา 19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จะมาปราศรัยพูดคุยกับทุกคนเช่นเคย
***ย้ายศูนย์ รพ.สงฆ์ ไปที่ รพ.เลิดสิน
วานนี้ (10 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลเลิดสิน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงยึดแผนเอราวัณ 2 ในการดูแลผู้ชุมนุม และได้รับความร่วมมือจากทีมแพทย์กองพันทหารเสนารักษ์อีก 14 ทีมจำนวน 59 คน เพื่อให้การดูแลรักษาเบื้องต้นแก่ผู้ป่วย ยืนยันว่าไม่มีปัญหาการประสานงานกับทีมแพทย์อาสา คาดว่าสถานการณ์จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
ส่วนการย้ายศูนย์ปฏิบัติการฯจาก รพ.สงฆ์ มายัง รพ.เลิดสิน เพราะปลายแถวผู้ชุมนุมยาวมาจนถึงหน้า รพ.สงฆ์ ทำให้ไม่สะดวกในการเคลื่อนย้ายทีมออกปฏิบัติการดูแลผู้ชุมนุม แต่ที่ รพ.สงฆ์ ยังคงเป็นศูนย์ส่วนหน้าในการสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ และความช่วยเหลือต่างๆ
สำหรับจำนวนผู้บาดเจ็บตั้งแต่ วันที่ 30 พ.ย. - 10 ธ.ค. ไม่มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม โดยยอดสะสมผู้บาดเจ็บทั้งหมดคือ 290 ราย เหลือนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 15 ราย เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย สำหรับอาการบาดเจ็บของผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ส่วนใหญ่เป็นลม และเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัว
***ร.ร.รอบพื้นที่ชุมนุมเปิดเรียน 11 ธ.ค.ตามปกติ
นายอานนท์ โลทิม รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร (สพม.) กทม. เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนที่ได้ปิดการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้แจ้งมายัง สพม.กทม.เขต 1 ว่าจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติในวันที่ 11 ธ.ค.ทั้งหมด เนื่องจากประเมินสถานการณ์ เบื้องต้นเห็นว่าน่าจะไม่มีความรุนแรง ทั้งเส้นทางการเดินทางการจราจร หรือเสียงที่ใช้ในการชุมนุมไม่ส่งผลกระทบต่อนักเรียน
***จีนหวังไทยคืนสู่เสถียรภาพเร็ววัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยแถลงยุบสภาในวันจันทร์ (9) และรัฐบาลปัจจุบันจะทำหน้าที่รักษาการไปจนถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปในครั้งหน้า
นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปักกิ่ง แถลงกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า “ จีนได้จับตาสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เราหวังว่าในการจัดการกับเรื่องราวปัจจุบันอย่างถูกต้องเหมาะสม ทุกฝ่ายจะดำเนินการบนพื้นฐานผลประโยชน์ของประเทศและความผาสุกของประชาชนเป็นหลัก”
รายงานของซินหัว อ้างพูดของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อของไทย ระบุจากข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญนั้นคาดหมายว่าศึกเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใน 60 วัน หรือก่อนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2014
เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนในระบุในถ้อยแถลงว่า “นายกรัฐมตรียิ่งลักษณ์ เลือกยุบสภาและจัดเลือกตั้งในก้าวย่างที่มุ่งไปข้างหน้า ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองและเหตุชุมนุมประท้วง เราสนับสนุนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคลี่คลายความเห็นต่างทางการเมืองอย่างสันติและเป็นประชาธิปไตย ในแนวทางที่สะท้อนถึงเจตจำนงของประชาชนคนไทยและเสริมความเข้มแข็งแก่ระบบนิติรัฐ”
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลังจากไทยมีการยุบสภาเมื่อวันจันทร์ (9) ทางการสหรัฐฯ ก็ออกถ้อยแถลงยืนยันให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งต่อกระบวนการประชาธิปไตยในไทย พันธมิตรและสหายที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมาอย่างยาวนาน
วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ภายหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำลังให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และกำลังจะเดินทางออกจากสโมสร ทบ.ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นผู้หญิงล้วนจำนวนหลายร้อยคน นำโดยกลุ่มอดีต ส.ส.หญิงของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ และ น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ซึ่งเดินทางด้วยกระบะและรถหกล้อ จากเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน มารวมตัวกันเป่านกหวีดที่หน้าสโมสรทหารบก เพื่อเรียกร้องให้ อดีตนายกรัฐมนตรี และ อดีตครม.ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่มีความชอบธรรมในการอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป รวมถึงไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับไปแจ้งข้อหาจับกุมคนอื่นในข้อหากบฏ
ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 1 กองร้อย คอยดูแลสถานการณ์ความเรียบร้อยที่หน้าสโมสร และขอให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับ อย่ากีดขวางทางเข้า-ออกของสโมสร ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชุมนุมอยู่หน้าสโมสรประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับไปยังเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
*** ที่อนุสาวรีย์ปชต.ยังคึก
สำหรับบรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินนอก เป็นไปอย่างหนาตา โดยมีผู้ชุมนุมได้จับจองพื้นที่บริเวณหน้าเวทีปราศรัยจนเต็มพื้นที่ ทั้งนี้ บนเวทีปราศรัยได้มีการถ่ายทอดสดการแถลงการณ์ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จากเวทีแยกนางเลิ้ง ที่ประกาศว่านายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้เป็นโมฆะแล้ว เนื่องจากละเมิดศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมต่างเป่านกหวีดเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงความด้วย
ขณะที่บนเวทีปราศรัยยังคงมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การแสดงดนตรีจาก อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และการกล่าวปราศรัยจาก พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ที่ได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันตำรวจ ทั้งนี้ยังขอให้ประชาชนต่อสู้ต่อไป โดยรวมกำลังใจและกำลังกายต่อสู้ให้ถึงที่สุด จนกว่าจะเป็นฝ่ายชนะเด็ดขาด
ส่วนในช่วงค่ำเบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยประชาชนจำนวนมากทยอยเข้าสู่พื้นที่หน้าเวทีเพื่อรอฟังการปราศรัยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่เตรียมประกาศท่าทีหลังครบ 24 ชั่วโมงที่มีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีลาออกและไม่รักษาการ ซึ่งได้มีการแจ้งผ่านเวทีชุมนุม กปปส. เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.
**จวก "ปู"ไม่ต้องบีบน้ำตา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวทีปราศรัยของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) บริเวณแยกสนามม้านางเลิ้งว่า ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ว่า บรรดาการ์ดกลุ่ม กปปส.ยังคงจัดระเบียบพื้นที่ชุมนุมอย่างต่อเนื่องภายหลังมีการย้ายเวทีปราศรัยใหญ่จากศูนย์ราชการมาที่บริเวณแยกนางเลิ้งตั้งแต่เมื่อวานนี้
ส่วนด้านกิจกรรมบนเวทียังมีการปราศรัยของแกนนำกลุ่มย่อยสลับกับการเล่นดนตรีให้กับผู้ชุมนุมเป็นระยะ โดยเนื้อหาการปราศรัยยังคงเกี่ยวเนื่องกับการยุบสภา รวมถึงโจมตีกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่มีอาการน้ำตาซึมในช่วงการแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ส่วนแกนนำกปปส. อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ไม่ได้อยู่ด้านหลังเวทีแต่แอย่างใด โดยมีการคาดว่าบรรดาแกนนำกปปส.จะเตรียมแถลงท่าทีการเคลื่อนไหวในช่วงเย็น
ส่วนบรรยากาศในช่วงค่ำวยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง บนเวทีเป็นการปราศรัยสลับกับดนตรี ทั้งนี้การพูดคุยบนเวทีส่วนใหญ่เน้นว่า แค่นายกฯ ยุบสภายังไม่พอ ต้องลาออกด้วย ขอให้มวลชนจับตาสถานการณ์ต่อจากนี้อย่างใกล้ชิด อย่ากระพริบตา และในเวลา 19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จะมาปราศรัยพูดคุยกับทุกคนเช่นเคย
***ย้ายศูนย์ รพ.สงฆ์ ไปที่ รพ.เลิดสิน
วานนี้ (10 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลเลิดสิน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงยึดแผนเอราวัณ 2 ในการดูแลผู้ชุมนุม และได้รับความร่วมมือจากทีมแพทย์กองพันทหารเสนารักษ์อีก 14 ทีมจำนวน 59 คน เพื่อให้การดูแลรักษาเบื้องต้นแก่ผู้ป่วย ยืนยันว่าไม่มีปัญหาการประสานงานกับทีมแพทย์อาสา คาดว่าสถานการณ์จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
ส่วนการย้ายศูนย์ปฏิบัติการฯจาก รพ.สงฆ์ มายัง รพ.เลิดสิน เพราะปลายแถวผู้ชุมนุมยาวมาจนถึงหน้า รพ.สงฆ์ ทำให้ไม่สะดวกในการเคลื่อนย้ายทีมออกปฏิบัติการดูแลผู้ชุมนุม แต่ที่ รพ.สงฆ์ ยังคงเป็นศูนย์ส่วนหน้าในการสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ และความช่วยเหลือต่างๆ
สำหรับจำนวนผู้บาดเจ็บตั้งแต่ วันที่ 30 พ.ย. - 10 ธ.ค. ไม่มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม โดยยอดสะสมผู้บาดเจ็บทั้งหมดคือ 290 ราย เหลือนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 15 ราย เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย สำหรับอาการบาดเจ็บของผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ส่วนใหญ่เป็นลม และเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัว
***ร.ร.รอบพื้นที่ชุมนุมเปิดเรียน 11 ธ.ค.ตามปกติ
นายอานนท์ โลทิม รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร (สพม.) กทม. เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนที่ได้ปิดการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้แจ้งมายัง สพม.กทม.เขต 1 ว่าจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติในวันที่ 11 ธ.ค.ทั้งหมด เนื่องจากประเมินสถานการณ์ เบื้องต้นเห็นว่าน่าจะไม่มีความรุนแรง ทั้งเส้นทางการเดินทางการจราจร หรือเสียงที่ใช้ในการชุมนุมไม่ส่งผลกระทบต่อนักเรียน
***จีนหวังไทยคืนสู่เสถียรภาพเร็ววัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยแถลงยุบสภาในวันจันทร์ (9) และรัฐบาลปัจจุบันจะทำหน้าที่รักษาการไปจนถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปในครั้งหน้า
นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปักกิ่ง แถลงกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า “ จีนได้จับตาสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เราหวังว่าในการจัดการกับเรื่องราวปัจจุบันอย่างถูกต้องเหมาะสม ทุกฝ่ายจะดำเนินการบนพื้นฐานผลประโยชน์ของประเทศและความผาสุกของประชาชนเป็นหลัก”
รายงานของซินหัว อ้างพูดของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อของไทย ระบุจากข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญนั้นคาดหมายว่าศึกเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใน 60 วัน หรือก่อนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2014
เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนในระบุในถ้อยแถลงว่า “นายกรัฐมตรียิ่งลักษณ์ เลือกยุบสภาและจัดเลือกตั้งในก้าวย่างที่มุ่งไปข้างหน้า ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองและเหตุชุมนุมประท้วง เราสนับสนุนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคลี่คลายความเห็นต่างทางการเมืองอย่างสันติและเป็นประชาธิปไตย ในแนวทางที่สะท้อนถึงเจตจำนงของประชาชนคนไทยและเสริมความเข้มแข็งแก่ระบบนิติรัฐ”
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หลังจากไทยมีการยุบสภาเมื่อวันจันทร์ (9) ทางการสหรัฐฯ ก็ออกถ้อยแถลงยืนยันให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งต่อกระบวนการประชาธิปไตยในไทย พันธมิตรและสหายที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมาอย่างยาวนาน
