**ประกาศชัดเจนแล้ว 9 ธ.ค. แตกหัก!! “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. บอกเกมนี้จบแน่ไม่มียืดเยื้อ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าใครจะจบ ใครจะได้ไปต่อ รัฐบาล หรือ กปปส.
“สุเทพ”แบไต๋เปิดแผนการตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. น้ำเสียงวันนั้นสั่นเครือ ประกาศตายเป็นตาย สงครามครั้งสุดท้ายเหนื่อยกันมามากพอแล้ว ยืดเยื้อไปไร้ประโยชน์ ไม่ชนะยอมติดคุก ยอมโดนประหาร
เมื่อไล่เรียงดูจากแผนการที่ประกาศออกมา แสดงว่าม็อบยึดกรุงเทพฯ หมดแน่เพราะตั้งขบวนทั่วทิศรอบกรุงมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างตั้งขบวนคงวุ่นวายไม่น้อย เพราะกรุงเทพจะเป็นอัมพาตทันที ที่ม็อบออกเดินทางแค่ได้ฟังแผนการก็หนาวกันไปตามๆ กัน
ถ้าถนนทุกสายถ้าเดินอย่างที่“สุเทพ”บอกคือ จะเดินทุกเลน ไม่เว้นให้รถวิ่งได้ นั่นก็คือการใช้ทฤษฎี “ส้นตีน”ของ ดร.สามสี ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ยึดกรุงเทพฯ ไม่ต้องถึงทำเนียบรัฐบาล บ้านเมืองก็โกลาหลแล้ว
การเดิมพันครั้งนี้ “เทพเทือก”ชี้ชัดว่าขึ้นอยู่กับจำนวนคน มันน่าจะเป็นเช่นนั้น ถ้ามากกว่าวันที่ประกาศชุมนุมใหญ่ 11 พ.ย. 24 พ.ย. รับรองความฮึกเหิมถึงขีดสุด อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้
ฟังเสียงนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่รู้ชะตาใกล้ขาด ยังประกาศสู้อยู่ แถลงชัด ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ไม่ทำตามข้อเสนอ ของ กปปส. ขอให้มาคุยกันตามกติกา เพื่อให้ได้คำตอบสุดท้ายที่ลงตัว ก่อนไปเลือกตั้งกันใหม่ภายใต้ระบบประชาธิปไตยเฮงซวย
สวนทางกับ “สุเทพ”ที่บอกว่า รัฐบาล รัฐสภา หมดความชอบธรรมไปแล้ว เป็นกบฏรัฐธรรมนูญ จึงต้องตั้ง “สภาประชาชน” ต่างฝ่ายต่างแข็งขืนในจุดยืนของตนเอง บทสรุปบนโต๊ะเจรจา เลยไม่มี
**ต้องลุยกันอีกสักตั้ง !!
กระนั้นก็ตาม จากที่ม็อบดูแผ่วๆ ไปช่วงหนึ่ง คนตั้งคำถามว่า “สุเทพ”กำลังหาทางลงอยู่ใช่หรือไม่ ปรากฏว่า วันนี้กระแสตอบรับเดินขบวน 9 ธ.ค. 9 โมงเช้า 39 นาที ล้มหลาม บรรดามหาวิทยาลัย โรงเรียน เครือข่ายองค์กรต่างๆ ประกาศตั้งขบวนไปตามนัดมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล
โลกออนไลน์ โซเชียลมีเดีย มีการประดิษฐ์สติ๊กเกอร์ เขียนถ้อยคำร้อยกรอง ประโคมโหมกระแสกันคึกคักเอิกเกริก ฝ่ายรัฐบาลเข้าไปโลกออนไลน์ตอนนี้ต้องตกใจ เตรียมตั้งรับไม่ถูกแน่ เพราะถาโถมมาแบบทุกทิศทาง
**ฉะนั้นไม่แน่ว่า เกมการต่อรองกับดุลอำนาจฝ่ายต่างๆ อาจมีขึ้นก่อนแล้วโดยที่ม็อบยังไปไม่ถึงทำเนียบ
ที่น่าสนใจและเป็นคีย์แมนสำคัญที่สุดก็คือ“ฝ่ายทหาร”วันนี้ยังไม่ประกาศชัดจะยืนอยู่ฝั่งไหน บอกอย่างสวยหรู ยืนอยู่ข้างประเทศไทยแค่นั้นซึ่งมันกว้างเกิน เลยเป็นท่าทีเหยียบเรือสองแคมไว้ก่อน
**หรือกำลังปฏิบัติการ ลับ ลวง พราง รอดูจังหวะฝั่งไหนชนะก็เข้าทางฝั่งนั้น ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต่างจากนักการเมืองที่นิยมแทงกั๊ก เลือกฝ่ายชนะ หาผลประโยชน์
วันนี้ “สุเทพ”ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสายแม่ทัพ นายกอง ยังสงบในที่ตั้ง ฉะนั้นต้องออกมาลุยเอง ถ้าคนออกมาเยอะไม่แน่ว่าทหารก็อาจจะออกมาเทให้ฝั่งประชาชนกับเขาด้วย เมื่อนั้นก็พอเห็นทางแห่งชัยชนะ
ต้องยอมรับจริงๆว่า ถ้าทหารไม่เล่นด้วย ปัญหาจะยืดเยื้อ เมืองไทยจะบอบช้ำ เพราะถึงเวลานั้นรัฐบาลและตำรวจชั่วคงได้ใจ เข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าด้วยความเมามัน
หากมองสภาพบ้านเมืองตอนนี้ ถือว่าบอบช้ำเละตุ้มเป๊ะ ไม่มีบรรยากาศของการทำงานที่ดี รัฐบาลคงเข็นไปไม่ไหว ลากเกมต่อไปได้อีกไม่นาน ถ้าผ่านสถานการณ์การชุมนุม 9 ธ.ค.ไปได้ สภาพก็ช้ำเลือดช้ำหนองเยอะแล้ว ฉะนั้นทู่ซี้ไปก็ไร้ประโยชน์ เตรียมตัวยุบสภาสถานเดียว
เพียงแต่ตอนนี้อยากยื้อเพื่อวางกติกาให้ดีก่อน เชิญภาคส่วนของสังคมมาสร้างภาพ วางความเห็นร่วมกันก่อนยุบสภาเลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดิม ที่มั่นใจว่าเลือกตั้งใหม่ก็ชนะกลับเข้ามาใหม่อีกแน่นอน ดังนั้นคงไม่คิดเรื่องแก้ไขกติกาอะไรหรอก ขืนไปแก้เข้าทางคนอื่นก็อดนอนกอดอำนาจ นักโทษหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร ได้ปิดเทอมชีวิต พบจุดจบที่เมืองนอก ไม่ได้กลับประเทศแน่
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว การเมืองก็จะตกอยู่ในวังวนเดิมๆ ที่สลัดหนีวงจรอุบาทว์ไม่ออก รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย จะยังคงสาดกระสุนดินดำ อัดประชานิยม โกงเลือกตั้งกลับมาโกงประเทศ
**ปล่อยให้เครือข่ายพรรคเพื่อไทย เครือข่ายรัฐบาลทาสแม้ว ไปร่วมเขียนกติกา นั่งหัวโต๊ะบงการก็เปล่าประโยชน์
สิ่งหนึ่งที่กลุ่มม็อบออกมาเดินขบวนเพื่อให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ปล่อยมือจากอำนาจก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ในแง่ของการเอาอำนาจออกมาเขียนใหม่ โดยปราศจากการครอบงำของรัฐบาลที่ได้ชื่อว่า“ทรราชย์”การเมืองจะได้พลิกโฉมเปลี่ยนไปเสียที แม้ไม่รู้ว่าแบบใหม่จะดีหรือไม่ดีอย่างไร อย่างน้อยๆ ก็ต้องเอามันออกมาจากมือมารเสียก่อน
ฉะนั้น นี่น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งให้คนออกมาเดินขบวนทวงอำนาจจากรัฐบาลชุดนี้เพื่อไปวางแบบแปลนกันใหม่ ภารกิจอันดับแรกก็คือต้องเอาเชื้อชั่ว เชื้อร้ายไปก่อน ถ้าขืนปล่อยให้รัฐบาลอยู่บนอำนาจต่อไป ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ก็จะย่ามใจว่าเอาชนะม็อบได้ เหลิงลมกันไปใหญ่ พฤติกรรมสันดานโจร ข่มเหงประชาชนกลับมาหลอกหลอนอีกแน่
การที่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่ขยับไปดูแล ศอ.รส. ประสานคณะทูตจากนานาประเทศ เข้าไปนั่งอัดแน่นในทำเนียบฯ คิดเป็นอื่นใดไม่ได้ นอกจากเอาไปเป็นตัวประกัน เป้าหมายไม่ให้ม็อบกล้าบุกเข้าไป หรือแม้แต่ทำอันตรายใส่ทำเนียบฯ
**พฤติกรรมเยี่ยงนี้ มีแต่โจรที่คิดใช้
นอกจากนี้ยังมีข่าวเตรียมระดมพล ระดมกำลังตำรวจมาแทบทั้งประเทศ ป้องกันอำนาจให้รัฐบาลสุดชีวิต สะท้อนชัดว่า รัฐบาลไม่ยอมง่ายๆ ถ้าไม่จนตรอกจริงๆ
ปากก็พูดไปอย่างสวยหรู พูดทุกวันจนรำคาญหู เหม็นขี้ฟัน รัฐบาลจะต้องรักษาอำนาจไว้เพื่อรักษาระบบ ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญ แท้จริงแล้วคือไม่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงระบบ เปลี่ยนระบอบทักษิณที่กัดกินประเทศมาแบบเต็มปากเต็มคำยาวนาน เป็นเวลากว่า 10 ปี แล้ว
การเมืองพลิกโฉมตั้งแต่ทักษิณ เหลิงอำนาจจากที่อาสามาทำงานเพื่อบ้านเมือง กลายเป็นอาสามากินเมือง สร้างเครือข่ายพวกพ้อง กระจายไปกินกันสนุกปากทุกมุมเมือง ใครไม่ใช่พวกพ้องกระเด็นกระดอนข้าราชการไม่ฝักใฝ่พวกตัวเอง หมดอนาคต กัดกร่อนประเทศเรื่อยมาแบบไม่รู้ตัว และยิ่งหนักข้อมากขึ้นทุกวัน
**กระแสต่อต้านมาดั่งพายุโหมแล้ว วันนี้คนไทยทั้งแผ่นดินตื่นแล้ว ไม่มีทางสกัดกั้นได้ อารมณ์มวลชนไปไกลเกินกว่าจะหยุดยั้งทุกอย่างจะสงบยุติลงได้ ก็ต่อเมื่อระบอบทักษิณมอดไหม้ สลายตัวไป !!!
“สุเทพ”แบไต๋เปิดแผนการตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. น้ำเสียงวันนั้นสั่นเครือ ประกาศตายเป็นตาย สงครามครั้งสุดท้ายเหนื่อยกันมามากพอแล้ว ยืดเยื้อไปไร้ประโยชน์ ไม่ชนะยอมติดคุก ยอมโดนประหาร
เมื่อไล่เรียงดูจากแผนการที่ประกาศออกมา แสดงว่าม็อบยึดกรุงเทพฯ หมดแน่เพราะตั้งขบวนทั่วทิศรอบกรุงมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างตั้งขบวนคงวุ่นวายไม่น้อย เพราะกรุงเทพจะเป็นอัมพาตทันที ที่ม็อบออกเดินทางแค่ได้ฟังแผนการก็หนาวกันไปตามๆ กัน
ถ้าถนนทุกสายถ้าเดินอย่างที่“สุเทพ”บอกคือ จะเดินทุกเลน ไม่เว้นให้รถวิ่งได้ นั่นก็คือการใช้ทฤษฎี “ส้นตีน”ของ ดร.สามสี ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ยึดกรุงเทพฯ ไม่ต้องถึงทำเนียบรัฐบาล บ้านเมืองก็โกลาหลแล้ว
การเดิมพันครั้งนี้ “เทพเทือก”ชี้ชัดว่าขึ้นอยู่กับจำนวนคน มันน่าจะเป็นเช่นนั้น ถ้ามากกว่าวันที่ประกาศชุมนุมใหญ่ 11 พ.ย. 24 พ.ย. รับรองความฮึกเหิมถึงขีดสุด อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้
ฟังเสียงนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่รู้ชะตาใกล้ขาด ยังประกาศสู้อยู่ แถลงชัด ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ไม่ทำตามข้อเสนอ ของ กปปส. ขอให้มาคุยกันตามกติกา เพื่อให้ได้คำตอบสุดท้ายที่ลงตัว ก่อนไปเลือกตั้งกันใหม่ภายใต้ระบบประชาธิปไตยเฮงซวย
สวนทางกับ “สุเทพ”ที่บอกว่า รัฐบาล รัฐสภา หมดความชอบธรรมไปแล้ว เป็นกบฏรัฐธรรมนูญ จึงต้องตั้ง “สภาประชาชน” ต่างฝ่ายต่างแข็งขืนในจุดยืนของตนเอง บทสรุปบนโต๊ะเจรจา เลยไม่มี
**ต้องลุยกันอีกสักตั้ง !!
กระนั้นก็ตาม จากที่ม็อบดูแผ่วๆ ไปช่วงหนึ่ง คนตั้งคำถามว่า “สุเทพ”กำลังหาทางลงอยู่ใช่หรือไม่ ปรากฏว่า วันนี้กระแสตอบรับเดินขบวน 9 ธ.ค. 9 โมงเช้า 39 นาที ล้มหลาม บรรดามหาวิทยาลัย โรงเรียน เครือข่ายองค์กรต่างๆ ประกาศตั้งขบวนไปตามนัดมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล
โลกออนไลน์ โซเชียลมีเดีย มีการประดิษฐ์สติ๊กเกอร์ เขียนถ้อยคำร้อยกรอง ประโคมโหมกระแสกันคึกคักเอิกเกริก ฝ่ายรัฐบาลเข้าไปโลกออนไลน์ตอนนี้ต้องตกใจ เตรียมตั้งรับไม่ถูกแน่ เพราะถาโถมมาแบบทุกทิศทาง
**ฉะนั้นไม่แน่ว่า เกมการต่อรองกับดุลอำนาจฝ่ายต่างๆ อาจมีขึ้นก่อนแล้วโดยที่ม็อบยังไปไม่ถึงทำเนียบ
ที่น่าสนใจและเป็นคีย์แมนสำคัญที่สุดก็คือ“ฝ่ายทหาร”วันนี้ยังไม่ประกาศชัดจะยืนอยู่ฝั่งไหน บอกอย่างสวยหรู ยืนอยู่ข้างประเทศไทยแค่นั้นซึ่งมันกว้างเกิน เลยเป็นท่าทีเหยียบเรือสองแคมไว้ก่อน
**หรือกำลังปฏิบัติการ ลับ ลวง พราง รอดูจังหวะฝั่งไหนชนะก็เข้าทางฝั่งนั้น ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต่างจากนักการเมืองที่นิยมแทงกั๊ก เลือกฝ่ายชนะ หาผลประโยชน์
วันนี้ “สุเทพ”ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสายแม่ทัพ นายกอง ยังสงบในที่ตั้ง ฉะนั้นต้องออกมาลุยเอง ถ้าคนออกมาเยอะไม่แน่ว่าทหารก็อาจจะออกมาเทให้ฝั่งประชาชนกับเขาด้วย เมื่อนั้นก็พอเห็นทางแห่งชัยชนะ
ต้องยอมรับจริงๆว่า ถ้าทหารไม่เล่นด้วย ปัญหาจะยืดเยื้อ เมืองไทยจะบอบช้ำ เพราะถึงเวลานั้นรัฐบาลและตำรวจชั่วคงได้ใจ เข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าด้วยความเมามัน
หากมองสภาพบ้านเมืองตอนนี้ ถือว่าบอบช้ำเละตุ้มเป๊ะ ไม่มีบรรยากาศของการทำงานที่ดี รัฐบาลคงเข็นไปไม่ไหว ลากเกมต่อไปได้อีกไม่นาน ถ้าผ่านสถานการณ์การชุมนุม 9 ธ.ค.ไปได้ สภาพก็ช้ำเลือดช้ำหนองเยอะแล้ว ฉะนั้นทู่ซี้ไปก็ไร้ประโยชน์ เตรียมตัวยุบสภาสถานเดียว
เพียงแต่ตอนนี้อยากยื้อเพื่อวางกติกาให้ดีก่อน เชิญภาคส่วนของสังคมมาสร้างภาพ วางความเห็นร่วมกันก่อนยุบสภาเลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดิม ที่มั่นใจว่าเลือกตั้งใหม่ก็ชนะกลับเข้ามาใหม่อีกแน่นอน ดังนั้นคงไม่คิดเรื่องแก้ไขกติกาอะไรหรอก ขืนไปแก้เข้าทางคนอื่นก็อดนอนกอดอำนาจ นักโทษหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร ได้ปิดเทอมชีวิต พบจุดจบที่เมืองนอก ไม่ได้กลับประเทศแน่
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว การเมืองก็จะตกอยู่ในวังวนเดิมๆ ที่สลัดหนีวงจรอุบาทว์ไม่ออก รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย จะยังคงสาดกระสุนดินดำ อัดประชานิยม โกงเลือกตั้งกลับมาโกงประเทศ
**ปล่อยให้เครือข่ายพรรคเพื่อไทย เครือข่ายรัฐบาลทาสแม้ว ไปร่วมเขียนกติกา นั่งหัวโต๊ะบงการก็เปล่าประโยชน์
สิ่งหนึ่งที่กลุ่มม็อบออกมาเดินขบวนเพื่อให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ปล่อยมือจากอำนาจก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ในแง่ของการเอาอำนาจออกมาเขียนใหม่ โดยปราศจากการครอบงำของรัฐบาลที่ได้ชื่อว่า“ทรราชย์”การเมืองจะได้พลิกโฉมเปลี่ยนไปเสียที แม้ไม่รู้ว่าแบบใหม่จะดีหรือไม่ดีอย่างไร อย่างน้อยๆ ก็ต้องเอามันออกมาจากมือมารเสียก่อน
ฉะนั้น นี่น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งให้คนออกมาเดินขบวนทวงอำนาจจากรัฐบาลชุดนี้เพื่อไปวางแบบแปลนกันใหม่ ภารกิจอันดับแรกก็คือต้องเอาเชื้อชั่ว เชื้อร้ายไปก่อน ถ้าขืนปล่อยให้รัฐบาลอยู่บนอำนาจต่อไป ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ก็จะย่ามใจว่าเอาชนะม็อบได้ เหลิงลมกันไปใหญ่ พฤติกรรมสันดานโจร ข่มเหงประชาชนกลับมาหลอกหลอนอีกแน่
การที่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่ขยับไปดูแล ศอ.รส. ประสานคณะทูตจากนานาประเทศ เข้าไปนั่งอัดแน่นในทำเนียบฯ คิดเป็นอื่นใดไม่ได้ นอกจากเอาไปเป็นตัวประกัน เป้าหมายไม่ให้ม็อบกล้าบุกเข้าไป หรือแม้แต่ทำอันตรายใส่ทำเนียบฯ
**พฤติกรรมเยี่ยงนี้ มีแต่โจรที่คิดใช้
นอกจากนี้ยังมีข่าวเตรียมระดมพล ระดมกำลังตำรวจมาแทบทั้งประเทศ ป้องกันอำนาจให้รัฐบาลสุดชีวิต สะท้อนชัดว่า รัฐบาลไม่ยอมง่ายๆ ถ้าไม่จนตรอกจริงๆ
ปากก็พูดไปอย่างสวยหรู พูดทุกวันจนรำคาญหู เหม็นขี้ฟัน รัฐบาลจะต้องรักษาอำนาจไว้เพื่อรักษาระบบ ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญ แท้จริงแล้วคือไม่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงระบบ เปลี่ยนระบอบทักษิณที่กัดกินประเทศมาแบบเต็มปากเต็มคำยาวนาน เป็นเวลากว่า 10 ปี แล้ว
การเมืองพลิกโฉมตั้งแต่ทักษิณ เหลิงอำนาจจากที่อาสามาทำงานเพื่อบ้านเมือง กลายเป็นอาสามากินเมือง สร้างเครือข่ายพวกพ้อง กระจายไปกินกันสนุกปากทุกมุมเมือง ใครไม่ใช่พวกพ้องกระเด็นกระดอนข้าราชการไม่ฝักใฝ่พวกตัวเอง หมดอนาคต กัดกร่อนประเทศเรื่อยมาแบบไม่รู้ตัว และยิ่งหนักข้อมากขึ้นทุกวัน
**กระแสต่อต้านมาดั่งพายุโหมแล้ว วันนี้คนไทยทั้งแผ่นดินตื่นแล้ว ไม่มีทางสกัดกั้นได้ อารมณ์มวลชนไปไกลเกินกว่าจะหยุดยั้งทุกอย่างจะสงบยุติลงได้ ก็ต่อเมื่อระบอบทักษิณมอดไหม้ สลายตัวไป !!!
