ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสถานการณ์สินค้าและบริการ หวั่นพ่อค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา เน้นพื้นที่ที่มีปัญหาขัดแย้งทางการเมือง
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ เข้าไปติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้ากักตุนสินค้าที่จำเป็นหรือฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และช่วงที่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของไทยที่อยู่ในระดับสูงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าอาหารจานด่วน เช่น อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น ซึ่งหากพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าแอบฉวยโอกาสในการกักตุนสินค้าหรือปรับราคาสินค้า ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ในภาพรวมยังไม่พบว่ามีการกักตุนสินค้าหรือการฉวยโอกาสในการปรับขึ้นราคาสินค้า แต่เพื่อความไม่ประมาท กรมฯ จึงต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด”
ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และขอให้กรมฯ ไปตรวจสอบและออกมาตรการดูแลราคาอาหารจานด่วน เนื่องจากในขณะนี้่ บางพื้นที่ได้ทยอยปรับเพิ่มอีกเมนูละ 5-10 บาท โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จและจำหน่ายตามรถเข็นริมถนนต่างๆ เช่น บะหมี่หมูแดง ขยับจากเมนูละ 30-35 บาท เป็น 40-45 บาท หรือข้าวราดแกง 2 อย่าง เพิ่มจาก 35 บาท เป็น 40-45 บาท เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มกังวลกับสถานการณ์ทางการเมือง เพราะปัญหาความขัดแย้งได้ลุกลามไปในหลายพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ ซึ่งอาจทำให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการที่มีความต้องการสูง ขณะเดียวกัน พบว่า ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ได้เริ่มมีการกักตุนสินค้ากลุ่มอาหาร เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงด้วย
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ เข้าไปติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้ากักตุนสินค้าที่จำเป็นหรือฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และช่วงที่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของไทยที่อยู่ในระดับสูงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าอาหารจานด่วน เช่น อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น ซึ่งหากพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าแอบฉวยโอกาสในการกักตุนสินค้าหรือปรับราคาสินค้า ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ในภาพรวมยังไม่พบว่ามีการกักตุนสินค้าหรือการฉวยโอกาสในการปรับขึ้นราคาสินค้า แต่เพื่อความไม่ประมาท กรมฯ จึงต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด”
ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และขอให้กรมฯ ไปตรวจสอบและออกมาตรการดูแลราคาอาหารจานด่วน เนื่องจากในขณะนี้่ บางพื้นที่ได้ทยอยปรับเพิ่มอีกเมนูละ 5-10 บาท โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จและจำหน่ายตามรถเข็นริมถนนต่างๆ เช่น บะหมี่หมูแดง ขยับจากเมนูละ 30-35 บาท เป็น 40-45 บาท หรือข้าวราดแกง 2 อย่าง เพิ่มจาก 35 บาท เป็น 40-45 บาท เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มกังวลกับสถานการณ์ทางการเมือง เพราะปัญหาความขัดแย้งได้ลุกลามไปในหลายพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ ซึ่งอาจทำให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการที่มีความต้องการสูง ขณะเดียวกัน พบว่า ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ได้เริ่มมีการกักตุนสินค้ากลุ่มอาหาร เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงด้วย
