“นิวัฒน์ธำรง” ไฟเขียวขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลอีก 6.15 แสนตัน มูลค่า 1.23 หมื่นล้านบาท มั่นใจก่อนสิ้นปีส่งเงินคืนคลังได้อีก 3 หมื่นล้าน
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐในตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ได้เห็นชอบผลการระบายข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ปีการผลิต 2554/55 ปีการผลิต 2555/56 ให้กับผู้ส่งออกที่เสนอราคาเข้ามาในการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปและโครงการจับคู่ขายข้าวเปลือกระหว่างโรงสีและสมาคมผู้ส่งออกข้าว ปริมาณรวม 6.15 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 1.23 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ชนิดข้าวที่มีการระบาย มีทั้งข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวขาว 5% ข้าวเหนียวขาว 10% ปลายข้าวหอมมะลิ และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ โดยจำหน่ายให้กับผู้ส่งออกหลายราย อาทิ บริษัทข้าว ซี.พี. บริษัทเอเชียโกลเด้นไรซ์ บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ บริษัทรอยัลริชชี่ไรซ์ และกลุ่มผู้ส่งออกในนามของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
อย่างไรก็ตาม ผลของการระบายข้าวดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้เป้าหมายการส่งเงินคืนรัฐในช่วงไตรมาสสุดท้าย (ต.ค.-ธ.ค.) ปี 2556 ได้เพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเร่งรัดให้อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ดำเนินการคืนเงินที่ได้จากการระบายข้าวให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยเร็ว
สำหรับการส่งออกข้าวไทย คาดว่าจะมีปริมาณสูงมากขึ้นในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยเป็นผลจากการเร่งระบายสต๊อกข้าวของรัฐบาล ทั้งรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และการขายให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ ประกอบกับราคาส่งออกข้าวของไทยสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกอื่นได้ดีขึ้น โดยปี 2557 คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ดีขึ้น หรืออย่างน้อย 8 ล้านตันคิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีราคาส่งออกเฉลี่ยที่ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งไทยยังคงแชมป์ราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยสูงสุดอยู่
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐในตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ได้เห็นชอบผลการระบายข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ปีการผลิต 2554/55 ปีการผลิต 2555/56 ให้กับผู้ส่งออกที่เสนอราคาเข้ามาในการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปและโครงการจับคู่ขายข้าวเปลือกระหว่างโรงสีและสมาคมผู้ส่งออกข้าว ปริมาณรวม 6.15 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 1.23 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ชนิดข้าวที่มีการระบาย มีทั้งข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวขาว 5% ข้าวเหนียวขาว 10% ปลายข้าวหอมมะลิ และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ โดยจำหน่ายให้กับผู้ส่งออกหลายราย อาทิ บริษัทข้าว ซี.พี. บริษัทเอเชียโกลเด้นไรซ์ บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ บริษัทรอยัลริชชี่ไรซ์ และกลุ่มผู้ส่งออกในนามของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
อย่างไรก็ตาม ผลของการระบายข้าวดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้เป้าหมายการส่งเงินคืนรัฐในช่วงไตรมาสสุดท้าย (ต.ค.-ธ.ค.) ปี 2556 ได้เพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเร่งรัดให้อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ดำเนินการคืนเงินที่ได้จากการระบายข้าวให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยเร็ว
สำหรับการส่งออกข้าวไทย คาดว่าจะมีปริมาณสูงมากขึ้นในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยเป็นผลจากการเร่งระบายสต๊อกข้าวของรัฐบาล ทั้งรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และการขายให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ ประกอบกับราคาส่งออกข้าวของไทยสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกอื่นได้ดีขึ้น โดยปี 2557 คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ดีขึ้น หรืออย่างน้อย 8 ล้านตันคิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีราคาส่งออกเฉลี่ยที่ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งไทยยังคงแชมป์ราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยสูงสุดอยู่