การสำแดงพลังมหาศาลของประชาชนวันอาทิตย์ด้วยจำนวนประมาณ 1 ล้านคน และแผนดาวกระจายวานนี้เป็นการพิสูจน์อย่างชัดเจน และมีศักยภาพอีกครั้งว่าถ้าประชาชนรวมตัวกันติด มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างแท้จริง ไม่มีอำนาจอะไรขวางหรือต้านทานได้ ธรรมของคนดีย่อมชนะอธรรมของนักการเมืองชั่วร้ายขายชาติ
รัฐบาลของแม่นางโพยปูโพรกเน่าในและสมุนทรราชเหลี่ยมมาถึงบทสุดท้ายของความอหังการ ผยองลำพองในอำนาจ กล้าโกงกินอย่างหน้าด้าน แก้กฎหมายโดยไม่เห็นหัวประชาชนอยู่ในสายตา มองผู้เสียภาษีเหมือนไก่รองบ่อน จะรังแกอย่างไรก็ได้
เมื่อประชาชนฮึดสู้ รวมพลังกระจายทั่วพื้นที่ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สนามหลวง ถนนราชดำเนินจนถึงเชิงสะพานมัฆวานฯ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ยิ่งใหญ่กว่าการลุกฮือของพลังนักศึกษาประชาชนยุค 14 ตุลาฯ 2516 ทำให้รัฐบาลนางโพยและบักเหลี่ยมบงการอยู่ข้างหลังตกอยู่ในสภาพเรือรั่ว
จำนวนมหาศาลของประชาชนทำให้กองกำลังตำรวจซึ่งเคยลำพอง ไล่บี้มวลชนก่อนหน้านี้ลดความฮึกเหิม เหมือนรู้ชะตาดีว่าการทำร้ายประชาชนคนดีจะทำให้ไม่มีโอกาสได้แต่งเครื่องแบบเดินบนถนน นอกเหนือจากโดนคิดบัญชีด้วยคดีอาญาซ้ำสอง
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้าคาดเดาได้ว่ารัฐบาลนางโพยจะประสบชะตากรรมพลิกผันอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะความอหังการ! ที่สำคัญ การสำแดงพลังของประชาชนไม่จำกัดเพียงเฉพาะการขับไล่รัฐบาล ระบอบทักษิณ แต่เป็นการขับไล่ตระกูลชินวัตรและเครือญาติ สะใภ้และเขย ซึ่งเป็นตัวกำหนดยุทธศาสตร์กุมอำนาจโกงบ้านกินเมือง
บักเหลี่ยมจอมมารเนรคุณแผ่นดินโอหังมากเกินไปจนประเมินอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนพลาด การรุกคืบหน้าอย่างอหังหารเกิดผลลบตีกลับ ตอกหน้าแงจนป่านนี้ยังนึกไม่ออกว่าได้พลาดอย่างไรทำให้ตัวเองและตระกูลต้องเสี่ยงต่อการไร้แผ่นดินถาวร
อารมณ์คุกรุ่น ความไม่พอใจ และพลังแค้นสะสมของประชาชนเหมือนภูเขาไฟระเบิดโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้ขบวนการบักเหลี่ยมตั้งรับไม่รอบคอบ แผนซึ่งผิดพลาดซ้ำซาก ความห่างไกลจากการประเมินอารมณ์ของประชาชน ฟังแต่คำป้อยอ รับข้อมูลผิดพลาด และความเชื่อมั่นในตัวเองจนเกินไป ทำให้ต้องพ่ายแพ้หมดรูป
นี่จะเป็นความพ่ายแพ้ราคาแพงของทักษิณ ไม่ว่าตัวเองจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม!
ไม่ใช่เฉพาะตัวเองต้องไร้แผ่นดิน โคตรเหง้า ตระกูลเครือญาติ ซึ่งได้ร่วมโกง สร้างเวรกรรมให้แผ่นดินต้องประสบชะตากรรมอย่างน่าอนาถ! แม้ยังไม่มีผลประกาศชัยชนะชัดเจน รอการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ ครอบครัวของบักเหลี่ยมคงไม่มีโอกาสได้เดินเชิดหน้าชูคออย่างผยอง อวดความร่ำรวยย่ำยีหัวใจคนไทยเจ้าของเงินที่โดนโกงไปแผนรุกคืบนำไปสู่การรุกฆาตด้วยการเดินแผนดาวกระจายยึดกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง การปิดล้อมสถานที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล อาคารรัฐสภา รวมทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล การไปเยี่ยมเยียนหน่วยงานต่างๆ สถานีโทรทัศน์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนใหญ่ซึ่งต้องการเผด็จศึกรัฐบาลนางโพยให้สิ้นสภาพและหมดอำนาจ
การวางแผนร่วมกันอย่างเร้นลับ แยบยลของแกนนำทั้ง 3 กลุ่มมวลชนช่วงการชุมนุมยืดเยื้อ การยกระดับ การย้ายพื้นที่ยึดครองบริเวณนอกคำประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นการประสานงานโดยทหารแก่ประกอบด้วย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง และเพื่อนรวมอาชีพต่างเหล่า ต่างวัย ซึ่งถูกหยามว่าหมดสภาพ
ก่อนหน้านี้กองกำลังตำรวจได้รุมยำม็อบเสธ.อ้าย ยิงแก๊สน้ำตาใส่ ไล่ทุบตีอย่างไร้ความปรานีเดือนนี้ในปีที่แล้ว และปิดล้อมม็อบกองทัพประชาชนโดย พล.อ.ปรีชา ข้างทำเนียบฯ เดือนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนและนักบวชต้องอดข้าว น้ำ ขาดห้องน้ำ ต้องยอมถอยออกจากพื้นที่ ทำให้ตำรวจและนักการเมืองลำพองว่าไม่มีใครกล้ากำแหงอีก
โดยหารู้ไม่ว่าการรอจังหวะเอาคืน การร่วมมือระหว่างม็อบสวนลุมฯ และม็อบอุรุพงษ์ ได้นำไปสู่การเกิดของม็อบนกหวีดสถานีสามเสนนำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ทำให้มี 3 เวที ช่วงแรกดูเหมือนไร้พลัง โดยฝ่ายรัฐบาลไม่ระแคะระคายว่านั่นเป็นแผนแยกกันเดิน แยกกันตี และนำไปสู่ร่วมกันเดิน ร่วมกันตี จนเกิดปรากฏการณ์วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การขาดแผนตั้งรับ ความลำพอง มั่นใจในพลังโหดของกองกำลังตำรวจ การกลั่นแกล้งมวลชนเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุง แผนสกปรก เช่น วางเรือใบ เอารถแก๊สปิดถนน ใช้ก้อนหิน หนังสะติ๊กยิงรถของมวลชน ทำให้เกิดอารมณ์เดือด ความมุ่งมั่นกว่าเดิม และเป็นมติของมหาประชาชนว่ารัฐบาลนางโพยและบักเหลี่ยมชั่วร้ายเกินกว่าจะยอมให้อยู่ต่อไปเพื่อทำร้ายบ้านเมือง สร้างหนี้สินให้แผ่นดิน โกงกินอย่างไร้ยางอาย
นี่เป็นพลังของประชาชนผู้ปฏิเสธการเมืองสามานย์ ซื้อเสียง ไร้คุณธรรม กลไกระบบนิติรัฐเสียหาย กระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระถูกอิทธิพลของสินบนชี้นำ ทำให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปทั้งระบบ
การยึดกระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ เป็นความเสี่ยงด้านกฎหมาย ทำให้มวลชนต้องชนะประการเดียวเพื่อไม่ให้ต้องโทษอาญา ขณะเดียวกัน นางโพยยืนกระต่ายขาเดียว ย้ำพูด “ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก” แต่ปราศจากความน่าเชื่อถือ อยู่ในสภาวะเป็นรัฐบาลซึ่งไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ ไร้อำนาจบริหารบ้านเมือง
รัฐบาลนางโพยพึ่งคนป่วยทางสมองอย่าง “เหลิม บางบอน” ในการจัดการม็อบ ตัวนางโพยต้องเผชิญการยำ ถูกขึงพืด ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่พลังดันก้นนางให้พ้นเก้าอี้ผู้นำกำมะลอน่าจะเป็นเสียงกระซิบของผู้นำกองทัพว่าถึงเวลาที่นางต้องไปแล้ว
รัฐบาลของแม่นางโพยปูโพรกเน่าในและสมุนทรราชเหลี่ยมมาถึงบทสุดท้ายของความอหังการ ผยองลำพองในอำนาจ กล้าโกงกินอย่างหน้าด้าน แก้กฎหมายโดยไม่เห็นหัวประชาชนอยู่ในสายตา มองผู้เสียภาษีเหมือนไก่รองบ่อน จะรังแกอย่างไรก็ได้
เมื่อประชาชนฮึดสู้ รวมพลังกระจายทั่วพื้นที่ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สนามหลวง ถนนราชดำเนินจนถึงเชิงสะพานมัฆวานฯ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ยิ่งใหญ่กว่าการลุกฮือของพลังนักศึกษาประชาชนยุค 14 ตุลาฯ 2516 ทำให้รัฐบาลนางโพยและบักเหลี่ยมบงการอยู่ข้างหลังตกอยู่ในสภาพเรือรั่ว
จำนวนมหาศาลของประชาชนทำให้กองกำลังตำรวจซึ่งเคยลำพอง ไล่บี้มวลชนก่อนหน้านี้ลดความฮึกเหิม เหมือนรู้ชะตาดีว่าการทำร้ายประชาชนคนดีจะทำให้ไม่มีโอกาสได้แต่งเครื่องแบบเดินบนถนน นอกเหนือจากโดนคิดบัญชีด้วยคดีอาญาซ้ำสอง
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้าคาดเดาได้ว่ารัฐบาลนางโพยจะประสบชะตากรรมพลิกผันอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะความอหังการ! ที่สำคัญ การสำแดงพลังของประชาชนไม่จำกัดเพียงเฉพาะการขับไล่รัฐบาล ระบอบทักษิณ แต่เป็นการขับไล่ตระกูลชินวัตรและเครือญาติ สะใภ้และเขย ซึ่งเป็นตัวกำหนดยุทธศาสตร์กุมอำนาจโกงบ้านกินเมือง
บักเหลี่ยมจอมมารเนรคุณแผ่นดินโอหังมากเกินไปจนประเมินอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนพลาด การรุกคืบหน้าอย่างอหังหารเกิดผลลบตีกลับ ตอกหน้าแงจนป่านนี้ยังนึกไม่ออกว่าได้พลาดอย่างไรทำให้ตัวเองและตระกูลต้องเสี่ยงต่อการไร้แผ่นดินถาวร
อารมณ์คุกรุ่น ความไม่พอใจ และพลังแค้นสะสมของประชาชนเหมือนภูเขาไฟระเบิดโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้ขบวนการบักเหลี่ยมตั้งรับไม่รอบคอบ แผนซึ่งผิดพลาดซ้ำซาก ความห่างไกลจากการประเมินอารมณ์ของประชาชน ฟังแต่คำป้อยอ รับข้อมูลผิดพลาด และความเชื่อมั่นในตัวเองจนเกินไป ทำให้ต้องพ่ายแพ้หมดรูป
นี่จะเป็นความพ่ายแพ้ราคาแพงของทักษิณ ไม่ว่าตัวเองจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม!
ไม่ใช่เฉพาะตัวเองต้องไร้แผ่นดิน โคตรเหง้า ตระกูลเครือญาติ ซึ่งได้ร่วมโกง สร้างเวรกรรมให้แผ่นดินต้องประสบชะตากรรมอย่างน่าอนาถ! แม้ยังไม่มีผลประกาศชัยชนะชัดเจน รอการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ ครอบครัวของบักเหลี่ยมคงไม่มีโอกาสได้เดินเชิดหน้าชูคออย่างผยอง อวดความร่ำรวยย่ำยีหัวใจคนไทยเจ้าของเงินที่โดนโกงไปแผนรุกคืบนำไปสู่การรุกฆาตด้วยการเดินแผนดาวกระจายยึดกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง การปิดล้อมสถานที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล อาคารรัฐสภา รวมทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล การไปเยี่ยมเยียนหน่วยงานต่างๆ สถานีโทรทัศน์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนใหญ่ซึ่งต้องการเผด็จศึกรัฐบาลนางโพยให้สิ้นสภาพและหมดอำนาจ
การวางแผนร่วมกันอย่างเร้นลับ แยบยลของแกนนำทั้ง 3 กลุ่มมวลชนช่วงการชุมนุมยืดเยื้อ การยกระดับ การย้ายพื้นที่ยึดครองบริเวณนอกคำประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นการประสานงานโดยทหารแก่ประกอบด้วย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง และเพื่อนรวมอาชีพต่างเหล่า ต่างวัย ซึ่งถูกหยามว่าหมดสภาพ
ก่อนหน้านี้กองกำลังตำรวจได้รุมยำม็อบเสธ.อ้าย ยิงแก๊สน้ำตาใส่ ไล่ทุบตีอย่างไร้ความปรานีเดือนนี้ในปีที่แล้ว และปิดล้อมม็อบกองทัพประชาชนโดย พล.อ.ปรีชา ข้างทำเนียบฯ เดือนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนและนักบวชต้องอดข้าว น้ำ ขาดห้องน้ำ ต้องยอมถอยออกจากพื้นที่ ทำให้ตำรวจและนักการเมืองลำพองว่าไม่มีใครกล้ากำแหงอีก
โดยหารู้ไม่ว่าการรอจังหวะเอาคืน การร่วมมือระหว่างม็อบสวนลุมฯ และม็อบอุรุพงษ์ ได้นำไปสู่การเกิดของม็อบนกหวีดสถานีสามเสนนำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ทำให้มี 3 เวที ช่วงแรกดูเหมือนไร้พลัง โดยฝ่ายรัฐบาลไม่ระแคะระคายว่านั่นเป็นแผนแยกกันเดิน แยกกันตี และนำไปสู่ร่วมกันเดิน ร่วมกันตี จนเกิดปรากฏการณ์วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การขาดแผนตั้งรับ ความลำพอง มั่นใจในพลังโหดของกองกำลังตำรวจ การกลั่นแกล้งมวลชนเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุง แผนสกปรก เช่น วางเรือใบ เอารถแก๊สปิดถนน ใช้ก้อนหิน หนังสะติ๊กยิงรถของมวลชน ทำให้เกิดอารมณ์เดือด ความมุ่งมั่นกว่าเดิม และเป็นมติของมหาประชาชนว่ารัฐบาลนางโพยและบักเหลี่ยมชั่วร้ายเกินกว่าจะยอมให้อยู่ต่อไปเพื่อทำร้ายบ้านเมือง สร้างหนี้สินให้แผ่นดิน โกงกินอย่างไร้ยางอาย
นี่เป็นพลังของประชาชนผู้ปฏิเสธการเมืองสามานย์ ซื้อเสียง ไร้คุณธรรม กลไกระบบนิติรัฐเสียหาย กระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระถูกอิทธิพลของสินบนชี้นำ ทำให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปทั้งระบบ
การยึดกระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ เป็นความเสี่ยงด้านกฎหมาย ทำให้มวลชนต้องชนะประการเดียวเพื่อไม่ให้ต้องโทษอาญา ขณะเดียวกัน นางโพยยืนกระต่ายขาเดียว ย้ำพูด “ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก” แต่ปราศจากความน่าเชื่อถือ อยู่ในสภาวะเป็นรัฐบาลซึ่งไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ ไร้อำนาจบริหารบ้านเมือง
รัฐบาลนางโพยพึ่งคนป่วยทางสมองอย่าง “เหลิม บางบอน” ในการจัดการม็อบ ตัวนางโพยต้องเผชิญการยำ ถูกขึงพืด ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่พลังดันก้นนางให้พ้นเก้าอี้ผู้นำกำมะลอน่าจะเป็นเสียงกระซิบของผู้นำกองทัพว่าถึงเวลาที่นางต้องไปแล้ว
