ทุกคนคงได้ประจักษ์ชัดเจนแก่สายตาตนเองแล้วว่า คนไทยทุกภาคส่วนพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมาขับไล่ระบอบทักษิณร่วมกันอย่างมากมายมหาศาลชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ทุกคนทุกเพศทุกวัยเปิดหน้าชก ให้เป็นเกียรติประวัติแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูลกันหมดไม่ว่าจะเป็น ดารา นักร้อง ศิลปิน นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ หมอ พยาบาล นักบิน แอร์โฮสเตส วิศวกร พริตตี้ ฯลฯ
พลังของประชาชนที่พร้อมใจกันออกมาส่งผลให้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่หวังจะล้างผิดให้ทักษิณต้องกลับไปตายทั้งกลมค้างอยู่ในมดลูกพรรคเพื่อไทยต่อไป ซึ่งนี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า ประชาชนพร้อมใจกันก้าวข้ามระบบการเมืองปัจจุบันที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงไปแล้ว
การนำการชุมนุมของแกนนำของม็อบต่างๆที่ประสานและแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ก็ตกผลึกทางความคิดในเรื่องเดียวกันว่า การแจ้งเกิด การเติบโต การหลอมรวมกัน และแนวทางการก้าวไปข้างหน้าของม็อบที่บูรณาการกันนั้น ล้วนแล้วแต่มาจากความต้องการของประชาชนทั้งสิ้น
แม้เริ่มแรกแนวทางของแต่ละม็อบจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่ก็มีจุดร่วมกันนั่นก็คือการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บางม็อบอาจยกระดับเร็ว บางม็อบจะค่อยๆ ดูกระแส พูดง่ายๆ ว่าแต่ละคนก็มีจุดเดือดต่างกันช้าบ้างเร็วบ้าง แต่เมื่อผ่านเงื่อนไขต่างๆมาแล้ว ทั้งวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้จุดเดือดของทุกม็อบและทุกคนมาถึงจุดเดียวกันแล้วนั่นคือการก้าวข้ามระบอบทักษิณ โดยมีการตอบโต้อย่างสิ้นคิดของรัฐบาลและบรรดาขี้ข้าลิ่วล้อเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่เร่งให้ปฏิกริยามวลชนยกระดับขึ้นมาจนเท่าเทียมกัน
พัฒนาการทางความคิดของมวลชน เริ่มพูดไปในทิศทางเดียวกันจากการยกระดับผ่านการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาสู่การปลดแอกประเทศไทยจากระบอบทักษิณ และกำลังจะยกระดับไปสู่การทำลายล้างระบอบทักษิณและการเมืองปัจจุบันที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงนั่นก็คือการปฏิรูปการเมืองโดยประชน
"จากจุดร่วมไปสู่ทางออกร่วมดังกล่าวจึงไม่แปลกที่วันนี้ถนนทุกสายจะหลอมรวมกันเป็นซูเปอร์ไฮเวย์ หรือชุมทางใหญ่ในการที่จะกำจัดระบอบทักษิณไปจนถึงปฏิรูปการเมืองไทยให้สุดซอย และนี่คือการก้าวข้ามผ่านครั้งสำคัญของสังคมไทยที่จะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีกต่อไป"
รถไฟความเร็วสูงจากชุมทางขบวนนี้ไม่มีแวะจอดกลางทางให้ผู้โดยสารลงแค่สถานีระหว่างทางมีแต่ต้องไปให้ถึงสถานีสุดท้ายคือสถานีประเทศไทยเท่านั้น วันนี้คนเรือนแสนเรือนล้านมาร่วมกันขึ้นรถไฟขบวนนี้ที่สถานีเดียวกัน
ภาพมวลมหาประชาชนอันสวยงามนี้ได้ติดตราตรึงใจคนไทยผู้รักความถูกต้องทุกคนทั้งที่ได้มาร่วมชุมนุมและไม่ได้มาร่วม แต่ในขณะเดียวกันภาพเหล่านี้กลับส่งผลกระทบทางใจอย่างแรงให้แก่บรรดาคนในตระกูลชินวัตรและเครือญาติ โดยเฉพาะบุตรชายและบุตรสาวแท้ๆ ของทักษิณ ชินวัตร นั่นก็คือ โอ๊ค พานทองแท้, เอม พินทองทา และอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ที่ถึงกับต้องออกอาการปากกล้าขาสั่นออกมาตอบโต้ในไอจี
เป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากนายโอ๊ค พานทองแท้ที่มักจะให้ทีมงานพากันปลุกปั้นภาพลักษณ์ให้ดูมีสมองออกมาตอบโต้คนฝั่งตรงข้ามพ่อตัวเองเสมอแล้ว ครั้งนี้ทั้งเอมและอุ๊งอิ๊งบุตรสาวทักษิณที่ไม่ค่อยออกมายุ่งเกี่ยวอะไรเกี่ยวกับประเด็นการเมืองถึงกับร้อนรนทนไม่ไหวต้องพล่านกันดราม่ากันผ่านไอจีส่วนตัวนั้นคาดว่าน่าจะได้รบผลกระทบทางจิตใจอย่างแรงจากเหตุการณ์ในช่วงนี้
การตอบโต้ของทั้งสามก็ยังคงเป็นแนวคิดเดิมๆ ที่ยังมองไม่เห็นว่าพ่อและเครือญาติวงศ์ตระกูลตัวเองสร้างความฉิบหายให้กับชาติไทยไว้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก แยกแผ่นดิน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นบุคลากรหรือขี้ข้าที่ทักษิณผู้เป็นพ่อได้ให้การสนับสนุนทั้งนั้น ทั้งพวกล้มเจ้า ทั้งเสื้อแดง พวกนักการเมือง ส.ส. ส.ว. ขรก.สายขี้ข้า และการพยายามสร้างรัฐไทยใหม่ทับซ้อนประเทศไทยของทุกคน
ทั้งโอ๊ค เอม และอุ๊งอิ๊ง ล้วนบอกให้คนไทยยอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและเคารพในระบบรัฐสภา แต่กลับไม่เคยบอกให้รัฐบาลขี้ข้าของพ่อตัวเองฟังเสียงของประชาชน และพ่อตัวเองให้เคารพในศาลที่ตัดสินภายใต้พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เหล่านี้คือแนวคิดจากต้นไม้พิษถ่ายทอดไปสู่ผลไม้พิษว่า ประชาธิปไตยคือเสียงข้างมากทุกคนต้องยอมรับและเสียงข้างมากจะทำอะไรก็ได้ ถ้าผิดก็แก้กฏหมายให้ไม่มีความผิดเสีย ซ้ำร้ายยังคงคิดว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมืองสองขั้วที่เดี๋ยวก็จะสลับฝั่งกันไล่อีกเมื่อถึงคราของฝั่งตนบ้างโดยไม่ได้ดูว่าตอนนี้ความก้าวหน้าในแนวคิดของมวลชนเขาไปถึงขั้นไหนแล้ว
แต่ไม่ว่าจะหลอกตัวเองอย่างไร ลูกของทักษิณ ชินวัตร ทั้งสามคนคงเห็นแล้วว่าวันนี้คนไทยนับล้าน โดยเฉพาะคนในสังคมทั้งในระดับเดียวกันและรอบๆ ตัวกำลังแสดงความรังเกียจตระกูลชินวัตรและเครือญาติแค่ไหน และประเทศไทยไม่มีที่ทางในสังคมให้กับพวกตนสามพี่น้องอีกต่อไป ออกไปไหนก็มีแต่โดนโห่ไล่ เป่านกหวีตไล่ อยู่เมืองไทยต่อไปก็ไม่มีความสุข และอนาคตอาจต้องถึงขั้นไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนทักษิณผู้เป็นพ่อก็เป็นได้
และทั้งหมดเหล่านี้นั้นก็ไม่ได้มาจากใคร หากแต่มาจากความไม่รู้จักพอ ลุแก่อำนาจ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ของทักษิณ ชินวัตรนั่นเอง ที่ทำให้ลูกตัวเองและญาติพี่น้องต้องได้รับผลกระทบเช่นนี้ไปด้วย กฏแห่งกรรมกำลังแสดงสัจธรรมออกมาให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นแล้ว