xs
xsm
sm
md
lg

ปูงัดวิชามารสกัดม็อบ ตะปูเรือใบ-จับกุม-จม.ขู่เอาชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

***คำประกาศเป้าหมายล้านคนบนถนนราชดำเนิน เพื่อยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด ขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย ไม่เพียงส่งผลให้มวลชนจากทั่วสารทิศของประเทศ มุ่งหน้าสู่จุดหมายเดียวกัน นั่นคือ ราชดำเนิน ถนนแห่งประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หากแต่ยังสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้กับผู้กุมอำนาจ ด้วยเกรงว่าอำนาจที่ยึดครองอยู่นั้นจะสูญเสียไป***

จึงไม่แปลกที่นับเนื่องจากเริ่มมีการชุมนุมต่อต้านโค่นล้มระบอบทักษิณ กระทั่งการชุมนุมต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เราจึงพบเห็นทั้งการใช้กลไกรัฐ และกระบวนการใต้ดิน สกัดกั้น ข่มขู่ ขนมวลชนสู้ เพื่อให้มวลชนเกิดความเกรงกลัว ไม่กล้า หรือสามารถเดินทางร่วมชุมนุมได้ สด ๆ ร้อน กลางดึกต่อเนื่องเช้าวันที่ 24 พ.ย. ที่กลุ่มมวลชนภาคใต้ ซึ่งเดินทางด้วยรถบัสกว่า 10 คัน มุ่งหน้าหน้าเข้ากรุงเทพฯเพื่อร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน แต่ระหว่างรถเดินทางมาถึงบ้าน ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รถกลับเหยียบเข้ากับตะปูเรือใบ ที่โปรยไว้บนถนนเพชรเกษม ทำให้ต้องเสียเวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะเคลียร์พื้นที่เดินทางต่อได้
หรืออย่างการใช้กฎหมายมาเป็นข้ออ้างสกัดกั้น ทำให้ผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุม เกิดความเกรงกลัว เช่น มีการปิดป้ายเตือนผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมไว้ตามพื้นที่สาธารณะต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร เช่น ป้ายรถเมล์ ตู้โทรศัพท์ ในทำนองว่า ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีชักชวนไปร่วมชุมนุมปิดถนน บริเวณรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล และบริเวณใกลเคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง อาจถูกจับกุม ควบคุม ไปดำเนินคดีได้ จึงขออย่าหลงเชื่อ หรือให้การสนับสนุน เป็นต้น
รวมถึงการออกประกาศเตือนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แจ้งเตือนบุคคลต่างด้าวๆ ต่าง ว่ากรณีเข้าร่วมชุมนุม หรือขึ้นปราศรัยบนเวทีทางการเมือง อาจทำให้ถูกถอนการอนุญาต หรือไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ ซึ่งลักษณะดังกล่าว ยังอาจทำให้เกิดเป็นประเด็นกล่าวหาในภายหลังได้ว่า ผู้ที่มาร่วมชุมนับหมื่นแสนนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย หากแต่เป็นคนต่างด้าว ที่แกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลมีการจัดหามา หรืออาจสร้างสถานการณ์ว่าสามารถควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวได้จากพื้นที่การชุมนุม อีกด้วย
ยังไม่รวมถึงก่อนหน้านี้ ที่รัฐมีการขับเคลื่อนจะใช้กลไกของกรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดการกับแกนนำผู้ชุมนุมอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และบรรดากลุ่มทุนที่ให้การสนับสนุนการชุมนุม รวมไปถึงการอ้างจะใช้กฎหมายอาญา จัดการกับผู้ที่เป่านกหวีด ทั้งที่ในทางกฎหมายจริงๆ แล้ว แค่ความผิดลหุโทษ

***นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่มาร่วมชุมนุมต่อต้าน หากเปิดตัวชัดเจนก็จะถูกข่มขู่ คุกคาม หมายเอาชีวิต อย่างรายล่าสุด ดร.วรพรรณ เรืองผกา อาจารย์มหิดล และบุตรสาว 2 คน ที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 5 พ.ย.และ 17 พ.ย. ก็ได้รับจดหมายข่มขู่เอาชีวิต โดยจดหมายดังกล่าวมีถ้อยคำว่า “ตาย “เขียนด้วยเลือด และส่งถึงบ้านพัก ดร.วรพรรณ เมื่อวเนที่ 18 พ.ย. ในเวลา 23.00 น.***

ขณะเดียวกันก็ยังพบว่ามีการขนมวลชนเข้าสู้ เพื่อสะท้อนภาพรัฐบาลว่า ยังคงได้รับการยอมจากประชาชนให้อยู่บริหารงานต่อไป อย่างในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ พบว่าผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน) กลับมีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 23 พ.ย. ถึงผู้อำนวยการศูนย์กศน.ทุกแห่งในจังหวัด แจ้งขอให้ครู กศน. ทุกคนมาปฏิบัติราชการระหว่างวันที่ 24-27 พ.ย. ที่สำนักงาน กศน. จ.ชัยภูมิ โดยในวันที่ 24 พ.ย.ให้เดินทางมาถึงสำนักงานฯตั้งแต่เวลา 06.00 เพื่อปฏิบัติราชการ โดยให้เตรียมเสื้อขาว และหรือเสื้อสีแดง รวมถึงเครื่องนอนมาให้พร้อมด้วย ซึ่งก็มีรายงานว่า แม้หนังสือดังกล่าวจะอ้างให้มาปฏิบัติราชการที่สนง.กศน. ชัยภูมิ แต่เป็นที่รู้กันว่า แท้จริงแล้วมุ่งหน้าสู่ สนามกีฬา รัชมังคลากีฬาสถาน ที่ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.)

***เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพฤติกรรมที่ก่อเป็นภาพสะท้อนความหวั่นเกรงต่อการสูญเสียอำนาจของรัฐบาล ขณะเดียวกันก็กล่าวได้เป็นความเสื่อมทรุดในศรัทธาที่มีต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในสายตาประชาชน ที่นับวันยิ่งทบเท่าทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ หากแต่รัฐบาลก็ยังคงนิ่งเฉย ท่องคาถาการเสียงข้างมาก มาจากประชาชน และเดินหน้านำพาประเทศดำดิ่งสู่ห้วงหุบเหวลึกต่อไป***
กำลังโหลดความคิดเห็น