ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเล็งกู้แสนล้านอุดจำนำข้าว รอจังหวะเหมาะสมหวั่นแบงก์โขกดอกเบี้ยสูงเกินได้ ขณะที่ ธ.ก.ส.เริ่มทยอยจ่ายเงินให้ชาวนาแล้ว คาดสิ้นธ.ค.นี้ใช้ประมาณ 7 หมื่นล้าน พร้อมรอเงินจากการขายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ใช้ในโครงการอีก 1.3 แสนล้าน
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธ.ก.ส.เริ่มทยอยจ่ายเงินในโครงการจำนำข้าวที่ค้างอยู่แล้ว แต่คงต้องทยอยจ่าย เนื่องจากธ.ก.ส.ยังต้องบริการเงินในโครงการให้อยู่ในกรอบ 5 แสนล้านบาทตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิม ภายในสิ้นปีนี้ ไม่ใช่ว่ามีปัญหาสภาพคล่อง อีกทั้งต้องรอเงินเข้ามาเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะเงินจากการขายข้าวที่น่าจะได้เข้ามาอีก 2.4 หมื่นล้านบาท
ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้รับเงินจากงบประมาณ 2557 เข้ามาแล้วประมาณ 8.2 หมื่นล้านบาท และได้นำไปตัดหนี้เงินกู้เดิมแล้ว 5 หมื่นล้านบาททำให้ทางกระทรวงการคลังโดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะหรือ สบน.สามารถกู้เงินหมุนเวียนในกรอบไม่เกิน 4.1 แสนล้านบาทได้เพิ่มเติมอีกบางส่วนเพื่อมาใช้ในการดำเนินโครงการช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท
“จากที่หารือเบื้องต้น สบน.เตรียมจะกู้เงินให้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจจะอยู่ในวงเงินแสนล้านบาท โดยเป็นการใช้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท แต่ในช่วงเดือนไตรมาสแรกของปีหน้ายังจำเป็นต้องใช้เงินจำนำข้าวเพิ่มเติม จึงต้องเตรียมสภาพคล่องไว้ให้ธนาคารเพิ่มเติมด้วยหากยังไม่ได้เงินจากการระบายข้าวเข้ามาเพิ่มเติมในปีหน้าตามกรอบที่ต้องใช้เงิน 2.7 แสนล้านบาทซึ่งเป็นเงินจากการระบายข้าวถึง 1.3 แสนล้านบาท” นายสุพัฒน์กล่าวและว่า เงินกู้ 1.4 แสนล้านบาทนั้นก็อาจจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีให้ขยายเพดานกู้เงินชั่วคราวด้วยเพื่อไม่ให้การดำเนินโครงการเกิดปัญหาสะดุดลง รวมถึงการขอวงเงินเพิ่มเติมจากงบประมาณอีก 2-3 หมื่นล้านบาทก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติของครม.ด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การกู้เงินใช้ในโครงการจำนำข้าว สบน.จะดูแลไม่ให้เกินกรอบ 4.1 แสนล้านบาท โดยหากมีวงเงินใช้หนี้เดิมเข้ามาก็จะกู้ใหม่ให้ทันที โดยขณะนี้สามารถกู้ได้จำนวน 1.05 แสนล้านบาท โดยจะพิจารณาในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้มีภาระต้นทุนที่สูงเกินไป โดยหากสถาบันการเงินเสนออัตราดอกเบี้ยเข้ามาสูงเกินไปก็จะชะลอการกู้เงินออกไปก่อน.
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธ.ก.ส.เริ่มทยอยจ่ายเงินในโครงการจำนำข้าวที่ค้างอยู่แล้ว แต่คงต้องทยอยจ่าย เนื่องจากธ.ก.ส.ยังต้องบริการเงินในโครงการให้อยู่ในกรอบ 5 แสนล้านบาทตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิม ภายในสิ้นปีนี้ ไม่ใช่ว่ามีปัญหาสภาพคล่อง อีกทั้งต้องรอเงินเข้ามาเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะเงินจากการขายข้าวที่น่าจะได้เข้ามาอีก 2.4 หมื่นล้านบาท
ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้รับเงินจากงบประมาณ 2557 เข้ามาแล้วประมาณ 8.2 หมื่นล้านบาท และได้นำไปตัดหนี้เงินกู้เดิมแล้ว 5 หมื่นล้านบาททำให้ทางกระทรวงการคลังโดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะหรือ สบน.สามารถกู้เงินหมุนเวียนในกรอบไม่เกิน 4.1 แสนล้านบาทได้เพิ่มเติมอีกบางส่วนเพื่อมาใช้ในการดำเนินโครงการช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท
“จากที่หารือเบื้องต้น สบน.เตรียมจะกู้เงินให้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจจะอยู่ในวงเงินแสนล้านบาท โดยเป็นการใช้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท แต่ในช่วงเดือนไตรมาสแรกของปีหน้ายังจำเป็นต้องใช้เงินจำนำข้าวเพิ่มเติม จึงต้องเตรียมสภาพคล่องไว้ให้ธนาคารเพิ่มเติมด้วยหากยังไม่ได้เงินจากการระบายข้าวเข้ามาเพิ่มเติมในปีหน้าตามกรอบที่ต้องใช้เงิน 2.7 แสนล้านบาทซึ่งเป็นเงินจากการระบายข้าวถึง 1.3 แสนล้านบาท” นายสุพัฒน์กล่าวและว่า เงินกู้ 1.4 แสนล้านบาทนั้นก็อาจจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีให้ขยายเพดานกู้เงินชั่วคราวด้วยเพื่อไม่ให้การดำเนินโครงการเกิดปัญหาสะดุดลง รวมถึงการขอวงเงินเพิ่มเติมจากงบประมาณอีก 2-3 หมื่นล้านบาทก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติของครม.ด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การกู้เงินใช้ในโครงการจำนำข้าว สบน.จะดูแลไม่ให้เกินกรอบ 4.1 แสนล้านบาท โดยหากมีวงเงินใช้หนี้เดิมเข้ามาก็จะกู้ใหม่ให้ทันที โดยขณะนี้สามารถกู้ได้จำนวน 1.05 แสนล้านบาท โดยจะพิจารณาในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้มีภาระต้นทุนที่สูงเกินไป โดยหากสถาบันการเงินเสนออัตราดอกเบี้ยเข้ามาสูงเกินไปก็จะชะลอการกู้เงินออกไปก่อน.