ASTVผู้จัดการรายวัน-พศ.เตรียมเสนอ "สมเด็จวัดปากน้ำ" เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช หลังจากกฤษฎีกาตีความว่าคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ฯ หมดวาระไปพร้อมกับสมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความข้อกฏหมายออกมาแล้ว โดยเห็นว่าการตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีเหตุมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประชวร จึงมีการเสนอให้มีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้สมเด็จพระสังฆราช ได้ทรงพักผ่อนรักษาพระองค์ ในเมื่อพระองค์ได้สิ้นพระชนม์แล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า เหตุผลของการมีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ก็หมดไป จึงย้อนกลับไปดูมาตรา 10 วรรค 1 เมื่อไม่มีสมเด็จพระสังฆราชแล้ว พศ.จะต้องเสนอชื่อ สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชต่อไป
ทั้งนี้ การตีความข้อกฎหมายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ พศ.ได้ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2535 หมวด 1 สมเด็จพระสังฆราช มาตรา 10 และ11 ว่า ควรจะมีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช หรือจะมีเพียงแค่ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชอย่างเดียว
นายนพรัตน์กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความข้อกฎหมายแล้ว ขั้นตอนจากนี้ไป พศ. จะได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้รับทราบ รวมทั้งจะทำหนังสือการเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ส่งไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาลงนาม หลังจากนั้นจะนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ
"กระบวนการต่างๆ ในการตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พศ. ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่า ในเร็วๆ นี้ จะทราบผลการแต่งตั้ง ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้การบริหารกิจการคณะสงฆ์ สามารถเดินหน้าต่อไปได้"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนสมเด็จพระราชาคณะที่อาวุสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขณะนี้ ได้แก่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความข้อกฏหมายออกมาแล้ว โดยเห็นว่าการตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีเหตุมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประชวร จึงมีการเสนอให้มีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้สมเด็จพระสังฆราช ได้ทรงพักผ่อนรักษาพระองค์ ในเมื่อพระองค์ได้สิ้นพระชนม์แล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า เหตุผลของการมีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ก็หมดไป จึงย้อนกลับไปดูมาตรา 10 วรรค 1 เมื่อไม่มีสมเด็จพระสังฆราชแล้ว พศ.จะต้องเสนอชื่อ สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชต่อไป
ทั้งนี้ การตีความข้อกฎหมายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ พศ.ได้ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2535 หมวด 1 สมเด็จพระสังฆราช มาตรา 10 และ11 ว่า ควรจะมีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช หรือจะมีเพียงแค่ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชอย่างเดียว
นายนพรัตน์กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความข้อกฎหมายแล้ว ขั้นตอนจากนี้ไป พศ. จะได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้รับทราบ รวมทั้งจะทำหนังสือการเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ส่งไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาลงนาม หลังจากนั้นจะนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ
"กระบวนการต่างๆ ในการตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พศ. ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่า ในเร็วๆ นี้ จะทราบผลการแต่งตั้ง ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้การบริหารกิจการคณะสงฆ์ สามารถเดินหน้าต่อไปได้"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนสมเด็จพระราชาคณะที่อาวุสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขณะนี้ ได้แก่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
