xs
xsm
sm
md
lg

"แม่หมอนิ่ม"รับสั่งฆ่าเอ็กซ์ ตำรวจให้ประกันตัว 5 แสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “แม่หมอนิ่ม” สารภาพสั่งฆ่า “เอ็กซ์” เหตุซ้อมลูกสาวจนแท้ง ยันทำคนเดียวปัดลูกสาวไม่มีส่วนรู้เห็น ส่วน “หมอนิ่ม” หลั่งน้ำตาก้มกราบเท้าแม่ ลั่นสามีไม่ติดยาคงไม่เป็นแบบนี้ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ไม่เคยคบชู้ ด้านตำรวจ สน.มีนบุรีรุดรับการเข้ามอบตัวทันที ก่อนให้ประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล ด้านพ่อ-แม่เอ็กซ์ตามติดเข้าพบ “ปวีณา” พ่อเอ็กซ์ฝากถึงลูกสะใภ้ให้มีชีวิตต่อไปนานๆ จะได้รู้ว่านรกมีจริง! ตำรวจให้ประกันตัว "แม่ -หมอนิ่ม"ในชั้นสอบสวน ในวงเงินประกันตัวคนละ 5 แสนบาท เบื้องต้นแม่รับสารภาพบงการฆ่า "เอ็กซ์" ส่วน "หมอนิ่ม" ปฏิเสธ ยืนยันไม่เคยปันใจให้ชายอื่น และยืนยันไม่เคยคิดฮุบสมบัติ เพราะตนเองเป็นคนหารายได้หลักในทรัพย์สินที่หามาร่วมกัน เผย "เอ็กซ์"นิยมความรุนแรงจนแม่เอือมทนเห็นตนเองรับสภาพไม่ได้

เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (11 พ.ย.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม เข้าพบนางปวีณา หงสกุล รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนที่จะมีการเข้ามอบตัวต่อตำรวจในวันนี้ (11 พ.ย.) ในข้อหาร่วมกันใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยนางสุรางค์กล่าวว่า สาเหตุที่กระทำเช่นนั้นเนื่องจากว่าตนรู้สึกสงสารลูกสาวที่ถูกทำร้ายมาทั้งหมด 6 ปีเต็ม ถึงขั้นที่ว่ามีการเอาปืนมาขู่ และหลานที่อายุได้ 2 ขวบจะถูกตีอยู่บ่อยครั้ง หากไม่ทำตามที่นายจักรกฤษณ์บอก พอหมอนิ่มเข้าไปห้ามก็จะถูกเอาไฟจี้ ตนในฐานะคนเป็นแม่ยอมไม่ได้ที่เห็นลูกสาวถูกทำร้ายทุกวันบ่อยๆ จึงบอกให้ทั้งคู่เลิกกัน แต่ทั้งสองคนไม่ยอมเลิกและให้เหตุผลว่ารักลูกและไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก ตนก็ยอมและทนมานานกว่า 6 ปี จนกระทั่งแม่ของเอ็กซ์เข้าแจ้งความและเอ็กซ์ถูกดำเนินคดี ตนคิดว่าเมื่อหลุดคดีแล้วเอ็กซ์จะทำตัวดีขึ้น แต่ยังก็ยังทำตัวเหมือนเดิม และร้ายขึ้นทุกวัน จนกระทั่งก่อนที่จะเข้ามาแจ้งความได้ทำร้ายร่างหายหมอนิ่มจนแท้งลูก ตนทำใจไม่ได้ที่ถูกกทำร้ายร่างกาย และเมื่อเป็นแบบนี้คงไม่รอให้ลูกสาวตายก่อน ยืนยันว่าหมอนิ่มไม่ทราบเรื่องที่ตนจ้างฆ่านายเอ็กซ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ตนรู้จักกับ น.ส.วรพรรณภูรี หรือแหม่ม เนื่องจากว่ามาทำหน้าที่บ้านของตนและมีการทำการซื้อขายคอนโดฯ

ด้าน พญ.นิธิวดีกล่าวว่า ตนขอขอบคุณนางปวีณาเป็นอย่างมาก และในวันนี้ตนเตรียมตัวที่จะมาตอบคำถามสื่อทุกเรื่องเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ทั้งสื่อทีวีและออนไลน์ได้ลงไปนั้น เช่น กรณีที่มีข่าวว่าตนหวังในสมบัติของเอ็กซ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้บอกไปแล้วว่าทรัพสินที่ออกมาจากตู้เซฟนั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของตน ส่วนกรณีที่หลายคนสงสัยว่าตนถูกเอ็กซ์ทำร้ายจริงหรือไม่นั้น มีหลักฐานทุกอย่าง แต่ในวันนี้ตนสะดวกที่จะให้ตรวจสอบ และเรื่องมือที่ 3 จากที่สงสัยว่าตนจะท้องกับผู้อื่นนั้นตนกับเอ็กซ์ได้พูดคุยกันตลอดว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไร เพราะฉะนั้นหลักฐานเรื่องนี้ก็มีอยู่ว่าตนไม่เคยคบชู้

“ดิฉันอยากขอให้ผู้ชายทุกคนหยุดใช้ความรุนแรง ผู้ชายมีกำลังแต่อย่าทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกเลย เรื่องยาเสพติดด้วย หากพี่เอ็กซ์ไม่ติดยาคงจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ ครอบครัวของดิฉันพังแล้ว ขอให้ครอบครัวของดิฉันเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ส่วนลูกดิฉันจะต้องสอนให้เขาทั้งสองคนรู้จักคำว่ารัก ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ดี ดิฉันก็ต้องชี้ให้เขาทราบว่าสิ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่ในวันนี้ทำฉันเข้าใจแล้วว่าความรักของแม่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ดิฉันทำให้แม่ร้องไห้มาตลอด 6 ปี และยังทำให้แม่ต้องมาทำผิด หากเป็นไปได้จะขอรับผิดและรับโทษแทนแม่ และในวันนี้ดิฉันคงไม่กล้าทำให้แม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว” พญ.นิธิวดีระบุ

เมื่อถามว่าระหว่างที่คุณแม่เรียกคุณแหม่มเข้ามาพูดคุยขณะที่อยู่โรงพยาบาลนั้น ทำไมไม่ทราบเรื่อง พญ.นิธิวดีกล่าวว่า วันนั้นตนไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ เนื่องจากว่าตนได้แท้งลูกและหมอได้ให้ยาสลบไป ทราบเพียงว่ามีคนเข้ามาในห้องแต่ไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน และเรื่องนี้คุณแม่ไม่เคยเล่าอะไรให้ตนฟังเลย แต่พอรู้เรื่องรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากว่าแม่เป็นผู้หญิงตัวเล็กไม่มีพรรคพวกที่จะสามารถทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จ พญ.นิธิวดีได้ก้มลงกราบเท้าแม่ 1 ครั้ง พร้อมกับสวมกอดและร้องไห้

ด้านนางปวีณากล่าวว่า ในวันนี้ทั้งสองคนได้เข้ามามอบตัวกับตำรวจโดยมีการประสานงานเข้ามาที่ตนคิดว่าต้องมีการต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตัวคุณแม่เองก็ยอมรับผิดแล้ว ผิดก็คือผิด ตนในฐานะที่ดูแลครอบครัวนี้มาโดยตลอดไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ เรื่องดังกล่าวจะต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผิดก็ว่ากันไปตามผิดจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะหากทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ซึ่งวันนี้เป็นหน้าที่ขบวนการยุติธรรม หน้าที่ของตำรวจและหน้าที่ของศาล สำหรับลูกทั้ง 2 คนของนายจักรกฤษณ์ ทาง พม.จะให้จิตแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปดูแลความรู้สึก และสร้างความเข้มแข็งให้กับเขาทั้ง ด.ญ.ชมชนก วัย 4 ขวบ และ ด.ช.ปรกรักษา วัย 1 ขวบ

“ไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ที่สำคัญอยากให้สามีภรรยาเข้าใจกัน ทำเพื่อลูก เพราะเด็กมีความหมายอย่างยิ่ง และในอนาคตเขาจะต้องเป็นความหวังของชาติ เขาต้องมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ ตนอยากให้ทุกคนปรับเข้าหากันและดีต่อกันหากไปกันไม่ได้ก็ไม่ควรที่จะแต่งงานและมีลูกกัน เพราะฉะนั้นสามีภรรยาจะต้องมีความเข้าอกเข้าใจกัน เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจะหนีไม่พ้นลูก” รมว.พม.ระบุ

ด้านนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม กล่าวว่า ตนไม่ขอถือโทษโกรธใคร เพราะหากทำไปลูกชายก็ไม่ฟื้นขึ้นมา แต่อยากฝากถึงลูกสะใภ้ว่าขอให้มีชีวิตอยู่ไปนานๆ จะได้ทราบว่านรกมีจริง และฝากไปถึงเอ็กซ์ว่าขอให้หลับให้สบายในวันนี้ตำรวจได้ตัวคนร้ายแล้ว

ต่อมาเวลา 11.50 น. พ.ญ.นิธิวดี และนางสุรางค์ ได้เดินทางมาถึง สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเข้าไปที่ห้องประชุมชั้นล่าง เพื่อรอทีมทนายความ พ.ญ.นิธิวดี มาร่วมทำการสอบสวน โดย พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 สั่งการให้พ.ต.ท.บุญเยี่ยม กันเกตุ พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี หัวหน้าทีมสอบสวน พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวน พร้อมพนักงานสอบสวนหญิง นำหมอนิ่ม และมารดา ออกจากห้องประชุมไปแยกกันสอบปากคำที่ห้องพนักงานสอบสวนที่ชั้นที่ 3 สน.มีนบุรี

ด้านพ.ต.อ.เอก กล่าวว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนเดินทางไปรับมอบตัวพญ.นิธิวดีและนางสุรางค์ มารดาแล้ว พนักงานสอบสวนสน.มีนบุรีจะนำไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งจากคำให้การในเบื้องต้นนางสุรางค์ มารดาหมอนิ่ม ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จ้างวานให้เจ๊แหม่ม จัดหามือปืนมาสังหารลูกเขยจริง เพราะทนเห็นลูกสาวเจ็บช้ำน้ำใจมานาน ส่วนหมอนิ่ม ยังให้การปฏิเสธ

ส่วนเรื่องการยื่นขอประกันตัว ทางนางสุรางค์ เนื่องจากป่วยเป็นโรคหัวใจ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งวงเงินประกันไว้เป็นเงินสดคนละ 5 แสนบาท โดยทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาร่วมกันหลายฝ่ายตามข้อกำหนดว่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหรือไม่ซึ่งจะต้องให้เสร็จสิ้นการสอบปากคำเสียก่อน หากได้รับการประกันตัว ทางตำรวจจะทำหนังสือส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อส่งให้ด่านชายแดนป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ

ส่วนทนายอิสหรือนายสันติ ผู้จัดหามือปืนและคนขับจักรยานยนต์ให้มือปืน ยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามอบตัวแต่ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่กดดันไว้ตามแหล่งกบดานแล้ว หากทนแรงกดดันไม่ไหวคงขอเข้ามอบตัวในไม่ช้า

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.พญ.นิธิวดี ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า เรื่องคดีตอนนี้ยังไม่ขอพูดถึงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจยังบอกไม่ได้ว่าจะรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อรู้ว่าแม่เป็นผู้บงการฆ่ารู้สึกอย่างไร พญ.นิธิวดี กล่าวว่า เข้าใจแม่ ตัวเองก็เป็นแม่คนแล้วเหมือนกัน คนที่รักเราที่สุดในชีวิตคือแม่ ตนเองทำผิดกับแม่มาตลอด จนวันนี้แม่ต้องมาทำผิดเพราะตนเอง เป็นเรื่องที่สะเทือนใจและจะไม่ทำให้แม่ร้องให้อีกแล้วในชีวิต

“ตอนนี้เมื่อลูกยังถามหาพ่ออยู่ ฉันให้เหตุผลกับลูกไปว่า เขาจำได้ว่าเขามีน้องอีกคนอยู่ในท้อง และน้องเสียชีวิตไป เขารู้ว่าน้องอยู่บนสวรรค์ ดิฉันบอกลูกว่าปาป๋า ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องบนสวรรค์น้องอยู่คนเดียวน้องเหงา ให้ปาป๋า ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องนะลูก”หมอนิ่มกล่าวน้ำตาคลอ

พญ.นิธิวดี กล่าวอีกว่า ตนเองเพิ่งรู้ว่าแม่เป็นคนบงการฆ่านายจักรกฤษณ์ เมื่อไม่นาน ตอนงานศพตนเองก็ยังไม่ทราบ ขอไม่พูดเรื่องคดี พูดได้แค่นี้

เมื่อถามว่าหมอนิ่มต้องการสมบัติของนายจักรกฤษณ์ หมอนิ่ม กล่าวว่า ขอบอกอย่างเต็มที่ว่าสมบัติที่หาด้วยกันมา ดิฉันทำกิจการ ทำคลินิก เงินทุกบาททุกสตางค์ได้มาจากดิฉัน พี่เอ็กซ์เป็นนักกีฬายิงปืนเป็นข้าราชการลองคิดเอาว่าทรัพย์สินที่ได้มาใครเป็นคนหา ส่วนของในเซฟก็บอกแล้วว่าเอาแต่ทรัพย์สินส่วนตัวมา เป็นสร้อย แหวน พระ เล็กๆ น้อยๆ ไม่ถึง 60 ล้านหรอกพี่เอ็กซ์เป็นคนพูดเองทั้งนั้นว่าของราคาเท่าไหร่ ใครก็พูดได้ เงินสดก็ไม่มีในเซฟ

มีกระแสพญ.นิธิวดี ปันใจให้คนอื่นจนทำให้นายจักรกฤษณ์หึงหวง พญ.นิธิวดี กล่าวว่า พี่เอ็กซ์มีภาวะอย่างหนึ่งคือหวาดระแวงตลอด ดิฉันไม่เคยมีคนอื่นสักครั้ง

ต่อมาเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 กล่าวว่า พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี ได้เซ็นอนุมัติให้นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของพญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม และน.ส.วรพรรณภูรี หรือ แหม่ม มนตรีอารีกุล ผู้รับงานจัดหามือปืน ทั้ง 3 คนได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยนางสุรางค์ ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท น.ส.วรพรรณภูรี เป็นเงินสด 5 แสนบาท ส่วนพญ.นิธิวดี ใช้โฉนดที่ดินจำนวน 1 แปลง ย่านมีนบุรี ซึ่งตีประมาณราคาประมาณ 1 ล้านบาท โดยเหตุผลเจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์เห็นสมควรอนุมัติให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีเจตนาหลบหนี และเข้ามอบตัวเอง ซึ่งจากการสอบประวัติไม่เคยทำความผิด หรือเป็นผู้มีอิทธิพลใดๆ ขณะเดียวกันถ้าหากจะเดินทางออกนอกประเทศด้วยเหตุผลต่างๆ ต้องทำเรื่องขออนุญาต จากพนักงานสอบสวนสน.มีนบุรี พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องอายัดไว้ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น