ตำรวจให้ประกันตัว “แม่-หมอนิ่ม-แหม่ม” ในชั้นสอบสวน ในวงเงินประกันตัวคนละ 5 แสนบาท โดยหมอนิ่มยื่นหลักทรัพย์เป็นที่ดินประเมินราคาประมาณ 1 ล้านบาท เบื้องต้นแม่รับสารภาพบงการฆ่า “เอ็กซ์” ส่วน “หมอนิ่ม” ปฏิเสธ ยืนยันไม่เคยปันใจให้ชายอื่น และยืนยันไม่เคยคิดฮุบสมบัติ เพราะตนเองเป็นคนหารายได้หลักในทรัพย์สินที่หามาร่วมกัน เผย “เอ็กซ์” นิยมความรุนแรงจนแม่เอือมทนเห็นตนเองรับสภาพไม่ได้
เมื่อเวลา 11.50 น.วันนี้ (11 พ.ย.) พญ.นิธิวดี และ นางสุรางค์ เดินทางมาถึง สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่นำเข้าไปที่ห้องประชุมชั้นล่าง เพื่อรอทีมทนายความ พญ.นิธิวดี มาร่วมทำการสอบสวน โดย พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.บุญเยี่ยม กันเกตุ พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี หัวหน้าทีมสอบสวน พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวน พร้อมพนักงานสอบสวนหญิง นำหมอนิ่ม และมารดา ออกจากห้องประชุมไปแยกกันสอบปากคำที่ห้องพนักงานสอบสวนที่ชั้นที่ 3 สน.มีนบุรี
ด้าน พ.ต.อ.เอก กล่าวว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนเดินทางไปรับมอบตัว พญ.นิธิวดี และ นางสุรางค์ มารดาแล้ว พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี จะนำไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ซึ่งจากคำให้การในเบื้องต้น นางสุรางค์ มารดาหมอนิ่ม ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จ้างวานให้เจ๊แหม่ม จัดหามือปืนมาสังหารลูกเขยจริง เพราะทนเห็นลูกสาวเจ็บช้ำน้ำใจมานาน ส่วนหมอนิ่ม ยังให้การปฏิเสธ ชึ่งการให้การครั้งนี้ทางผู้ต้องหายังไม่ได้ให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนซึ่งจะต้องสอบปากคำลงในสำนวนการสอบสวน
ส่วนเรื่องการยื่นขอประกันตัว ทาง นางสุรางค์ เนื่องจากป่วยเป็นโรคหัวใจ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งวงเงินประกันไว้เป็นเงินสดคนละ 5 แสนบาท โดยทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาร่วมกันหลายฝ่ายตามข้อกำหนดว่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้เสร็จสิ้นการสอบปากคำเสียก่อน หากได้รับการประกันตัว ทางตำรวจจะทำหนังสือส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อส่งให้ด่านชายแดนป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ
ส่วนทนายอีส หรือ นายสันติ ผู้จัดหามือปืนและคนขับจักรยานยนต์ให้มือปืน ยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามอบตัวแต่ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่กดดันไว้ตามแหล่งกบดานแล้ว หากทนแรงกดดันไม่ไหวคงขอเข้ามอบตัว ในส่วนของสำนวนการสอบสวนตอนนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้ว ให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี รวบรวมสำนวนและพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว ส่วนข้อถามที่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของกลุ่มผู้จ้างวานและผู้ต้องหา ขณะนี้กำลังตรวจสอบหากพาดพิงถึงใครคงต้องแจ้งข้อกล่าวหาไปตามพยานหลักฐาน
ส่วนทางด้าน น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกุล หรือ เจ๊แหม่ม ผู้รับงานมาจากผู้จ้างวาน และติดต่อทนายอีสให้จัดหามือปืน ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุม สน.มีนบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่หมอนิ่มและมารดา เดินทางมาถึง สน.มีนบุรี พนักงานสอบสวนสน.มีนบุรีได้เบิกตัวเจ๊แหม่ม ไปสอบปากคำเพิ่มเติมแยกกันทั้ง 3 คน ก่อนที่จะนำตัวไปขออำนาจศาล จ.มีนบุรี ฝากขัง
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.พญ.นิธิวดี ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า เรื่องคดีตอนนี้ยังไม่ขอพูดถึงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจยังบอกไม่ได้ว่าจะรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา เรื่องการประกันตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีการแจ้งมาให้ทราบ ต้องรอการพิจารณาของตำรวจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อรู้ว่าแม่เป็นผู้บงการฆ่ารู้สึกอย่างไร พญ.นิธิวดี กล่าวว่า เข้าใจแม่ ตัวเองก็เป็นแม่คนแล้วเหมือนกัน คนที่รักเราที่สุดในชีวิตคือแม่ ตนเองทำผิดกับแม่มาตลอด จนวันนี้แม่ต้องมาทำผิดเพราะตนเอง เป็นเรื่องที่สะเทือนใจและจะไม่ทำให้แม่ร้องให้อีกแล้วในชีวิต
ถามว่าจะตอบลูกอย่างไรที่ต้องสูญเสียพ่อไปด้วยฝีมือยายของตนเอง หมอนิ่ม กล่าวว่า ทุกคนมีเหตุผล ลูกดิฉันเลี้ยงมาให้โตด้วยความรัก ปัจจุบันตนเองยังสอนว่าพ่อเป็นคนดี แต่ตัวลูกเองก็รู้ว่าพ่อมีข้อเสียอะไร ลูกคนโตรู้ไม่ใช่ไม่รู้ ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่ที่เราสอนเขาว่าจะให้มองสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลกัน
เมื่อถามว่าในบั้นปลายชีวิตของแม่หากต้องไปอยู่ในคุก จะรู้สึกอย่างไร หมอนิ่มกล่าวว่า หมอเองคงไม่รู้สึกสบายใจ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ดุลพินิจของความยุติธรรมที่คุณแม่จะได้คืออะไร เราจะรู้คำตอบอีกไม่นาน
ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่แม่ต้องตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะความรุนแรงที่คุณเอ็กซ์ได้ทำต่อหมอ พญ.นิธิวดี กล่าวว่า พี่เอ็กซ์ใช้ความรุนแรงมาโดยตลอดและมากขึ้นเรื่อยๆ แม่ทนไม่ได้ แม่เจ็บกว่าเรามาก แม่เห็นอยู่เป็นประจำ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อท้องคนที่ 3 พี่เอ็กซ์ก็ทราบว่าดิฉันท้องอยู่ แต่ก็ยังทำร้าย คนเป็นแม่จะรู้สึกอย่างไร ดิฉันแท้งลูกแม่ดิฉันเจ็บกว่าดิฉันมาก โดยพี่เอ็กซ์ได้ใช้การชกที่ท้องหลายครั้งตอนที่ท้องเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แท้งร่วมกับสาเหตุอื่นๆ มาประกอบ
“ตอนนี้เมื่อลูกยังถามหาพ่ออยู่ ฉันให้เหตุผลกับลูกไปว่า เขาจำได้ว่าเขามีน้องอีกคนอยู่ในท้อง และน้องเสียชีวิตไป เขารู้ว่าน้องอยู่บนสวรรค์ ดิฉันบอกลูกว่าปาป๋า ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องบนสวรรค์น้องอยู่คนเดียวน้องเหงา ให้ปาป๋า ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องนะลูก” หมอนิ่มกล่าวน้ำตาคลอ
พญ.นิธิวดี กล่าวอีกว่า ตนเองเพิ่งรู้ว่าแม่เป็นคนบงการฆ่านายจักรกฤษณ์ เมื่อไม่นาน ตอนงานศพตนเองก็ยังไม่ทราบ ขอไม่พูดเรื่องคดี พูดได้แค่นี้ และไม่เป็นความจริงที่หลังงานศพไม่ได้พบครอบครัวนายจักรกฤษณ์ พ่อพี่เอ็กซ์มาหาที่บ้าน 3-4 ครั้ง มาเล่นกับหลาน ไม่เป็นความจริง ดิฉันไม่เคยกีดกั้นไม่ให้ใครมา แต่ตามปกติแล้ว น้องชมเองไม่เคยไปบ้านก๊งกับม่าเลยตั้งแต่ตอนเด็กๆ เคยไปครั้งเดียว รวมทั้งบ้านแม่ของดิฉันด้วย ไม่แปลกที่ดิฉันไม่ได้พาลูกไปหาปู่กับย่า แต่โดยปกติปู่กับย่ามาหาตลอดขอชี้แจงด้วยความเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่พ่อของนายจักรกฤษณ์บอกว่าตั้งแต่เสร็จงานศพหมอนิ่มไม่เคยโทร.ไปคุยเลย หมอนิ่ม กล่าวว่า ไม่นะคะ ดิฉันโทร.ในขณะที่พ่อต่างหากที่ไม่เคยโทร.มาถามดิฉันเลยว่ารู้สึกอย่างไร และไม่เคยถามถึงหลานเลยสักครั้งบอกว่ารักหลาน แต่ไม่เคยซื้อขนมให้สักอย่าง ของเล่นก็ไม่เคยซื้อให้สักชิ้น ถ้าเป็นคนปกติเขารักและห่วงหลานมันต้องมีบ้างแต่นี้ไม่เคยเลย
เมื่อถามว่าหมอนิ่มต้องการสมบัติของนายจักรกฤษณ์ หมอนิ่ม กล่าวว่า ขอบอกอย่างเต็มที่ว่าสมบัติที่หาด้วยกันมา ดิฉันทำกิจการ ทำคลินิก เงินทุกบาททุกสตางค์ได้มาจากดิฉัน พี่เอ็กซ์เป็นนักกีฬายิงปืนเป็นข้าราชการลองคิดเอาว่าทรัพย์สินที่ได้มาใครเป็นคนหา ส่วนของในเซฟก็บอกแล้วว่าเอาแต่ทรัพย์สินส่วนตัวมา เป็นสร้อย แหวน พระ เล็กๆ น้อยๆ ไม่ถึง 60 ล้านหรอก พี่เอ็กซ์เป็นคนพูดเองทั้งนั้นว่าของราคาเท่าไหร่ ใครก็พูดได้ เงินสดก็ไม่มีในเซฟ
มีกระแส พญ.นิธิวดี ปันใจให้คนอื่นจนทำให้นายจักรกฤษณ์หึงหวง พญ.นิธิวดี กล่าวว่า พี่เอ็กซ์มีภาวะอย่างหนึ่งคือหวาดระแวงตลอด ดิฉันไม่เคยมีคนอื่นสักครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าหมอนิ่มและคุณแม่ต้องไปอยู่เรือนจำแล้วลูกๆ จะอยู่อย่างไร หมอนิ่ม กล่าวว่า ประเด็นนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องของคดีความ ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรทั้งนั้น ให้ถึงเวลาก่อนและเรื่องนี้จะได้ตอบกันอีกที
ความรุนแรงที่ผ่านมาที่คุณเอ็กซ์ใช้กับหมอนิ่มเป็นอย่างไรบ้าง หมอนิ่ม กล่าวว่า รายละเอียดตั้งแต่คดีเก่า แม่ของพี่เอ็กซ์เองก็เป็นคนออกมากับดิฉันเพื่อจะมาแจ้งความจับพี่เอ็กซ์เอง เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีมูลความจริงแม่ของพี่เอ็กซ์เองคงไม่ทำเช่นนั้น หลักฐานรูปก็ยังมีอยู่
“ถึงตอนนี้ตนเองยืนยันว่าเข้าใจในการกระทำของคุณแม่ และเสียใจถ้ารู้ก็คงไม่ให้ทำ เพราะกลัวว่าคุณแม่จะได้รับโทษ “หมอนิ่มกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้มีการพูดคุยเรื่องการงเลิกรากันหรือไม่ หมอนิ่ม กล่าวว่า ไม่เคยคุยกัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการไกล่เกลี่ยเพราะพี่เอ็กซ์เป็นคนไม่เกรงใจใคร ไม่มีใครกล้าพูด ถ้าพูดไปดิฉันอาจโดนหนักกว่าที่โดนอยู่แล้ว ไม่มีใครกล้าพูดเลยสักคน แม่เห็นพี่เอ็กซ์ทำเราอยู่ทุกครั้งเรื่องที่สะเทือนใจคุณแม่มากที่สุดคือเรื่องที่แท้งลูก และที่สำคัญคือสื่อทุกที่บอกว่าพี่เอ็กซ์รักลูก แต่ความเป็นจริงลูกแค่ทำตัวไม่ถูกใจพี่เอ็กซ์ ไม้ขนาดนิ้วก้อยพี่เอ็กซ์ตีซะไม้หักทั้งที่ลูกเพิ่ง 3 ขวบถ้าคนที่รักลูกจริงๆ จะทำแบบนี้ไหม หรือคนที่มีภาวะจิตใจปกติจะทำแบบนี้ไหมแต่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วเรื่องร้ายๆของพี่เขาก็อย่าพูดถึงเลยพี่เขาก็ตายไปแล้ว
ต่อมาเวลา 18.30 น. พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รองผบก.น.3 กล่าวว่า พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี ได้เซ็นอนุมัติอนุญาตให้นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของพญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม และ น.ส.วรพรรณภูรี หรือ แหม่ม มนตรีอารีกุล ผู้รับงานจัดหามือปืน ทั้ง 3 คนได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยนางสุรางค์ ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท น.ส.วรพรรณภูรี เป็นเงินสด 5 แสนบาท ส่วน พญ.นิธิวดี ใช้โฉนดที่ดินจำนวน 1 แปลง ย่านมีนบุรี ซึ่งตีประมาณราคาประมาณ 1 ล้านบาท โดยเหตุผลเจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์เห็นสมควรอนุมัติให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีเจตนาหลบหนี และเข้ามอบตัวเอง ซึ่งจากการสอบประวัติไม่เคยทำความผิด หรือเป็นผู้มีอิทธิพลใดๆ ขณะเดียวกันถ้าหากจะเดินทางออกนอกประเทศด้วยเหตุผลต่างๆ ต้องทำเรื่องขออนุญาตจากพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องอายัดไว้ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว