xs
xsm
sm
md
lg

"ตู่"กล่อมลายจุดสู้กลับ ปชป.ดาวกระจายนำคนรวมพลใหญ่ราชดำเนิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"เสื้อแดง" ประกาศรวมพล กล่อม"แดงลายจุด" ร่วมสู้ ขณะที่ประชาธิปัตย์ดาวกระจายจากทุกมุมเมือง เคลื่อนสู่ราชดำเนินรวมพลัง วอนข้าราชการ พนักงานบริษัทและประชาชน ร่วมตั้งศาลประชาชนพิพากษา "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" หากยังเฉย จะนัดหยุดงาน หยุดการเรียนการสอน หยุดเสียภาษี ผู้ว่าฯ กทม.ประชุมด่วนรับสถานการณ์ โรงเรียนรอบพื้นที่เสี่ยงประกาศหยุดเรียน

เวลา 12.00 น. วานนี้ (10 พ.ย.) ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ประชาชนกลุ่มเสื้อแดงหลายพันคน นำโดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ได้จัดกิจกรรม “หมื่นอัพ” @ ราชประสงค์ เพื่อต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรคเพื่อไทย ที่มีเนื้อหานิรโทษกรรม ครอบคุลมแกนนำผู้สั่งการในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 จนนำไปสู่การเสียชีวิตของประชาชน 98 ศพ บาดเจ็บกว่า 2 พันคน

ทั้งนี้ คนเสื้อแดง ได้ไปรวมตัวบริเวณหน้าร้านแม็คโดนัลด์ ห้างอัมรินทร์พลาซ่า ก่อนที่นายสมบัติ จะเดินขบวนนำไปยังสี่แยกราชประสงค์ เพื่อผูกผ้าสีแดงที่แผ่นป้ายแยกราชประสงค์ พร้อมร้องตะโกนว่า“ที่นี่มีคนตาย”เเละ “ไม่นิรโทษฆาตกร”

นายสมบัติ ได้อ่านบทกวีกลางสีแยกราชประสงค์ พร้อมกับอ่านแถลงการณ์คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ว่า คนเสื้อเเดงไม่เอานิรโทษกรรมฆาตกร การมาครั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนว่า คนเสื้อแดงเป็นเสรีชน ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความถูกต้อง คนเสื้อแดงเลือกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนเสื้อแดงคือมหามิตร แต่คนเสื้อแดงพร้อมจะตรวจสอบรัฐบาลที่เราเลือกตั้งมากับมือด้วย เเละเราไม่มีทางลืมฆาตกร ที่สังหารประชาชนบนทุ่งสังหารแห่งนี้

“ผมขอฝากไปถึงไทยเฉย ที่ออกมาเป่านกหวีดบนถนนราชดำเนิน ผมเคารพในสิทธิของการชุมนุมของคนกลุ่มนี้ เเต่ในเมื่อคนเสื้อแดงออกมาคัดค้านการนิรโทษแบบเหมาเข่ง ไทยเฉย ควรดูด้วยว่าคนที่นำบนเวทีราชดำเนิน เขาเหล่านั้นเป็นพระเอก หรือฆาตกร อย่าปล่อยให้เสียงนกหวีดกลบความจริงไปทั้งหมด เพราะเขาเหล่านั้นสวมหน้ากากคุณธรรม แต่เราต้องไม่ลืมว่า ใครประกาศใช้เขตกระสุนจริง เเละใครฆ่าประชาชนในเขตอภัยทาน”นายสมบัติ กล่าว

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มี 2 รัฐบาล ที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน คือ 1. รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง จนนำมาสู่วิกฤตการณ์ในปัจจุบัน และ 2. รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในอดีตที่ฆ่าประชาชนเเล้วไม่ยอมรับผิด ผ่านมา 3 ปีแล้ว ยังไม่เคยขอโทษ แล้วยังมีหน้ามาเรียกร้องจริยธรรมทางการเมือง

ดังนั้นทั้ง 2 รัฐบาล ต้องออกมาขอโทษประชาชน นี่คือมาตรฐานทางจริยธรรมทางการเมืองใหม่ ที่ประชาชนต้องเป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้นักการเมือง

** นปช.ยกทีมกล่อมแดงลายจุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรมครั้งนี้มีแกนนำพรรคเพื่อไทย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้าร่วม อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นางขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายยศวฤทธิ์ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก พร้อมด้วยนักวิชการ นักเคลื่อนไหว และกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เข้าร่วมกิจกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. ได้กล่าวต่อประชาชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุม ว่า ยืนยันว่า จะต้องนำฆาตกรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะนี้มีสถานการณ์ที่กำลังนำรัฐบาลเข้าสู่หลักประหาร คนเสื้อแดงต้องแข็งแกร่ง เเละต้องช่วยกันนำพารัฐบาลนี้ข้ามไปให้ได้ เพื่อนำไปสู่วันที่ 12 ธ.ค. ที่อัยการจะส่งตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นศาลอาญา ในฐานะจำเลยคดีฆ่าคนตาย ตอนนี้ไม่รู้ว่า 2 คนนี้ จะโดนจำคุก หรือโดนประหารหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ต้องขึ้นศาลในฐานะจำเลยแน่นอน

“3 ปี ที่ผ่านมา ไม่มีคำว่าขอโทษ เสียใจ สำนึกผิดจากคนพวกนี้ แล้วมาอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตย ทั้งที่จริงแล้วพวกคุณเป็นนักฆ่านักประชาธิปไตย ถ้าวันนี้คุณไปที่ราชดำเนิน ก็ช่วยไปที่สามเหลี่ยมดินแดง บ่อนไก่ และวัดปทุมวนาราม ที่มีประชาชนเสียชีวิตด้วย วันนี้เราขอยืนยันจะไม่ยอมทรยศประชาชน ความตายของพวกเราคนเสื้อแดง ต้องแลกกับความยุติธรรม จะต้องลากตัวฆาตกรมาดำเนินคดีให้ได้ " นายจตุพร กล่าว

**เสื้อแดงรวมพลสู้ที่เมืองทองธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ลานอเนกประสงค์หลังสนามฟุตบอลเอสซีจี เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงเย็นวานนี้ (10พ.ย.) ซึ่งพรรคเพื่อไทยและกลุ่มนปช. ร่วมกันจัดเวที “นปช. -เพื่อคนไทย ปกป้องประชาธิปไตย”โดยมีแกนนำนปช. และส.ส.คนเสื้อแดงของพรรคเพื่อไทย เดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างคึกคัก อาทิ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายยศวริศ ชูกลิ่น หรือเจ๋ง ดอกจิก นพ.เหวง โตจิราการ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายวรชัย เหมะ นายสุนัย จุลพงศธร น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายพายัพ ปั้นเกตุ เป็นต้น

ขณะที่คนเสื้อแดงก็ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมอยู่เป็นระยะๆ นอกจากนี้ บริเวณรอบเวทียังมีคนเสื้อแดงมาเปิดร้านขายของที่ระลึกและอาหารเป็นจำนวนมาก

นพ.เหวง ให้สัมภาษณ์ว่าการชุมนุมวันนี้ มีคนเสื้อแดงกทม. ปริมณฑล และในภาคกลาง เดินทางมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก อาทิ จ.นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา ลพบุรี สระบุรี และสมุทรปราการ ทั้งนี้ แกนนำนปช. และพรรคเพื่อไทยได้ประสานความร่วมมือกัน เดินสายจัดเวทีเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนและต่อต้านการล้มประชาธิปไตย ล้มล้างรัฐบาล สำหรับกรณีที่กลุ่มต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกมาชุมนุมคัดค้านทั้งๆ ที่รัฐบาลแสดงความชัดเจนแล้วว่า จะยุติกฎหมายดังกล่าว รวมทั้งยังมีการปลุกระดมประชาชนให้ชุมนุมรอการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.ด้วยนั้น แสดงให้เห็นว่าจุดประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ต้องการต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ต้องการล้มรัฐบาลที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้รับรายงานว่า ในวันนี้ จะมีการรวมตัวของผู้ต่อด้าน ด้วยยุทธวิธี ถนน 3 สาย คือ ถนนสีลม ถนนพหลโยธิน ถนนอโศก เพื่อรวมตัวคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อีกทั้งยังมีการพามวลชนมาสมทบจากภาคใต้ด้วย จังหวัดละ 500-1,000 คน โดยจะไปรวมที่เวทีราชดำเนิน มองได้ว่าจะสอดคล้องกับการที่ศาลโลก มีคำพิพากษาคดีเขาพระวิหาร ซึ่งจะกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ จึงขอเรียกร้องไปยังประชาชน อย่าหลงเชื่อ การปลุกระดม ของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ และยอมรับว่า เป็นห่วงมือที่ 3 ที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ และเชื่อว่ามีอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงเพื่อหวังพลิกผลทางการเมือง ให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ความว่า ตนได้ข้อมูลจากแหล่งข่าว ระบุว่า ปชป.จะระดมพลจากต่างจังหวัด มาสมทบกับเวทีราชดำเนินในวันที่ 11 พ.ย. ต้องการให้มากที่สุด เพื่อเปิดศาลประชาชน พิพากษารัฐบาล ซึ่งร้อยทั้งร้อยในบรรยากาศการชุมนุม ผู้คนจะตะโกนว่ารัฐบาลต้องออกไป เหมือนกับการอ้างว่า ขอความเห็นชอบเรื่องต่างๆ จากหน้าเวที ซึ่งผู้ชุมนุมจะแสดงออกตามที่แกนนำต้องการ

เมื่อศาลประชาชนพิพากษาแล้ว ก็วางแผนจะเดินขบวนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันรุ่งขึ้น อ้างว่าไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่การคาดการณ์แต่เป็นข่าวที่มาจากวงใน รวมถึงการเตรียมขยายผลเชิงลบ หากการตัดสินคดีของศาลโลกเป็นผลเสียกับประเทศไทย

ความเคลื่อนไหวแบบนี้ สุ่มเสี่ยงว่าอำนาจนอกระบบจะฉวยโอกาสทำลายประชาธิปไตยอีกครั้ง อาจมาในรูปรัฐประหาร หรือแบบอื่นๆ เพราะเชื่อว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นกระแสสูง

ดูเหมือนทฤษฎีสมคบคิดที่ตื้นเขิน แต่ขึ้นชื่อว่าเผด็จการย่อมไม่มีอะไรซับซ้อนเกินกว่าจะสัมผัสได้ สังเกตุไหมว่า เวทีปชป.ตอบโต้ทุกประเด็นของรัฐบาล แต่เรื่องที่ผมบอกว่าปลายสัปดาห์ก่อน นายสุเทพ นัดพบกับผู้มีบารมีคนหนึ่งที่ แปซิฟิก คลับ แถวสุขุมวิท แล้วพูดคุยกันเรื่องสถานการณ์ชุมนุมในลักษณะร่วมขบวนการ กลับไม่มีเสียงตอบโต้ใดๆ บนเวทีก็มีการเชิญชวนให้ทหารออกมาเป็นระยะ

เพื่อให้ชัดเจนว่า นี่คือการนำพาประเทศไปตามแนวทางประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้ ปชป. แสดงจุดยืนต่อไปนี้ 

1 .ประกาศไม่ยอมรับการรัฐประหาร และจะออกมาต่อต้านทันทีหากเกิดขึ้น

2 .แสดงจุดยืนไม่ยอมรับอำนาจรัฐจากกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

3 .ถอดชนวนความตึงเครียดในสังคม โดยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แล้วยุติเวทีชุมนุม เอาทุกเรื่องที่พูดกันบนเวที ไปว่ากันในสภาฯให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน อย่าอ้างว่าแพ้เสียงข้างมาก เพราะหากรัฐบาลขาดความชอบธรรมจริง ก็ฝืนความจริงที่ปรากฏต่อประชาชนไม่ได้ เหมือนกรณี สปก. 4-01 ที่รัฐบาลปชป.จนมุมในสภาจนต้องคืนอำนาจให้ประชาชนมาแล้ว

ผมคาดหวังว่า การล้มล้างประชาธิปไตยจะไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อมองไปในอนาคต กลับเห็นภาพอดีต 7 ปีที่ผ่านมาผุดขึ้นเป็นระยะ

ผมเชื่อมั่นว่า เราปฏิเสธมันได้ ถ้าเราช่วยกันผลักดันประเทศไทยให้เดินไปข้างหน้า ด้วยการรักษาหลักการประชาธิปไตย

เงื่อนไขเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยุติลงแล้วไม่มีทางที่รัฐบาลจะหยิบยกมาพิจารณาอีกต่อไป ผมยอมรับว่า ประชาชนมีสิทธิ์ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล แต่ถ้าสมยอมกับเผด็จการทั่วโลกก็จะไม่เชื่อมั่นประเทศไทย เวทีสภาคือคำตอบ ยกเว้นปชป.จะปฏิเสธระบบรัฐสภาไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว 

** "โอ๊ค"โพสต์อัด ปชป.เล่นนอกกติกา

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้โพสต์เฟซบุกส่วนตัว ว่า ขอประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ไหมครับ พรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่า ในการแข่งขันกีฬา เมื่อมีการฟาวล์เกิดขึ้น กรรมการจะเป่านกหวีด เกมจะต้องหยุด เพื่อให้กรรมการชี้ว่า ผิดกติกาอย่างไร จำเป็นต้องให้ใบเหลือง-ใบแดง กับผู้เล่นคนไหน และเมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว กรรมการก็จะปล่อยให้การแข่งขันดำเนินต่อไป

แต่การเมืองไทย ในแบบฉบับของพรรคฯเก่าแก่ ที่สืบทอดกันมาหลายสิบปี อย่าหวังว่าจะมีคำว่า "น้ำใจนักกีฬา" ครับ "ส้มหล่นใส่ตีน ลูกหล่นใส่เท้า" เป่านกหวีดปรี๊ดด..!! เตะฟรีคิกเข้าประตูทำคะแนนตีตื้นได้ ก็น่าจะพอใจกลับไปเขี่ยลูกเล่นใหม่ ตามกติกาประชาธิปไตย ที่เป่าหูสลิ่มอยู่เสมอว่า "เราเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา"ได้แล้ว

แต่ปรากฎว่าพรรคฯเก่าแก่ ยังไม่พอใจครับ เพราะก่อนหน้าทำเสียประตู ตามหลังอยู่เยอะ ยอมให้จบเกมแยกย้ายกันกลับบ้าน ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลอยู่ดี ในอดีตที่ผ่านมาก็เห็นชัดเจนแล้วว่า "ประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาลได้ บ้านเมืองต้องวุ่นวายก่อน"

ดังนั้นเมื่อรัฐบาลถอย พ.ร.บ.นิรโทษฯแล้ว จึงจำต้องหาเรื่องต่อ พาลจะเตะหน้าแข้งเขาพระวิหาร, เตะก้านคอ 2ล้านล้าน, เตะยอดอกแก้ปัญหาน้ำ เป่านกหวีดกันต่อ บ้านเมืองต้องวุ่นวายจนถึงที่สุด จนกว่ารัฐบาลของพรรคฯ ฝ่ายตรงข้ามจะบอบช้ำ จนไม่สามารถกลับมาสู่เกมส์การเมืองได้...

...สไตล์ประชาธิปัตย์ เป่านกหวีดกันมากี่ครั้ง ลองทบทวนกันดูครับ เป่าแล้วประเทศชาติได้อะไร มีอะไรที่สำรอกกระเด็นออกมา นอกจากเสียงนกหวีดปรี๊ดๆ กันบ้าง บรรทัดสุดท้ายอยู่ที่การใส่พานอัญเชิญรถถังออกมาแอ่นแอ๊น อีกหรือเปล่า ทบทวนข้อดีข้อเสียกันดู หากเห็นว่าเป่าแล้วยังคงคอนเซ็ปเดิมในสไตล์ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น"แล้วละก็ การเป่านกหวีดในครั้งนี้ ผู้ที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ คือพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนผู้ที่บอบช้ำเสียหาย คงไม่พ้นประเทศไทยของเราครับ
โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง.....

"ขอประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ไหมครับ พรรคประชาธิปัตย์"

**“ประชา”สวน“เทือก”ปูดข่าวสไนเปอร์

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุบนเวทีปราศรัย ว่า มีการวางแผนใช้มือสไนเปอร์สังหารตัวเองว่า ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในเรื่องการดูแลผู้ชุมนุมจะไม่มีใครใช้ความรุนแรง ไม่ใช้อาวุธจริงโดยเด็ดขาด ไม่เหมือนกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ที่ใช้อาวุธจริงจนมีคนเสียชีวิต 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน แต่รัฐบาลนี้ได้ยึดหลักความเป็นประชาธิปไตย ยอมรับในเรื่องการชุมนุมของพี่น้องประชาชนที่ทำได้ตามกฎหมาย แต่ต้องเป็นไปโดยความสงบ ปราศจากอาวุธ

ดังนั้น การที่นายสุเทพ ออกมาพูดแบบนี้ คงจะติดอยู่กับภาพเดิมๆ จึงอยากให้สลัดทิ้งไปเสีย ไม่มีใครเขาทำกันหรอก และเป็นการสร้างราคาให้กับตนเองมากเกินไปหรือไม่ ตนขอยืนยันว่า รัฐบาลนี้ยืนหยัดจะใช้การดำเนินการต่อผู้ชุมนุมโดยหลักสากล

ส่วนกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปแฝงตัวในม็อบ เพื่อเป็นมือที่สามนั้น ยืนยันว่าไม่มี เป็นเพียงการหาข่าว ดูความเรียบร้อย และระมัดระวังไม่ให้มีมือที่สามเท่านั้น

พล.ต.อ.ประชา กล่าวด้วยว่า มาตรการรักษาความปลอดภัย ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อย ยังไม่มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร โดยได้มีการเตรียมแผนไว้เรียบร้อย ปริมาณผู้ชุมนุมมีความเป็นไปได้ว่า จะมากกว่าวันอื่นๆ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะมีการดูแลเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ยืนยันว่าพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ยังสามารถดูแลการชุมนุมได้ ยังไม่ถึงต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ส่วนที่มีการติดป้ายเขตใช้แก๊สน้ำตา สืบเนื่องจากเป็นเขตพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หากมีการรุกล้ำเข้ามา ถือว่าผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่สามารถจะใช้หลักการในการดูแลรักษาพื้นที่ตามหลักสากล หรือใช้แก๊สน้ำตาได้ จึงประกาศเตือนไว้ ไม่ใช่การยั่วยุ

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกับ ผบ.ทบ. บ้างหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันบ้างเป็นปกติ ส่วนเรื่องปฏิวัตินั้น ตนคงตอบไม่ได้ แต่ผบ.ทบ. ก็พูดมาตลอดว่า ไม่มี

**ปชป.ชวน พนง.บริษัท-ขรก.ลางานร่วมสู้

ส่วนการชุมนุมคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง ของพรรคประชาธฺปัตย์ ได้มีการขยายพื้นที่ชุมนุมด้านหลังเวทีหลักตามถนนราชดำเนินกลาง จนถึงแยกคอกวัว โดยเริ่มมีการติดตั้งจอภาพดิจิตอลขนาดใหญ่เพิ่มเติม 2 จอ เพื่อรองรับผู้ชุมนุมที่จะมาเพิ่ม ซึ่งสอดคล้องกับการโพสต์ภาพบนเฟสบุ๊ก ส่วนตัวของ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข้อความเชิญชวนให้คนเข้าร่วมการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อาทิ ประชาคมสีลม ที่มีการนัดรวมตัวก่อนจะเดินขบวนมาร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน เช่น เดียวกับประชาคมอโศก ประชาคมรัชดา และประชาคมสะพานควาย ที่มีการนัดหมายรวมตัว และเคลื่อนขบวนร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนินเช่นกัน

ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีปราศรัย เชิญชวนให้ข้าราชการ พนักงานบริษัท ลางานครึ่งวันในวันนี้ (11พ.ย.) เพื่อมาร่วมชุมนุม

"เราต้องออกมาชุมนุมกันให้มาก เพราะถ้าไม่มากรัฐบาลก็จะไม่รับฟัง คนที่ทำงานบริษัท ข้าราชการ ก็ไปทำงานตามปรกติ แต่ให้ลางานครึ่งวันเพื่อมาร่วมชุมนุม ส่วนคนที่ติดตามสถานการณ์การชุมนุมผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ ถึงเวลาที่จะต้องเลิกดู และออกมาร่วมชุมนุมได้แล้ว เพราะการชุมนุมครั้งนี้ คนหนึ่งคนก็ถือว่ามีความสำคัญ ดังนั้นเราต้องออกมาร่วมกันชุมนุมให้มากที่สุด เพราะการที่จะขัดขวางความชั่วร้ายของรัฐบาลนี้ได้อยู่ที่ประชาชนเท่านั้น" นายองอาจ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการสั่งการไปยังข้าราชการทั่วประเทศ ให้จัดมวลชนมาร่วมสนับสนุนกับคนเสื้อแดง เช่น มีคำสั่งไปยังขนส่งจังหวัดโดยวาจา ให้จัดเตรียมรถบัส หรือรถตู้ให้ขนคนเขฃ้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง โดยให้ขนส่งจังหวัดเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่กระทรวงมหาดไทย ก็มีการสั่งการให้กรมการปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ข้าราชการออกไปให้ข้อมูลที่ทำให้ประชาชนสับสนเข้าใจผิดว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นเรื่องดี แต่คนในกทม.ที่ออกมาคัดค้าน ไม่รู้เรื่อง เป็นแค่แฟชั่น เดี๋ยวก็เลิกลากันไปเอง ซึ่งเมื่อไม่มีผู้ชุมนุมแล้วกฏหมายดีๆ อย่างนี้ก็จะกลับเข้าสู่สภาอีก รัฐบาลใช้ทุกวิถีทาง พร้อมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเวทีการปราศรัยสนับสนุนเรื่องนี้ด้วย

" ทั้งนี้ ส่วนตัวมั่นใจว่า ในวันที่ 11 พ.ย. จะมีประชาชนผู้รู้ตื่น จะออกมาชุมนุมโดยสงบตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญมากถึง 3แสนคน คนจะเนืองแน่นบนถนนราชดำเนินตามที่มีคนพูดกันว่า จากสามเสนเป็นสามแสน กำลังจะเกิดขึ้นจริง เพราะคนไทยไม่เชื่อมั่นคำพูดใดๆของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกต่อไปแล้ว" นายองอาจ กล่าว

**งัดมาตรการ หยุดงาน หยุดเรียน หยุดเสียภาษี

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร แกนนำกลุ่มไทยสปริง กล่าวปราศรัยบนเวทีคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถนนราชดำเนิน ตอนหนึ่งว่า การที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระดมคนเสื้อแดงเข้ามาชุมนุมในพื้นที่ กทม. นั้น ก็เพื่อจะข่มขู่คุกคามพวกเรา เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาของพวกเขา เราก็รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่พวกเราจะต้องต่อสู่โดยใช้สันติวิธี เพื่อกดดันให้รัฐบาลยอมจำนนให้ได้ และตนขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ เพราะเป็นการสู้เพื่อปลดแอกให้ประเทศหลุดพ้นจากระบอบทักษิณ

นายจรัส สุวรรณมาลา คณะบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปราศรัยว่า ในวันนี้ (11พ.ย.) ขอให้ประชาชนหยุดงานออกมามาแสดงพลัง 4 จุด ได้แก่ บริเวณ สีลม อโศก หน้าห้องฟอร์จูน 4 แยกพระราม 9 และสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ และสะพานควาย และ เดินมาที่บริเวณถนนราชดำเนิน เพื่อแสดงพลังคัดค้านรัฐบาล และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่หากรัฐบาลไม่ฟัง ก็จะนัดหยุดงาน หยุดเรียน หยุดสอน ในวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งเป็นวันอังคาร ซึ่งตรงกับวันประชุมครม. ของรัฐบาล ซึ่งการต่อสู้ดังกล่าวเป็นแบบ สันติ อหิงสา เชื่อว่าจะหยุดรัฐบาลได้ นอกจากนี้ยังได้รับข่าวมาจากนักธุรกิจ เพื่อชะลอการเสียภาษี หลักแสน หลักล้าน เพราะมองว่าจ่ายไปไม่คุ้มและมีการทุจริต อีกทั้งยังจะกู้เงินจำนวนมากอีก

** แนะสภายกเลิกมติผ่านร่าง นิรโทษฯ ปลดล็อก

ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการที่พรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมกันลงสัตยาบันว่า จะไม่นำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลับมาพิจารณาอีกว่า การลงสัตยาบัน เป็นวิธีการเก่าๆ ที่นักการเมืองเคยทำมาแล้ว ขณะนี้ประชาชนอาจจะยังไม่เชื่อว่าจะทำอย่างนั้นจริงๆ ดังนั้นหนทางที่จะทำให้ประชาชรนเชื่อ คือ ต้องทำให้ร่างกฎหมายนี้พ้นไปจากสภาผู้แทนฯ ซึ่งสามารถทำได้ โดยให้สภาผู้แทนราษฎรประชุม แล้วมีมติยกเลิกมติเดิมของสภาฯ ที่เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.นี้ ทำแบบนี้ แล้วร่างกฎหมายนี้ก็จะตกไป วุฒิสภาก็ไม่ต้องพิจารณาเรื่องนี้

"ร่างกฎหมายนี้ผ่านสภาไปด้วยมติ ดังนั้นจึงสามารถมีมติใหม่เพื่อยกเลิกมติเดิมได้" เขากล่าว

ด้านนายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล แสดงท่าทีสนใจต่อข้อเสนอของ ดร.กิตติศักดิ์ ที่ให้สภาประชุมเพื่อยกเลิกมติในการผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม โดยจะรีบหารือกับนักกฎหมายของสภาผู้แทน เพื่อพิจารณาว่า จะสามารถทำได้หรือไม่ หากมีช่องทางที่สามารถทำได้ จะรีบดำเนินการทันที โดยจะขอความร่วมมือให้วุฒิสภาเลื่อนการประชุมในวันจันทร์ ออกไปก่อน

"หากมีช่องทางไหนที่จะทำให้ร่างกฎหมายนี้พ้นไปจากสภาได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย รัฐบาลพร้อมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ประชาชนสบายใจ และเพื่อให้สังคมเดินหน้าไปได้" นายอำนวย กล่าว

นายอำนวย กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติในเรื่องอย่างนี้ แต่เชื่อว่าหากเป็นเรื่องที่ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แม้จะยังไม่เคยมีการทำมาก่อน ก็น่าจะสามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากรัฐบาลทำตามแนวทางที่ ดร.กิตติศักดิ์ เสนอได้ ก็จะทำให้รัฐบาลลดแรงกดดันโดยไม่ต้องไปรอระยะเวลา 180 วัน จึงจะทำให้ร่างตกไปได้ จากการที่วุฒิสภา คืนร่างกลับมายังสภาผู้แทนราษฎร กรณีที่วุฒิสภายับยั้ง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปรัฐบาล และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวถึงข้อเสนอของ ดร. กิตติศักดิ์ ว่า เป็นมุมมองของนักวิชาการ แต่ไม่สามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากกติกา ข้อบังคับ และรัฐธรรมนูญไม่เปิดช่องให้ทำได้ ซึ่งข้อเรียกร้องต่อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อฝ่ายการเมือง คือ การลงนามสัตยาบัน ยืนยันต่อสังคมว่า จะไม่ยืนยัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และไม่นำมาพิจารณาในสภาผู้แทนฯ หลังวุฒิสภาลงมติยับยั้ง

"ข้อเสนอดังกล่าว ผมไม่แน่ใจว่าจะเสนอ และทำให้เกิดการสร้างเงื่อนไขใหม่ เหมือนอย่างที่บางฝ่ายกำลังเรียกร้องสิ่งอื่น เช่น การขับไล่รัฐบาล หรือไม่ ดังนั้นข้อเสนอใดๆ สามารถเสนอได้ แต่ต้องพิจารณาว่า กติกา หรือข้อบังคับ หรือรัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่ " นายชวลิต กล่าว

** ผู้ว่าฯกทม.ประชุมด่วนรับสถานการณ์

วานนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่กทม. โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ซึ่งที่ประชุม ได้รายงานถึงการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ของหน่วยงานในสังกัด อาทิ ศูนย์เอราวัณ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการชุมนุม รวมถึงบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนตัวผ่าน เพื่อให้สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความปลอดภัย ตลอดจนช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชน

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯกทม. ได้กำชับให้ทุกฝ่ายติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การชุมนุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความระมัดระวัง จัดเตรียมรถดับเพลิงไว้ที่ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อีกทั้งหากประสบเหตุการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วนให้รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที

**ร.ร.รอบพื้นที่เสียง ปิดวันที่ 11พ.ย.

นายพินิจ เพชรดารา รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา ในฐานะรักษาการ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ประชุมกับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนแต่ละระดับชั้น และได้ข้อสรุปว่า จะปิดการเรียนการสอนในวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. เป็นเวลา 1 วัน โดยจากนี้จะดำเนินการแจ้งไปยังผู้ปกครองท่านอื่น ๆ รวมทั้งส่งข้อความแจ้งไปยังครูผู้สอน ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองสามารถติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ของโรงเรียน ส่วนในวันที่ 12 พ.ย.จะปิดการเรียนการสอนหรือไม่นั้น ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ้ง แต่ได้นัดประชุมกันในเวลา 18.00 น. ของวันที่ 11 พ.ย.

นางแสงระวี วาจาวุธ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิต ประถม กล่าวว่า ได้ประกาศปิดการเรียนการสอน 1 วันในวันที่ 11 พ.ย. เนื่องจากขณะนี้มีการปิดถนนหลายเส้นทางและโรงเรียนนั้นมีเด็กเล็กจึงเกรงว่าจะเกิดความไม่สะดวก โดยผู้ปกครองสามารถติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์โรงเรียน

นายชาญณรงค์ แก้วเล็ก ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ก็ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนในวันที่ 11 พ.ย. เป็นเวลา 1 วัน เช่นกัน เพราะมีการปิดถนนหลายเส้นทางส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักเรียน รวมทั้งเป็นห่วงในความปลอดภัย โดยทางโรงเรียนจะแจ้งข่าวผ่านเว็บไซต์โรงเรียนและสื่อมวลชน ขณะที่ในช่วงเย็นของวันที่ 11 พ.ย.จะประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่งว่าจะประกาศปิดการเรียนการสอนวันที่ 12 พ.ย. ด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร และโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ที่ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนในวันที่ 11 พ.ย.นี้

ขณะที่ กรุงเทพมหานคร ได้ประกาศหยุดโรงเรียน 12 แห่ง รอบพื้นที่ชุมนุม โดยโรงเรียน 11 แห่งให้หยุดเรียน 1 วัน ในวันที่ 11 พ.ย. จากนั้นจะประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ได้แก่ 1. โงเรียนราชบพิธ 2. โรงเรียนวัดตรีทศเทพ 3. โรงเรียนวัดพระเชตุพน 4. โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม 5. โรงเรียนวัดมหรรณพาราม 6. โรงเรียนวัดมหาธาตุ 7. โรงเรียนวัดราชนัดดา 8. โรงเรียนวัดราชบูรณะ 9. โรงเรียนวัดสุทัศน์ 10. โรงเรียนวัดใหม่อมตรส และ 11. โรงเรียนวัดอินทรวิหาร สำหรับโรงเรียนวัดเบญจมบพิตร ประกาศหยุดเรียน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-13 พ.ย.นี้

** มธ.แนะใช้สติอย่าใช้ความรุนแรง

เมื่อเวลา 17.20 น.วานนี้ (10 พ.ย.) ที่บริเวณสนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ ได้มีการจัดงาน "จุดประทีปแห่งปัญญา นำความสว่างคืนสู่แผ่นดินไทย" โดย ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการฝ่ายการนักศึกษา มธ. และ รศ.ดร.นิทินันท์ วิศเวศวร รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ มธ เป็นผู้นำจุดประทีปและร่วมลงชื่อแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนการแก้ไขปัญหา และขับเคลื่อนประเทศด้วยวิถีแห่งธรรม และสันติธรรม โดยมีอาจารย์ มธ. นักศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกว่า 100 คน
รศ.ดร.นิทินันท์ กล่าวว่า การจัดงานจุดประทีปแห่งปัญญาครั้งนี้เพื่อหวังให้คนไทยทุกคนดึงเอาสติปัญญากลับมา ให้แก้ปัญหาโดยใช้สติปัญญาไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา นำความสงบสู่สังคมไทย เพราะขณะนี้เราขาดคุณธรรม จริยธรรม ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิดแล้วออก พ.ร.บ.นิรโทษขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องจนเกิดปัญหาเป็นความรุนแรงต่างๆ ดังนั้น ต้องแก้ปัญหาด้วยสันติ ทั้งนี้ที่สำคัญ อยากให้เยาวชนได้เข้าใจสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่เชื่อว่าทำชั่วแล้วได้ดี ทำดีได้ชั่ว

ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า เชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยทำให้ประชาธิปไตยของไทยดีขึ้นที่ผ่านมา ระบอบประชาธิปไตยของไทยมีการใชัในทางที่ผิดออก พ.ร.บ.นิรโทษฯ โดยใช้เสียงขัางมากทั้งที่เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ทำใหัคนไทยจำนวนมากออกมาค้าน ทั้งคนที่วางตัวเป็นกลางและเคยสนับสนุนรัฐบาลก็ยังออกมาคัดค้าน แสดงถึงการก้าวไปข้างหน้าของประชาธิปไตยไทย แต่ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยวิธีการรัฐประหาร ใช้อารมณ์และความรุนแรง.
กำลังโหลดความคิดเห็น