ASTVผู้จัดการรายวัน - "ประยุทธ์" ห่วงม็อบต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมปลานปลาย ย้ำไม่ออกมาช่วยเหลือประชาชน ต้องทำตามคำสั่งรัฐบาล ก่อนจะหลบลงพื้นที่ภาคใต้-ไปพม่า รวม 5 วัน หลบข่าวปฏิวัติ
วานนี้ (5 พ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยต่อการชุมนุมที่เกิดขึ้น โดยไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ซึ่งผู้ชุมนุมสามารถแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวม อีกทั้งต้องการให้ฝ่ายที่เห็นต่างได้ร่วมกันแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธี
ส่วนการที่มีประชาชนบางกลุ่มพยายามกดดันให้กองทัพออกมาแสดงบทบาทต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามนั้น ขอให้เข้าใจและเห็นใจว่า กองทัพบกต้องเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่สามารถเลือกได้ว่าเป็นกลุ่มไหนหรือฝ่ายใด การปฏิบัติใดๆทั้งหลายทั้งปวงที่อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในสังคม เป็นสิ่งที่ กองทัพบกให้ความสำคัญและระมัดระวังมาโดยตลอด
"ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลจะมีขั้นตอนพิจารณาใช้กำลังจากทหาร โดยอาศัยองค์ประกอบและปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์ที่เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ปกติจะควบคุมได้ อีกทั้งการที่ทหารจะออกปฏิบัติงานได้ต้องได้รับคำสั่งจากรัฐบาลโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของกฎหมายพิเศษ เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กองทัพบกห่วงใยประชาชน และคำนึงถึงความเสียหายที่อาจจะส่งผลกับประเทศชาติมาโดยตลอด แต่กองทัพมีกรอบของกฎระเบียบและกติกา ซึ่งขณะนี้มีบางส่วนพยายามกดดันในหลายๆ ช่องทางเพื่อให้ทหารปฏิบัติตนเป็นไปตามแนวทางที่ตนเองต้องการ จึงอยากให้ใช้วิจารณญาณด้วยความเป็นธรรม และขอให้เข้าใจว่า การปฏิบัติงานมีขั้นตอนและกติกาที่ชัดเจน ทหารไม่สามารถออกมาปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไร้คำสั่งจากรัฐบาลจึงอยากให้ประชาชนมีความเข้าใจกองทัพ”รองโฆษกกองทัพบก
รายงานแจ้งเพิ่มเติม ว่า ในวันนี้ (6 พ.ย.) นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ รวมถึงรับฟังการบรรยายสรุปบทเรียนการรบ กรณีเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) เป็นต้น และวันที่ 7-10 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปประเทศพม่า เพื่อร่วมพิธีปิดยิงปืนทางยุทธวิธี กองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนครั้งที่ 23 ในวันที่ 9 พ.ย. ที่เมืองมัณฑะเลย์ จากนั้นจะเข้าร่วม “การประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 14” ภายใต้หัวข้อหลักคือ “การเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558” ซึ่งผบ.ทบ.กลุ่มประเทศอาเซียนจะได้พบปะหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในแบบพหุภาคี และทวิภาคี เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยคาดว่าวันที่ 11 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อรอฟังคำพิพากษาของศาลโลกคดีเขาพระวิหาร และคาดว่าน่าจะเป็นวันเดียวกับที่ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา
วานนี้ (5 พ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยต่อการชุมนุมที่เกิดขึ้น โดยไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ซึ่งผู้ชุมนุมสามารถแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวม อีกทั้งต้องการให้ฝ่ายที่เห็นต่างได้ร่วมกันแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธี
ส่วนการที่มีประชาชนบางกลุ่มพยายามกดดันให้กองทัพออกมาแสดงบทบาทต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามนั้น ขอให้เข้าใจและเห็นใจว่า กองทัพบกต้องเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่สามารถเลือกได้ว่าเป็นกลุ่มไหนหรือฝ่ายใด การปฏิบัติใดๆทั้งหลายทั้งปวงที่อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในสังคม เป็นสิ่งที่ กองทัพบกให้ความสำคัญและระมัดระวังมาโดยตลอด
"ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลจะมีขั้นตอนพิจารณาใช้กำลังจากทหาร โดยอาศัยองค์ประกอบและปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์ที่เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ปกติจะควบคุมได้ อีกทั้งการที่ทหารจะออกปฏิบัติงานได้ต้องได้รับคำสั่งจากรัฐบาลโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของกฎหมายพิเศษ เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กองทัพบกห่วงใยประชาชน และคำนึงถึงความเสียหายที่อาจจะส่งผลกับประเทศชาติมาโดยตลอด แต่กองทัพมีกรอบของกฎระเบียบและกติกา ซึ่งขณะนี้มีบางส่วนพยายามกดดันในหลายๆ ช่องทางเพื่อให้ทหารปฏิบัติตนเป็นไปตามแนวทางที่ตนเองต้องการ จึงอยากให้ใช้วิจารณญาณด้วยความเป็นธรรม และขอให้เข้าใจว่า การปฏิบัติงานมีขั้นตอนและกติกาที่ชัดเจน ทหารไม่สามารถออกมาปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไร้คำสั่งจากรัฐบาลจึงอยากให้ประชาชนมีความเข้าใจกองทัพ”รองโฆษกกองทัพบก
รายงานแจ้งเพิ่มเติม ว่า ในวันนี้ (6 พ.ย.) นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ รวมถึงรับฟังการบรรยายสรุปบทเรียนการรบ กรณีเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) เป็นต้น และวันที่ 7-10 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปประเทศพม่า เพื่อร่วมพิธีปิดยิงปืนทางยุทธวิธี กองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนครั้งที่ 23 ในวันที่ 9 พ.ย. ที่เมืองมัณฑะเลย์ จากนั้นจะเข้าร่วม “การประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 14” ภายใต้หัวข้อหลักคือ “การเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558” ซึ่งผบ.ทบ.กลุ่มประเทศอาเซียนจะได้พบปะหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในแบบพหุภาคี และทวิภาคี เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยคาดว่าวันที่ 11 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อรอฟังคำพิพากษาของศาลโลกคดีเขาพระวิหาร และคาดว่าน่าจะเป็นวันเดียวกับที่ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา