xs
xsm
sm
md
lg

อาเพศ

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

บ้านเมืองคงอาเพศเพราะมีคนออกมาแสดงความเห็นแปลกๆ จะเรียกว่าเอาสีข้างเข้าถู หรือตะแบงก็ได้ ผมดูข่าวทีวีเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งผู้คนเรียกว่า “สุดซอย” เพราะอ้างว่าตามรัฐธรรมนูญนั้น บุคคลจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ก็เลยต้องออกกฎหมายมานิรโทษผู้กระทำความผิดทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ

ฟังดูแล้วก็ขัดหู เพราะตามเจตนารมณ์หรือหลักของรัฐธรรมนูญนั้น เป็นข้อพึงปฏิบัติสำหรับบุคคลโดยทั่วไป แต่ไม่ได้รวมถึงผู้กระทำความผิด ผู้กระทำความผิดก็ต้องได้รับโทษทางกฎหมาย ผู้ชุมนุมนั้นถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งไม่ใช่อาชญากรรมจึงเข้าข่ายให้มีการนิรโทษได้

ไม่ว่าใครจะอ้างเหตุผลอะไร เด็กอมมือก็ย่อมรู้ดีว่ากฎหมายนิรโทษนี้ต้องการออกมาเพื่อล้างมลทินให้ทักษิณ และขั้นต่อไปก็คือ การคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดหรือถูกตัดสินคดี

มีการคาดคะเนว่า การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมครั้งนี้ คงมีประชาชนออกมาต่อต้านกันมากกว่าครั้งก่อนๆ เวลานี้ก็มีอยู่สอง-สามกลุ่ม การต่อต้านน่าจะเป็นเพราะเหตุอื่นที่ทับถมกันมาด้วย โดยเฉพาะเรื่องนโยบายจำนำข้าวที่มีคนพูดว่า คนบางคนได้เงินไปห้าหมื่นกว่าล้านบาท วิธีการหาเงินก็ง่ายๆ รัฐบาลรับจำนำข้าวมาตันละ 15,000 บาท แล้วขายออกไปตันละ 7,000-8,000 บาท จึงเกิดส่วนต่างคนที่ซื้อไปก็ขายได้กำไร มากบ้างน้อยบ้างตั้งแต่มือแรกจนถึงมือต่อๆ ไป

ดังนั้น ในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ การเมือง (นอกสภาฯ) คงร้อนกันไป และพอถึงวันที่ 11 พ.ย.ศาลโลกก็จะตัดสินกรณีเขาพระวิหาร มีการคาดคะเนว่าหากไทยต้องแพ้คดี และเสียดินแดน คนก็จะออกมาประท้วงและเมื่อรวมกับคนอีกหลายกลุ่มแล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็อาจลุกลามจนรัฐบาลต้องล้มไปก็เป็นได้

ประชาธิปไตยของไทยยังไม่มั่นคง รัฐบาลที่อยู่ครบเทอมก็มีน้อย แม้ว่าจะมีเสียงข้างมากในสภาฯ แต่การเมืองก็ยังทะลักออกมาเล่นกันนอกสภาฯ พรรคประชาธิปัตย์เองก็ไม่มีทางเลือกนอกจากออกมาเล่นการเมืองร่วมกับประชาชนบนท้องถนนเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้น ยังมีเรื่องที่เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิดอีกคือ การที่อัยการสั่งฟ้องคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเราคงจำเหตุการณ์ในปีที่มีการจลาจลเผาสถานที่ มีการยิงอาวุธสงคราม และการเผารถเมล์ และการต่อสู้ระหว่างประชาชนกลุ่มหนึ่งกับเจ้าหน้าที่เหมือนเป็นสงครามกลางเมือง เมื่อรัฐบาลจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ เกิดการต่อสู้กันมีคนบาดเจ็บล้มตายก็กลายเป็นความผิด ยังดีที่ทหารไม่ถูกกล่าวหาตามไปด้วย เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ก็คงจะมีปฏิกิริยาในทางลบมาจากฝ่ายทหารเช่นกัน

การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การมีนโยบายประชานิยม และการคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง ทำให้คนพูดกันว่า พรรคทักษิณยึดครองประเทศเบ็ดเสร็จ ไม่มีอะไรเหลือแล้ว บางคนถึงกับพูดว่า อยากย้ายไปอยู่ลาว นี่แสดงว่าในหมู่ชนชั้นกลาง ความรู้สึกว่าหมดทางต่อสู้กับอำนาจของพรรคการเมือง เริ่มแผ่กระจายทั่วไป ซึ่งไม่เป็นผลดี คนจำนวนหนึ่งอยู่อย่างไม่มีความสุข

แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมแพ้ หากพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปมีการพูดกันว่า ทักษิณเดินเกมเต็มที่ แม้ว่าจะมีการปะทะกันก็ยอม เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป และมีคนกังวลว่าคราวนี้ประชาชนกับประชาชนจะปะทะกันจนเกิดความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น