00 งานนี้ไม่ต้องอธิบาย สาธยายให้มากเรื่องมากความ เพราะนาทีนี้เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจดีแล้วว่า "ระบอบทักษิณ"มั่นชั่วอย่างไร ทักษิณ ชินวัตร มันมีเล่ห์เหลี่ยม โกงอย่างไร เห็นแก่ตัวอย่างไร ถ้าหากยังไม่รู้ ไม่เข้าใจยังคิดว่า ทักษิณ มันเป็นเทวดา เป็นมนุษย์ผู้วิเศษมีความสามารถเหนือคนอื่นแล้วละก็ สมควรแล้วที่จะต้องถูกสังคมเหยียดหยามประณาม และก็สมควรแล้วที่จะ"ข้ามฟาก"ไปคุ้มครองอารักขา "ครอบครัวแม้ว" ให้คนพวกนี้ได้ทำมาหากินร่ำรวยกันต่อไปแบบหน้ามืดตามัวกันต่อไป ถ้าต้องการแบบนั้นก็เชิญตามสบาย แต่ถ้าใครไม่ยอมหรือทนไม่ไหวก็ให้ออกมาให้มากที่สุด เนื่องจากเวลานี้น่าจะเป็น "ตาสว่างแห่งชาติ"กันได้แล้ว
00 การประกาศ"เป่านกหวีด"ของพลพรรคปชป.ในวันที่ 31 ตค.แม้ว่าอาจจะไม่ใช่เป็นทางการ แต่ก็ถือว่า "มีพลัง" และ "จริงจัง"น่าจับตา เพราะคนที่ยืนยันนำขบวน หรืออย่างน้อยก็ประกาศออกมาเคลื่อนไหวชัดเจนมากขึ้นก็คือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ถาวร เสนเนียม กรณ์ จาติกวณิช อิสระ สมชัย และศิริวรรณ ปราศจากศัตรู คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นต้น ที่บอกว่าน่าจับตาก็คือ งานนี้เหมือนกับเป็น"ไฟท์บังคับ"ที่ ปชป.ต้องออกมายืนอยู่แถวหน้า จะทำตัวแบบเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะนอกจากสถานการณ์เปลี่ยนไป ชาวบ้านที่ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็น "มวลชนที่ตื่นรู้"มีการเรียนรู้มีประสบการณ์การเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ที่สำคัญเขา"รู้ทันนักการเมือง" และบางที "ไปไกล"กว่านักการเมืองในสภาทั้งหมดเสียอีก
00 ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ปชป.ถูกกดดันและ"เสียศูนย์"ไม่น้อยกับการประกาศสู้ในสภา เพราะถูกมองว่า "สู้ไปก็ไร้ประโยชน์"เพราะรู้อยู่แล้วว่า "สู้ไปก็แพ้"และยังเป็นการไปสร้างความชอบธรรมใน"พิธีกรรมอุบาทว์"ให้กับระบบเสียงข้างมากของระบอบทักษิณ เสียอีก อีกทั้งท่าทีที่แสดงออกมาจากปากของ คนที่ควบคุมปชป.ในเวลานี้อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ยังยืนยันสู้ในสภา รีรอออกมานำมวลชน มันก็ยิ่งเกิดแรงบีบโดยสถานการณ์ข้างนอกมากขึ้นทุกวัน ทุกอย่างกลายเป็นตรงกันข้ามที่ทำให้ถึงเวลาที่"ต้องนำเอง" หากยังคิด "แบ่งขั้ว" เพิ่มพลังมวลชนเพื่อต่อรองกับฝ่าย ทักษิณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ้ายังเดินในสภาพแบบเดิม รับรองก็ต้อง "ฝ่อ"ลงเรื่อยๆ แต่มาวันนี้เมื่อเป็นไฟท์บังคับ มันก็ถึงเวลาพิสูจน์กันอีกครั้ง
00 ร่างพรบ.นิรโทษฯล้างโกงให้แม้ว ยังเดินหน้าเต็มตัว เวลานี่ก็ถึงคิว "สภาขี้ข้า"ที่ยังมีบทบาทนำ ที่ล่าสุด สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รวบรัดบรรจุเข้าวาระเพื่อลงมติในวาระ 2-3 วันที่ 31 ตค.อ้างว่านี่คือ "เรื่องด่วน" และสังคมต้องมีสติปัญญาคิดเองได้ว่าเรื่งแบบนี้มันเป็นเรื่องด่วนคอขาดบาดตายหรือเปล่า เพิ่งรู้ว่า "การล้างผิดให้คนชั่ว-คนโกง"นี่มันเป็นเรื่องด่วนรอไม่ได้ ขณะเดียวกันสุดแสนทุเรศกับ "ละครตบตา"ของพวกหัวโจกเสื้อแดง ที่ประกาศคัดค้านไม่เอาด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น นอกจาก "งดออกเสียง"แล้วนั่งเฉยๆ รอรับอานิสงฆ์จากกม.สุดซอยฉบับนี้ ตอนนี้พวก สส.แดงใส่สูท ไม่ว่าจะเป็น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เหวง โตจิราการ หรือแม้แต่พวกที่อยู้ข้างนอกอย่าง ธิดา ถาวรเศรษฐ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ก็นิ่งเฉย ไม่มีปัญหาที่จะปรองดองกับ พวก "ฆาตรกร"ไม่ต้องการสอบสวนเอาผิดแล้ว ทุด !!
00 การประกาศ"เป่านกหวีด"ของพลพรรคปชป.ในวันที่ 31 ตค.แม้ว่าอาจจะไม่ใช่เป็นทางการ แต่ก็ถือว่า "มีพลัง" และ "จริงจัง"น่าจับตา เพราะคนที่ยืนยันนำขบวน หรืออย่างน้อยก็ประกาศออกมาเคลื่อนไหวชัดเจนมากขึ้นก็คือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ถาวร เสนเนียม กรณ์ จาติกวณิช อิสระ สมชัย และศิริวรรณ ปราศจากศัตรู คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นต้น ที่บอกว่าน่าจับตาก็คือ งานนี้เหมือนกับเป็น"ไฟท์บังคับ"ที่ ปชป.ต้องออกมายืนอยู่แถวหน้า จะทำตัวแบบเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะนอกจากสถานการณ์เปลี่ยนไป ชาวบ้านที่ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็น "มวลชนที่ตื่นรู้"มีการเรียนรู้มีประสบการณ์การเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ที่สำคัญเขา"รู้ทันนักการเมือง" และบางที "ไปไกล"กว่านักการเมืองในสภาทั้งหมดเสียอีก
00 ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ปชป.ถูกกดดันและ"เสียศูนย์"ไม่น้อยกับการประกาศสู้ในสภา เพราะถูกมองว่า "สู้ไปก็ไร้ประโยชน์"เพราะรู้อยู่แล้วว่า "สู้ไปก็แพ้"และยังเป็นการไปสร้างความชอบธรรมใน"พิธีกรรมอุบาทว์"ให้กับระบบเสียงข้างมากของระบอบทักษิณ เสียอีก อีกทั้งท่าทีที่แสดงออกมาจากปากของ คนที่ควบคุมปชป.ในเวลานี้อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ยังยืนยันสู้ในสภา รีรอออกมานำมวลชน มันก็ยิ่งเกิดแรงบีบโดยสถานการณ์ข้างนอกมากขึ้นทุกวัน ทุกอย่างกลายเป็นตรงกันข้ามที่ทำให้ถึงเวลาที่"ต้องนำเอง" หากยังคิด "แบ่งขั้ว" เพิ่มพลังมวลชนเพื่อต่อรองกับฝ่าย ทักษิณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ้ายังเดินในสภาพแบบเดิม รับรองก็ต้อง "ฝ่อ"ลงเรื่อยๆ แต่มาวันนี้เมื่อเป็นไฟท์บังคับ มันก็ถึงเวลาพิสูจน์กันอีกครั้ง
00 ร่างพรบ.นิรโทษฯล้างโกงให้แม้ว ยังเดินหน้าเต็มตัว เวลานี่ก็ถึงคิว "สภาขี้ข้า"ที่ยังมีบทบาทนำ ที่ล่าสุด สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รวบรัดบรรจุเข้าวาระเพื่อลงมติในวาระ 2-3 วันที่ 31 ตค.อ้างว่านี่คือ "เรื่องด่วน" และสังคมต้องมีสติปัญญาคิดเองได้ว่าเรื่งแบบนี้มันเป็นเรื่องด่วนคอขาดบาดตายหรือเปล่า เพิ่งรู้ว่า "การล้างผิดให้คนชั่ว-คนโกง"นี่มันเป็นเรื่องด่วนรอไม่ได้ ขณะเดียวกันสุดแสนทุเรศกับ "ละครตบตา"ของพวกหัวโจกเสื้อแดง ที่ประกาศคัดค้านไม่เอาด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น นอกจาก "งดออกเสียง"แล้วนั่งเฉยๆ รอรับอานิสงฆ์จากกม.สุดซอยฉบับนี้ ตอนนี้พวก สส.แดงใส่สูท ไม่ว่าจะเป็น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เหวง โตจิราการ หรือแม้แต่พวกที่อยู้ข้างนอกอย่าง ธิดา ถาวรเศรษฐ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ก็นิ่งเฉย ไม่มีปัญหาที่จะปรองดองกับ พวก "ฆาตรกร"ไม่ต้องการสอบสวนเอาผิดแล้ว ทุด !!
