ASTVผู้จัดการรายวัน-ยึดหลักกู ไม่สนหลักการ "เพื่อไทย"เดินหน้านิรโทษช่วย "แม้ว" สุดซอย ไม่มีถอย ลั่นหากสถานการณ์วุ่นวายอาจออกเป็น "พ.ร.ก.นิรโทษ" แทน หางโผล่บอก "แม้ว" มีสิทธิ์ร้องศาลขอเงินคืน ด้านแกนนำแดง-ปชป. ต่างสาดน้ำลาย ดรม่าค้านนิรโทษ ทั้งที่ตัวเองรอรับอานิสงส์ "ยะใส" นัด 27 ต.ค. ถกดีเดย์ชุมนุมใหญ่ จับตารัฐบาลสร้างสถานการณ์ เพื่อเป็นข้ออ้างในการออก พ.ร.ก.นิรโทษ ขณะที่ ป.ป.ช. เซ็งรัฐบาลต้องการให้ลงโทษ หรือปล่อยคนทำผิดกันแน่
จากกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ผ่านวาระรับหลักการไปแล้ว ได้แก้ไขเนื้อหาใหม่ ให้มีการนิรโทษให้ครอบคลุมไปถึงแกนนำ และผู้สั่งการ ในการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีเสียงคัดค้านจากส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วน และกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ต้องการให้ดำเนินคดีกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และกลุ่มทหารที่สลายการชุมนุมในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 โดยเรียกร้องให้กลับไปใช้ร่างเดิมนั้น
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่มีการถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่จะเดินหน้า เพื่อคืนความยุติธรรมแก่บุคคลที่ไม่ได้รับยุติธรรมจากการรัฐประหาร หรือผลพวงของการรัฐประหาร ส่วนที่กรรมาธิการมีมติเสียงข้างมาก แก้ไขเนื้อหาให้นิรโทษกรรมแกนนำทุกฝ่ายนั้น ไม่ใช่การหักหลังมวลชนคนเสื้อแดง แต่เหตุผลที่ต้องแก้ไขเนื้อหา เนื่องจากมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และผู้พิพากษาบางส่วนท้วงติงว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 เรื่องหลักความเสมอภาค พรรคจึงนำมาทบทวน เพราะไม่ต้องการให้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องตกไปทั้งฉบับ จนทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้เลย กรรมาธิการฯ จึงแก้ไขเนื้อหาใหม่ โดยยึดเกณฑ์การนิรโทษกรรมจากเหตุการณ์เป็นหลักแทน
“ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ถอยอย่างที่เป็นข่าว สิ่งที่เราทำ อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ที่ต้องการให้ทุกคนได้รับประโยชน์เหมือนกัน เป็นการแก้ปัญหาให้สังคม ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการของกรรมาธิการฯ จะขัดหลักการที่ผ่านวาระแรกนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ขัด เพราะในหลักการ วาระแรกพูดถึงการไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร และผลพวงของการรัฐประหาร ซึ่งในเนื้อหาที่แก้ไขใหม่ ก็ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร จึงไม่ใช่การขัดหลักการ โดยเนื้อหาที่แก้ไขจะครอบคลุมแค่ไหน ก็ยังอยู่ในหลักการเดิม”
ส่วนเรื่องแรงต้านนอกสภาฯ ปฏิเสธไม่ได้ที่จะมีแรงต่อต้าน ก็เป็นแรงต้านจากคนกลุ่มเดิมๆ ถ้าเราเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ทำไปนั้นถูกต้อง ก็ต้องทำเพื่อให้ประเทศเข้าสู่กระบวนการ มีนิติรัฐ นิติธรรม แต่หากมีแรงต่อต้านมากๆ ก็พร้อมทบทวนกัน ยืนยันว่า จะไม่ใช้วิธียุบสภาเป็นทางออก
**ออกพ.ร.ก.หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ครอบคลุมไปถึงคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทำไว้ด้วย ว่า เจตนาการออกกฎหมาย ไม่คิดว่าครอบคลุม หรือไม่ครอบคลุมถึงใคร เพราะหลักการกฎหมายไม่สามารถยกเว้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ในเหตุการณ์ และเวลาเดียวกัน ถ้าเขียนยกเว้น กฎหมายก็ขัดรัฐธรรมนูญ ก็คลอดออกมาไม่ได้ ขณะนี้ยังมีความขัดแย้งกัน ก็พยายามทำความขัดแย้งให้หมดไป แต่ถ้ายังคัดค้านกันอย่างนี้ ความขัดแย้งจะยังอยู่ และหนักขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ขอให้มองในทางกลับกัน อย่าคิดว่าทำแล้วจะเกิดความขัดแย้งอย่างเดียว ถ้าให้อภัยกันก็จะจบ ทุกอย่างน่าจะไปได้ ถ้าไม่ยอมให้อภัยกัน โดยยังแบ่งฝ่าย ก็จะไปไม่ถึงไหน ส่วนการที่คู่ขัดแย้ง โดยเฉพาะแกนนำไม่รับประโยชน์จากกฎหมายนิรโทษกรรม ก็ถือเป็นสิทธิ
เมื่อถามว่ารัฐบาลไม่ห่วงเสถียรภาพหรือ ถ้าเดินหน้าแล้วทำให้รัฐบาลพัง นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้ห่วง หรือไม่ห่วง เพราะกรรมาธิการฯ เป็นคนตัดสิน ไม่ใช่สายบริหาร ส.ส.ก็ว่าไปตามหน้าที่ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นรัฐบาล กฎหมายถ้ายกร่างแล้วขัดรัฐธรรมนูญ จะลากไปได้อย่างไร คงไม่เถียง แต่ฟังเขาพูดมา ต้องยอมรับว่าหลังปฏิวัติ 19 ก.ย. ความแตกแยกเกิดขึ้นเยอะ บ้านเมืองไม่สงบ มีทั้งสีเสื้อ มีหน้ากากขาว หน้ากากลิง
ส่วนแนวคิดที่จะออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ยังมีอยู่หรือไม่ ถ้าส.ส.ดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ผ่าน นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่สถานการณ์จะไปอย่างไรต่อ โดยสรุป คือ บ้านเมืองมีความแตกแยก ทำให้ไม่มีเสถียรภาพทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล แล้วบ้านเมืองจะพัฒนาต่อไปอย่างไร ไม่อยากให้ความขัดแย้งเกิดความร้าวลึกไปกว่านี้ ต้องให้อภัยกัน
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จนสุดซอย นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ก็จะทำอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทำความเข้าใจ
"ไม่อยากให้มองว่ากฎหมายนี้จะไปเติมไฟ แต่มันจะทำให้ไฟที่มีอยู่มอดดับลง ส่วนตัวไม่อยากให้ใช้คำว่า ไฟ แต่มองว่าความแตกแยกที่มีอยู่ทำอย่างไรจะให้จบไป เหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา เช่น 14 ตุลาฯ ก็มีกฎหมายเพื่อให้อภัยโทษ แม้กระทั่งทุกครั้งที่ทหารทำรัฐประหาร ก็ให้อภัยกัน สุดท้ายเรื่องก็จะจบ ถ้าไม่อภัยกัน เรื่องจะจบได้อย่างไร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว
**"แม้ว"มีสิทธิ์ร้องศาลขอเงินคืน
นายจารุพงศ์ กล่าวยืนยันด้วยว่า พ.ร.บ.นิรโทษฯ ไม่ใช่กฎหมายการเงิน ฝ่ายที่ต้องการจะล้มกฎหมายนี้ ก็พูดได้ทุกอย่าง
เมื่อถามว่า พูดชัดๆ ได้เลยหรือไม่ว่า ถ้าออกกฎหมายนี้สำเร็จ จะไม่มีการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย ส่วนเขาจะฟ้องขอคืนเงิน ศาลก็ต้องไปตัดสินอีกที ก็เป็นอีกตอนหนึ่ง แล้วจะไปห้ามเขาไม่ให้ไปยื่นได้อย่างไร เพราะการขอความยุติธรรมผ่านศาล เป็นสิ่งที่ทำได้
**คาดสรุปร่างพ.ร.บ.นิรโทษ สัปดาห์หน้า
นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวว่า วันที่ 24-25 ต.ค.นี้ ได้นัดประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อเชิญ ส.ส. ที่ได้ขอแปรญัตติไว้มาชี้แจง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะขอสงวนคำแปรญัตติไปอภิปรายในสภา วาระ 2 หลังจากนั้นจะทำรายงานส่งประธานสภา เพื่อบรรจุวาระต่อไป คาดว่าสัปดาห์หน้า เอกสารจากกรรมาธิการก็จะเสร็จ ส่วนประธานสภาจะบรรจุระเบียบวาระเมื่อไร ก็เป็นดุลพินิจของประธาน แต่ตามข้อบังคับเขียนไว้ว่า เรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ประธานจะต้องบรรจุภายใน 7 วัน การพิจารณาร่างนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขียนออกมาแล้วจะถูกใจทุกฝ่าย แต่กรรมาธิการมีหลักในการเขียน เพื่อให้ได้ข้อยุติ คือ ใช้หลักการให้อภัยทุกฝ่าย และหลักกฎหมาย แต่มีหลายคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ขอสงวนความเห็นไว้ แต่ที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาว่า จะตัดสินใจเอาตามกรรมาธิการ หรือจะเอาตามคำแปรญัตติของผู้ใด
**"ปู"ลอยตัว โบ้ยเป็นเรื่องของ ส.ส.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ส.ส.เพื่อไทย สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยว่า ต้องมองแยกส่วนกัน เพราะ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นร่างของส.ส. ที่จะต้องหารือกันในสภา คงต้องแล้วแต่มติของทาง ส.ส. สำหรับตนเองอยากเห็นวิธีการอะไรก็ได้ ที่ทำให้บ้านเมืองเดินหน้า ซึ่งตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็มีข้อถกเถียงกันทั้งนั้น ทั้งนี้ อยากเห็นข้อถกเถียงนั้นนำไปสู่ทางออก เพราะอยากให้ประเทศเดินหน้า หากเป็นเพียงข้อถกเถียงอย่างเดียว บ้านเมืองก็จะไม่มีทางออก ไม่สามารถเดินไปได้
"การพิจารณา อาจมีความกังวลใจของประชาชน ซึ่งในส่วนรัฐบาล คงต้องทำอย่างดีที่สุด และพยายามอย่างเต็มที่ โดยอยากขอร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน และพูดจาว่ามีปัญหา มีข้อกังวลใจอย่างไร โดยใช้แต่ละเวทีหาทางออก ซึ่งในส่วนของรัฐบาลจะพยายามในทุกๆ เวที เพื่อสร้างกระบวนการการมีส่วนรวม แต่เชื่อว่าหลายๆ ท่าน อาจมีความกังวลใจต่างกัน แต่ก็อยากให้ความกังวลใจนี้ มองไปในจุดมุ่งหมายเดียวกัน ทำอย่างไรให้มีทางออกของประเทศ"น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว และว่า ขั้นตอนขณะนี้ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ โดยในทางปฏิบัติยังมีอีกหลายขั้นตอน ยังไม่จบในวันนี้ ยังมีรายละเอียดที่จะต้องใช้เวทีรัฐสภาพูดกันมากกว่านี้
** "เต้น"อ้างพท.เสียงแตกเรื่องปกติ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ตนยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่ไม่ขอรับอานิสงส์จากการนิรโทษกรรม แต่การที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พยายามที่จะบอกว่าการที่ตนแสดงจุดยืน ไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่นั้น ก็เพื่อที่จะให้ตนแสดงท่าทีให้ไปเผชิญหน้ากับแนวทางของคณะกรรมาธิการ พรรคเพื่อไทย ก็ต้องบอกว่าอย่าพยายามอย่างนั้นเลย เพราะชัดเจนว่า การหารือของมิตรที่อยู่ฝ่ายเดียวกัน ก็ต้องมีวิธีการที่ทำกันอย่างฉันท์มิตร ส่วนคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม หากหวังจะแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์นี้ อย่าได้มาคาดหวังจากพวกตน ไม่มีทาง และคนอย่างตน เมื่อกำหนดจุดยืนแน่ชัดก็จะไม่มีความเปลี่ยนแปลง
ส่วนล่าสุดที่ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ มีท่าทีสนับสนุนการแปรญัตติ โหวตวาระ 3 แก้ไข ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับนางเยาวภา แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทย มีความเห็นเป็น 2 แนวทาง เพราะฉะนั้นใครที่คิดอ่านไปในแนวทางใด ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว และการแลกเปลี่ยนหารือกัน ก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนอกรอบ หรือภายในพรรค
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทย ยืนยันที่จะผลักดันที่จะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ประโยชน์ ถือว่าสวนทางกับหลักการคนเสื้อแดงหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คนเสื้อแดงและการแสดงจุดยืนจากที่ทุกคนทราบ นี่ถือว่าเป็นท่าทีของแกนนำ นปช. ที่ต้องนำมาพุดคุยกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ส่วนพรรคจะมีมติดำเนินการอย่างไร ก็ว่ากันอีกที เมื่อประกาศจุดยืนเช่นนี้ ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่าหลายคนมองว่า พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง กำลังเล่นละครกันอยู่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า มีให้ดูจนสุดทางอยู่แล้ว เมื่อมีท่าทีที่เปิดเผย สังคมก็จะตรวจสอบ สามารถพิสูจน์ท่าทีเช่นนี้ได้
** เตือนม็อบอย่าหลงคารม"มาร์ค"
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านรัฐบาล ระวังอย่าหลงเชื่อลมปากของนายอภิสิทธิ์ ที่อ้างว่า ตัวเองไม่อยากได้รับการนิรโทษกรรม เพราะดูเหมือนนายอภิสิทธิ์ และลูกพรรค จะค้านการนิรโทษกรรมแค่เพียงลมปาก เพราะไม่เห็นนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ จะออกแรงเต็มที่ในการคัดค้านการแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการฯ ที่จะมีการนิรโทษกรรมให้ทุกฝ่าย จึงน่าสงสัยว่าอาจมีการส่งสัญญาณให้ ส.ส.ปชป. ซอยเท้า หรือล้มมวยหรือไม่ เพราะนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ก็จะได้รับการล้างผิดด้วย
"ที่น่าเกลียดไปกว่านั้น ก็คือ การที่นายอภิสิทธิ์ และลูกพรรคปชป. กลับพูดสร้างภาพให้ตัวเองดูดี ว่าถูกรัฐบาลบีบให้ยอมรับการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ทั้งๆ ที่ ตัวนายอภิสิทธิ์ เองก็เป็นฝ่ายกระโจนเข้าไปอยู่ในเข่งด้วย เพราะตัวนายอภิสิทธิ์ เองก็ร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในขณะที่ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องและแสดงจุดยืนชัดเจนว่า ขอปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมาธิการ และพรรคเพื่อไทย ขอให้ผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ไตรตรองให้ดี และอย่าเพิ่งหลงคารมนายอภิสิทธิ์ จนยอมนอนตากแดด ตากฝน กลางถนน เพื่อเป็นบันไดให้นายอภิสิทธิ์และคนพรรคประชาธิปัตย์ ก้าวขึ้นสู่อำนาจโดยไม่ต้องออกแรง และไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆ ตามกฎหมาย"
** "ประยุทธ์"ยันทหารไม่ผิดกรณีสลายแดง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง กองทัพผิดตรงไหน ตนมีความผิดหรือยัง หากยังไม่ผิด แสดงว่าไม่เกี่ยวข้อง ดังนั้น อย่ามาถามตน ส่วนที่กองทัพบกมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ก็เพื่อติดตาม และต่อสู้คดี ซึ่งวันนี้กำลังพลยังไม่ผิด จึงไม่มีอะไร เป็นคนละเรื่องกัน อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับตน ก็ควรไปถามคนอื่น อย่าให้ทุกอย่างพันกัน คดีความยังไม่จบ ต้องไปดูว่า จะจบอย่างไร ส่วนใครจะนิรโทษกรรมใคร ก็เป็นเรื่องของคนอื่น ตนดูแลกำลังพลตามปกติ อย่ามาคาดคั้น
เมื่อถามว่า โอเคหรือไม่ หากมีการนิรโทษกรรมให้ทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ตอบว่าโอเค หรือไม่โอเค ต้องไปถามกำลังพลที่บาดเจ็บสูญเสีย ถามตนคงตอบแทนไม่ได้ หน้าที่ของตน คือ ต่อสู้คดี เพื่อให้เขาได้รับความเป็นธรรม แต่เรื่องของหนทางคดีอื่นๆ ก็ไปว่ากัน ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ที่มีผลกระทบต้องตอบคำถาม ต้องยอมรับกัน หากทุกคนยอมรับ ก็โอเค แต่ไม่ยอมรับกันคงไปไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น อย่าถามอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะทำให้เกิดกลุ่มมวลชนออกมาเคลื่อนไหวจนบ้านเมืองวุ่นวายว่า ทางทหารคงทำหน้าที่ในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ และตนไม่มีความเห็นใดๆ ว่า เหตุการณ์จะรุนแรงหรือไม่
** ป.ป.ช.เซ็งจะให้เอาผิด หรือล้างผิดกันแน่
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความพยายามในการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีการแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการให้นิรโทษทุกกลุ่ม ซึ่งอาจกระทบกับการสืบสวนสอบสวนของป.ป.ช. ว่า อาจกระทบต่อหลายๆ คดี ที่ป.ป.ช. กำลังดำเนินการอยู่ เช่น คดีการสลายการชุมนุมเสื้อแดง ที่ ป.ป.ช. กำลังไต่สวน นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ที่เป็นอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งกำลังใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว ขาดเพียงข้อมูลบางอย่างเท่านั้น ทำให้เกิดคำถามตามมาจากผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งญาติผู้เสียชีวิต หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ปรารภผ่านมาถึง ป.ป.ช. ว่า ต้องการแสวงหาข้อเท็จจริง หรือล้างความผิดกันแน่
"ก็มีคำถามว่า เราจะเอาอย่างไรกันแน่ จะแสวงหาข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนทำผิด หรือจะลบล้างความผิดทั้งหมดไปเลย เรื่องนี้สังคมจะต้องให้คำตอบ"นายวิชากล่าว
นายวิชากล่าวว่า แม้การนิรโทษกรรม จะเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ก็ต้องคำนึงถึงอำนาจฝ่ายอื่นด้วย ขณะนี้เชื่อว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่นิ่ง แต่ทาง ป.ป.ช. ได้ติดตามโดยตลอด เพราะต้องมาวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหากมีการบังคับใช้กฎหมาย สำหรับการดำเนินไต่สวนคดีต่างๆ ก็ยังต้องทำต่อไป ขณะนี้ไม่อยากพูดอะไรล่วงหน้า แต่โดยหลักการแล้ว การจะออกกฎหมายใด ต้องยึดหลักนิติธรรม 3 อำนาจหลักของประเทศต้องไม่เข้าไปก้าวก่ายกัน หากมีผลกระทบไปถึงการวินิจฉัยคดีของศาล ก็ต้องระมัดระวัง ต้องมีเหตุผลอธิบายได้
** ระวังรัฐบาลสร้างสถานการณ์ ออกพ.ร.ก.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย คงเดินหน้า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย เพราะการฟอกผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นวาระหลักของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาตั้งแต่ต้น และหาจังหวะ พยายามมาหลายครั้ง โดยเหตุที่เลือกเอาจังหวะนี้ เพราะรัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง ไร้ผลงาน ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ฉะนั้นป่วยการถ้าคิดว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนใจ หรือถอยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ในที่สุด และกลุ่มคัดค้าน ก็มีเพียงกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ประเมินว่าไม่มีพลังเหมือนเดิม ที่สำคัญกองทัพเองก็ไม่รู้ร้อน รู้หนาว กับประเด็นนี้ และมีท่าทีเห็นดีเห็นงามด้วยซ้ำไป
ส่วนกระแสต้านจากคนเสื้อแดง ก็แค่พอเป็นพิธี ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะแกนนำเสื้อแดงจริงๆ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง ส่วนแกนนำนปช. บางคนก็แค่ ดราม่า ตีโพยตีพาย สุดท้ายก็ต้องหยุด เพราะกลัวหลุดโผ ครม. รอบหน้า
ที่สำคัญสังคมต้องจับตารัฐบาลอาจฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ในช่วงพิจารณากฎหมาย วาระ 2 และฉวยโอกาสออกเป็น พ.ร.ก.แทน สอดคล้องกับแผนการในคลิปถั่งเฉ่า ที่มีการหารือเตรียมการกันภายในระหว่างนายกฯ ในฐานะ รมว.กลาโหม ได้มีการเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) โดยอ้างว่า มีการเตรียมการรับผลกระทบกรณีคำตัดสินคดีเขาพระวิหาร แต่แท้ที่จริง มีการหารือ และเตรียมการ กรณีการนิรโทษกรรม ทักษิณด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ยังเดินหน้าจัดประชุมแกนนำองค์กรเครือข่ายทั้ง 77 จังหวัด ในวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค.นี้ เพื่อกำหนดแผนการเคลื่อนไหวคัดค้าน และกำหนดวันดีเดย์
**“นิพิฎฐ์”ชี้ดันพ.ร.บ.นิรโทษโยงล้ม ม.309
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ เสียงข้างน้อย กล่าวถึงกรณีแกนนำที่เป็นส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคน ออกมาคัดค้านว่า ไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยอ้างว่าขอให้ช่วยประชาชนนั้น ก็เป็นเพียงแค่การเล่นปาหี่ เพราะรู้อยู่แล้วว่า กฎหมายหากมีผลบังคับใช้แล้ว ก็ต้องใช้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ว่าด้วยความเสมอภาค และความเท่าเทียมกันกับทุกบุคคล จะไม่มาแบ่งว่าช่วยคนนั้นคนนี้ ซึ่งชัดเจนว่าการออกกฎหมายนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยบรรดาแกนนำและ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สำคัญมีการถกเถียงถึงศักดิ์ และสิทธิ์ ของพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่กรรมาธิการเสียงข้างมากจะใช้ลบล้างคดีของ คตส. ซึ่งโยงถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 โดยกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ยืนยันแล้วว่า จะนำ ร่าง พ.ร.บ. มาลบล้างรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่มีกรรมาธิการเสียงข้างมาก ออกตัวว่า เสียงข้างน้อยอย่าตัดสินแทนศาลรัฐธรรมนูญโดยการตะแบงศักดิ์ศรีของกฎหมายขนาดนั้น ทั้งที่รู้ว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่ออกจะผิดรัฐธรรมนูญก็ยังเอาใจกันสุดๆ
"กฎหมายนี้ออกมาผิดรัฐธรรมนูญแน่นอน จึงอยากถามรัฐบาลว่า จงใจทำผิดกฎหมายทำไม แต่เพิ่งมาถึงบางอ้อเมื่อเห็นข่าว เจ๊สั่งลุย โดยใช้เสียงข้างมาก ดังนั้น หากเรารู้ว่าเสียงข้างมาก หรือรัฐบาลกำลังจะออกกฎหมายที่ผิดกฎหมาย ถ้าไม่สู้ เราก็ทำผิดกฎหมายไปกับเขาด้วย หากรัฐบาลแม้เขาจะอ้าง หรือเล่นคำว่า เป็นเรื่องของสภาที่จะเดินหน้าผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่วาระ 3 เมื่อถึงเวลานั้นเราอยู่เฉยไมได้ ก็ถึงเวลาเป่านกหวีดเพื่อแสดงออกให้เห็นว่า คนในสังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการออกฎหมายที่ผิด และขัดต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรรม หากทำได้ครั้งนี้ หลักกฎหมายบ้านเมืองก็ไม่เหลืออะไรแล้ว" นายนิพิฏฐ์กล่าว
** คำพูด"ประยุทธ์" ไม่มีความหมาย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกมาระบุว่าผลจากการแก้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะไม่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับเงินคืน โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันนั้น คำพูดของนายประยุทธ์เชื่อถือไม่ได้และไม่มีความหมาย เพราะขนาดแกนนำรัฐบาลที่มีบทบาทมากกว่านายประยุทธ์ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายหลายครั้งว่าพ.ร.บ.นิรโทษ เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมเท่านั้น ก็ยังกล้าตระบัดสัตย์