ASTVผู้จัดการรายวัน – ซาบีน่ารุกคืบสอย “สแกนเดิล” เติมเต็มไลน์ชุดชั้นในกลุ่มกระชับสัดส่วน สร้างแกร่งลุยอาเซียน หวังปีหน้ารักษาการเติบโตได้ 20% ขณะที่ปีนี้วืดเป้าเหลือ 15% แตะ3,000 ล้านบาท เหตุกำลังซื้อครึ่งปีหลังหดตัว
นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนการดำเนินธุรกิจสู่การที่ไทยกำลังเข้าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ทางบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์สินค้าให้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มุ่งสร้างแบรนด์ชุดชั้นในซาบีน่าเป็นหลัก และลดสัดส่วนโออีเอ็มให้กับแบรนด์อื่นๆลงในปีที่ผ่านมา
ล่าสุดได้สิทธิ์ในการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ สแกนเดิล (Scandale) ซึ่งเป็นชุดชั้นในกระชับสัดส่วนหรูจากประเทศฝรั่งเศส เข้ามาทดลองจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา จับกลุ่มแฟชั่นกระชับสัดส่วน ระดับราคาตั้งแต่ 1,000-3,000 บาท จากเดิมซาบีน่ามีกลุ่มชุดชั้นในกระชับสัดส่วนอยู่แล้ว มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะทำรายได้ให้บริษัทประมาณ 20 ล้านบาท ทั้งนี้หากประสบความสำเร็จภายใน 2 ปี จะพิจารณาขอไลเซ่นจัดจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียนต่อไป จากปัจจุบันเชื่อว่ามูลค่าตลาดชุดชั้นในกระชับสัดส่วนมีมูลค่าเพียง 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของตลาดรวมชุดชั้นในทั้งหมด ซึ่งในปีนี้ภาพรวมตลาดชุดชั้นในน่าจะเติบโตที่ 5% เช่นปีที่ผ่านมา
“แผนการรุกตลาดหลังการเปิดเออีซี จะต้องมีไลน์แบรนด์สินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในปีหน้าเตรียมจะออกแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ เช่น อาจจะเป็นแบรนด์ชุดชั้นในชาย หรือ เสื้อผ้าแฟชั่น เป็นต้น แต่โดยกลุ่มชุดชั้นในแบรนดืซาบีน่าจะเน้นสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ให้มากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าหลังเปิดเออีซี กลุ่มสินค้าชุดชั้นในระดับล่างจะแข่งขันสูง โอกาสที่ลูกค้าระดับกลางถึงบนจะหันไปซื้อสินค้าราคาถูกย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นทางซาบีน่าจึงมีคอลเล็กชั่น แฮปปี้ไพรซ์ สำหรับจับกลุ่มตลาดล่างด้วยเช่นกัน แต่เชื่อว่าคุณภาพและความจงรักภักดีต่อแบรนด์จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ซาบีน่าเติบโตได้หลังเปิดเออีซี”
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าไทยเป็นฮับตลาดชุดชั้นในในภูมิภาคอาเซียน โดยไทยถือเป็นตลาดที่ชุดชั้นในมีราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆไม่ต่ำกว่า 20% และมีคุณภาพที่ดีกว่า ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะนิยมซื้อชุดชั้นในแบรนด์ไทยสูงมาก
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมซาบีน่าในช่วงครึ่งปีแรกถือว่าดีมาก มีการเติบโตกว่า 20% แต่พอเข้าไตรมาสสามและสี่ กำลังซื้อตกลงจากสภาพเศรษฐกิจ ดังนั้นทั้งปีนี้จึงน่าจะมีอัตราการเติบโตเพียง 15% หรือมีรายได้เพียง 3,000 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะโต 20% ซึ่งเป็นรายได้ไม่รวมการส่งออก และโออีเอ็ม จากปัจจุบันยอดการส่งออกแบรนด์ซาบีน่า คิดเป็น 5% ของ 3,000 ล้านบาท และโออีเอ็มคิดเป็น 10% ของ 3,000 ล้านบาทเช่นกัน ทั้งนี้หลังจากได้แบรนด์สแกนเดิลเข้ามาแล้ว ในปีหน้าหากสถานการณ์ต่างๆอยู่ในภาวะปกติ บริษัทน่าจะกลับมามีอัตราการเติบโตปกติที่ 20% ได้
นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนการดำเนินธุรกิจสู่การที่ไทยกำลังเข้าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ทางบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์สินค้าให้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มุ่งสร้างแบรนด์ชุดชั้นในซาบีน่าเป็นหลัก และลดสัดส่วนโออีเอ็มให้กับแบรนด์อื่นๆลงในปีที่ผ่านมา
ล่าสุดได้สิทธิ์ในการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ สแกนเดิล (Scandale) ซึ่งเป็นชุดชั้นในกระชับสัดส่วนหรูจากประเทศฝรั่งเศส เข้ามาทดลองจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา จับกลุ่มแฟชั่นกระชับสัดส่วน ระดับราคาตั้งแต่ 1,000-3,000 บาท จากเดิมซาบีน่ามีกลุ่มชุดชั้นในกระชับสัดส่วนอยู่แล้ว มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะทำรายได้ให้บริษัทประมาณ 20 ล้านบาท ทั้งนี้หากประสบความสำเร็จภายใน 2 ปี จะพิจารณาขอไลเซ่นจัดจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียนต่อไป จากปัจจุบันเชื่อว่ามูลค่าตลาดชุดชั้นในกระชับสัดส่วนมีมูลค่าเพียง 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของตลาดรวมชุดชั้นในทั้งหมด ซึ่งในปีนี้ภาพรวมตลาดชุดชั้นในน่าจะเติบโตที่ 5% เช่นปีที่ผ่านมา
“แผนการรุกตลาดหลังการเปิดเออีซี จะต้องมีไลน์แบรนด์สินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในปีหน้าเตรียมจะออกแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ เช่น อาจจะเป็นแบรนด์ชุดชั้นในชาย หรือ เสื้อผ้าแฟชั่น เป็นต้น แต่โดยกลุ่มชุดชั้นในแบรนดืซาบีน่าจะเน้นสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ให้มากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าหลังเปิดเออีซี กลุ่มสินค้าชุดชั้นในระดับล่างจะแข่งขันสูง โอกาสที่ลูกค้าระดับกลางถึงบนจะหันไปซื้อสินค้าราคาถูกย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นทางซาบีน่าจึงมีคอลเล็กชั่น แฮปปี้ไพรซ์ สำหรับจับกลุ่มตลาดล่างด้วยเช่นกัน แต่เชื่อว่าคุณภาพและความจงรักภักดีต่อแบรนด์จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ซาบีน่าเติบโตได้หลังเปิดเออีซี”
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าไทยเป็นฮับตลาดชุดชั้นในในภูมิภาคอาเซียน โดยไทยถือเป็นตลาดที่ชุดชั้นในมีราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆไม่ต่ำกว่า 20% และมีคุณภาพที่ดีกว่า ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะนิยมซื้อชุดชั้นในแบรนด์ไทยสูงมาก
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมซาบีน่าในช่วงครึ่งปีแรกถือว่าดีมาก มีการเติบโตกว่า 20% แต่พอเข้าไตรมาสสามและสี่ กำลังซื้อตกลงจากสภาพเศรษฐกิจ ดังนั้นทั้งปีนี้จึงน่าจะมีอัตราการเติบโตเพียง 15% หรือมีรายได้เพียง 3,000 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะโต 20% ซึ่งเป็นรายได้ไม่รวมการส่งออก และโออีเอ็ม จากปัจจุบันยอดการส่งออกแบรนด์ซาบีน่า คิดเป็น 5% ของ 3,000 ล้านบาท และโออีเอ็มคิดเป็น 10% ของ 3,000 ล้านบาทเช่นกัน ทั้งนี้หลังจากได้แบรนด์สแกนเดิลเข้ามาแล้ว ในปีหน้าหากสถานการณ์ต่างๆอยู่ในภาวะปกติ บริษัทน่าจะกลับมามีอัตราการเติบโตปกติที่ 20% ได้