ASTVผู้จัดการรายวัน-เผย 2 จุดยอดนิยม ชาวต่างชาติทิ้งดิ่งฆ่าตัวตายที่สนามบินสุวรรณภูมิ เผยโดดชั้น 2 ส่วนใหญ่ไม่ตาย แค่แข้งขาหัก แต่ชั้น 4 ไม่รอด ทอท.ทุ่ม 30 ล้านทำกระจกกั้น หวั่นภาพลักษณ์เสียหาย
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าว ตั้งแต่เปิดสนามบินสุวรรณภูมิมา 7 ปี เกิดเหตุผู้โดยสารพลัดตกลงมา 5 ราย และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติพลัดตกเสียชีวิต 2 ราย รวมทั้งยังมีการกระโดดฆ่าตัวตาย โดยในช่วง 5 เดือน มีคนกระโดดฆ่าตัวตายแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีอาการเมาสุรา
ทั้งนี้ "ASTVผู้จัดการรายวัน" ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องการฆ่าตัวตายในสนามบินสุวรรณภูมิจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ข้อมูลว่า มีจำนวนเฉลี่ยที่เกิดปัญหากระโดดฆ่าตัวตายปีละ 3-4 คน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะกระโดดจากบริเวณด้านนอกของอาคารจอดรถผู้โดยสารชั้น 2 และชั้น 4 ที่จะเดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร โดยบริเวณชั้น 2 คนที่กระโดดลงมา มักจะไม่ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บแข็งขาหักเป็นประจำ แต่ถ้ากระโดดลงมาจากชั้น 4 ส่วนใหญ่จะไม่รอด
สำหรับปัญหาที่คนต่างชาติมากระโดดฆ่าตัวตายที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น ส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องความรัก ทำให้เกิดการคิดสั้น หรือบางรายสติไม่สบประกอบ หรือเมาสุรา
เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุการกระโดดฆ่าตัวตายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดขึ้นเป็นประจำ ได้เสนอแนะให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จัดทำกระจกด้านนอกของอาคารรับส่งผู้โดยสารชั้น 4 มีความยาวประมาณ 500 เมตร และบริเวณทางเชื่อมประตูเข้าอาคารผู้โดยสารอีก 10 ประตูๆ ละ 20 เมตร รวมเป็นเป็นความยาว 200 เมตร ตลอดแนว โดยผนังเดิมมีความสูงประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวมักปืนข้ามไปแล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย จึงเสนอให้ทำผนังเป็นกระจกให้มีความสูงประมาณ 1.80-2.00 เมตร เพื่อป้องกันการปีนของนักท่องเที่ยวที่จะกระโดดฆ่าตัวตาย
ต่อข้อถามว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ไปกระโดดตึกฆ่าตัวตายบริเวณอาคารจอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวที่มากระโดดฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในพื้นที่บริเวณที่จอดรถด้านนอกของอาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 หรือผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เมื่อเกิดปัญหาทะเลาะหรือประชดประชัน ก็ตัดสินใจทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอีกว่า สถานที่กระโดดฆ่าตัวตายนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น บริเวณห้างสรรพสินค้า อย่างเดอะมอลล์ งามวงษ์วาน ก็เคยเกิดปัญหาการกระโดดตึกลงมากเสียชีวิตที่หน้าโรงพยาบาลนนทเวชเช่นเดียวกัน แต่หลังจากมีปัญหา ก็ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ทอท. เตรียมใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท ดำเนินโครงการติดตั้งผนังกระจกรอบบริเวณทางเข้าด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 2 และชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุพลัดตกจากอาคาร รวมถึงการกระโดดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยและสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อสนามบิน และคาดว่าใช้เวลาติดตั้งประมาณ 5 เดือน แล้วเสร็จในเดือนมี.ค.2557
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าว ตั้งแต่เปิดสนามบินสุวรรณภูมิมา 7 ปี เกิดเหตุผู้โดยสารพลัดตกลงมา 5 ราย และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติพลัดตกเสียชีวิต 2 ราย รวมทั้งยังมีการกระโดดฆ่าตัวตาย โดยในช่วง 5 เดือน มีคนกระโดดฆ่าตัวตายแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีอาการเมาสุรา
ทั้งนี้ "ASTVผู้จัดการรายวัน" ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องการฆ่าตัวตายในสนามบินสุวรรณภูมิจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ข้อมูลว่า มีจำนวนเฉลี่ยที่เกิดปัญหากระโดดฆ่าตัวตายปีละ 3-4 คน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะกระโดดจากบริเวณด้านนอกของอาคารจอดรถผู้โดยสารชั้น 2 และชั้น 4 ที่จะเดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร โดยบริเวณชั้น 2 คนที่กระโดดลงมา มักจะไม่ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บแข็งขาหักเป็นประจำ แต่ถ้ากระโดดลงมาจากชั้น 4 ส่วนใหญ่จะไม่รอด
สำหรับปัญหาที่คนต่างชาติมากระโดดฆ่าตัวตายที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น ส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องความรัก ทำให้เกิดการคิดสั้น หรือบางรายสติไม่สบประกอบ หรือเมาสุรา
เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุการกระโดดฆ่าตัวตายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดขึ้นเป็นประจำ ได้เสนอแนะให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จัดทำกระจกด้านนอกของอาคารรับส่งผู้โดยสารชั้น 4 มีความยาวประมาณ 500 เมตร และบริเวณทางเชื่อมประตูเข้าอาคารผู้โดยสารอีก 10 ประตูๆ ละ 20 เมตร รวมเป็นเป็นความยาว 200 เมตร ตลอดแนว โดยผนังเดิมมีความสูงประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวมักปืนข้ามไปแล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย จึงเสนอให้ทำผนังเป็นกระจกให้มีความสูงประมาณ 1.80-2.00 เมตร เพื่อป้องกันการปีนของนักท่องเที่ยวที่จะกระโดดฆ่าตัวตาย
ต่อข้อถามว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ไปกระโดดตึกฆ่าตัวตายบริเวณอาคารจอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวที่มากระโดดฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในพื้นที่บริเวณที่จอดรถด้านนอกของอาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 หรือผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เมื่อเกิดปัญหาทะเลาะหรือประชดประชัน ก็ตัดสินใจทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอีกว่า สถานที่กระโดดฆ่าตัวตายนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น บริเวณห้างสรรพสินค้า อย่างเดอะมอลล์ งามวงษ์วาน ก็เคยเกิดปัญหาการกระโดดตึกลงมากเสียชีวิตที่หน้าโรงพยาบาลนนทเวชเช่นเดียวกัน แต่หลังจากมีปัญหา ก็ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ทอท. เตรียมใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท ดำเนินโครงการติดตั้งผนังกระจกรอบบริเวณทางเข้าด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 2 และชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุพลัดตกจากอาคาร รวมถึงการกระโดดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยและสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อสนามบิน และคาดว่าใช้เวลาติดตั้งประมาณ 5 เดือน แล้วเสร็จในเดือนมี.ค.2557
