เอพี-ตำรวจซานฟรานซิสโกรวบหนุ่มไทย ยิงนักศึกษาดับบนรถไฟ ท่ามกลางคนบนรถไฟเพียบ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น โดยใช้หลักฐานจากกล่องวงจรปิดรวบตัว
หนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโกโครนิเคิล รายงานว่า ตำรวจซานฟรานซิสโกได้จับกุมนายนิคม เทพเกสร (Nikhom Thephakaysone) ผู้ต้องหาวัย 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรมนายจัสติน วัลเดซ นักศึกษาวัย 20 ปี ของมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกสเตท ซึ่งถูกยิงเข้าที่ท้ายทอยขณะกำลังลงจากรถไฟ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.25556 แต่นายนิคมได้ปฏิเสธ
โดยสกอตต์ คลาร์ก ผู้ช่วยอัยการ ระบุว่า ในคืนเดียวกันก่อนจะยิงนายวัลเดซเสียชีวิต เขาได้ใช้ปืนพกจ่อที่หลังของชายคนหนึ่งมาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นเขายังไม่ตัดสินใจลั่นกระสุน แต่ไล่ล่าหาเหยื่อคนต่อไปเป็นเวลานานกว่าชั่วโมง และมีช่วงหนึ่งที่เขายกปืนขึ้นวาดไปมาอยู่นอกร้านอาหารไทย
สำหรับหลักฐานที่ใช้ในการจับกุม มาจากกล้องวีดิโอวงจรปิด ที่เปิดเผยให้เห็นว่า มือปืนรายนี้ชักปืนขนาด .45 มม. แล้วยกปืนขึ้นเล็งไปยังทางเดินระหว่างที่นั่งหลายครั้ง ขณะอยู่บนขบวนรถไฟที่แน่นขนัดในซานฟรานซิสโก และได้ยิงนักศึกษาคนดังกล่าวเสียชีวิต ก่อนจะนำปืนมาเหน็บเข้าที่ข้างลำตัวเหมือนเดิม โดยบรรดาผู้โดยสารที่อยู่บนรถไฟกลับเอาแต่จดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตจนไม่ทันได้สังเกตเห็น
“การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างเปิดเผย สามารถเห็นปืนได้ชัดเจนมาก” จอร์จ กัสคอน อัยการเขตระบุ
โดยผู้โดยสารเหล่านี้อยู่ใกล้เขามาก แต่ไม่มีใครเห็น เพราะพวกเขาเอาแต่หมกมุ่นกับการพิมพ์ข้อความ อ่านหนังสือ หรืออะไรทำนองนั้น พวกเขาไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเลยแม้แต่น้อย
ตำรวจซานฟรานซิสโกเตือนว่า คนที่เอาแต่จดจ่ออยู่กับอุปกรณ์ดิจิตอลมากๆ นั้นเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของพวกมิจฉาชีพ
“บ่อยครั้งเมื่อคุณสัมภาษณ์คนที่ถูกขโมยโทรศัพท์มือถือ ถ้าคุณขอให้เขาอธิบายว่าคนที่ขโมยมาจากทางไหน สวมเสื้อผ้าแบบไหน พวกเขาจะตอบไม่ได้” ผู้กำกับการตำรวจเกร็ก ซูห์ร กล่าว
นอกจากนี้ นายนิคมยังถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย หลังจากที่ตำรวจได้ยึดปืนไรเฟิล 2 กระบอก มีดต่อสู้ และมีดโกนอีกหลายเล่มได้ที่บ้านของเขา
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เขาพกเงินสดติดตัว 20,000 เหรียญสหรัฐ ขณะถูกจับกุม
หนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโกโครนิเคิล รายงานว่า ตำรวจซานฟรานซิสโกได้จับกุมนายนิคม เทพเกสร (Nikhom Thephakaysone) ผู้ต้องหาวัย 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรมนายจัสติน วัลเดซ นักศึกษาวัย 20 ปี ของมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกสเตท ซึ่งถูกยิงเข้าที่ท้ายทอยขณะกำลังลงจากรถไฟ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.25556 แต่นายนิคมได้ปฏิเสธ
โดยสกอตต์ คลาร์ก ผู้ช่วยอัยการ ระบุว่า ในคืนเดียวกันก่อนจะยิงนายวัลเดซเสียชีวิต เขาได้ใช้ปืนพกจ่อที่หลังของชายคนหนึ่งมาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นเขายังไม่ตัดสินใจลั่นกระสุน แต่ไล่ล่าหาเหยื่อคนต่อไปเป็นเวลานานกว่าชั่วโมง และมีช่วงหนึ่งที่เขายกปืนขึ้นวาดไปมาอยู่นอกร้านอาหารไทย
สำหรับหลักฐานที่ใช้ในการจับกุม มาจากกล้องวีดิโอวงจรปิด ที่เปิดเผยให้เห็นว่า มือปืนรายนี้ชักปืนขนาด .45 มม. แล้วยกปืนขึ้นเล็งไปยังทางเดินระหว่างที่นั่งหลายครั้ง ขณะอยู่บนขบวนรถไฟที่แน่นขนัดในซานฟรานซิสโก และได้ยิงนักศึกษาคนดังกล่าวเสียชีวิต ก่อนจะนำปืนมาเหน็บเข้าที่ข้างลำตัวเหมือนเดิม โดยบรรดาผู้โดยสารที่อยู่บนรถไฟกลับเอาแต่จดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตจนไม่ทันได้สังเกตเห็น
“การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างเปิดเผย สามารถเห็นปืนได้ชัดเจนมาก” จอร์จ กัสคอน อัยการเขตระบุ
โดยผู้โดยสารเหล่านี้อยู่ใกล้เขามาก แต่ไม่มีใครเห็น เพราะพวกเขาเอาแต่หมกมุ่นกับการพิมพ์ข้อความ อ่านหนังสือ หรืออะไรทำนองนั้น พวกเขาไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเลยแม้แต่น้อย
ตำรวจซานฟรานซิสโกเตือนว่า คนที่เอาแต่จดจ่ออยู่กับอุปกรณ์ดิจิตอลมากๆ นั้นเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของพวกมิจฉาชีพ
“บ่อยครั้งเมื่อคุณสัมภาษณ์คนที่ถูกขโมยโทรศัพท์มือถือ ถ้าคุณขอให้เขาอธิบายว่าคนที่ขโมยมาจากทางไหน สวมเสื้อผ้าแบบไหน พวกเขาจะตอบไม่ได้” ผู้กำกับการตำรวจเกร็ก ซูห์ร กล่าว
นอกจากนี้ นายนิคมยังถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย หลังจากที่ตำรวจได้ยึดปืนไรเฟิล 2 กระบอก มีดต่อสู้ และมีดโกนอีกหลายเล่มได้ที่บ้านของเขา
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เขาพกเงินสดติดตัว 20,000 เหรียญสหรัฐ ขณะถูกจับกุม