"โอ๊ค"โพสต์เฟซบุ๊ก เย้ยปชป.ผลัดใบ เปลี่ยนจากยุค"มีดโกนอาบน้ำผึ้ง" มาเป็น " มีดโกนเคลือบอาจม" แถมปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้ติดอยู่กับพฤติกรรมหยาบคาย เตือนหากไม่เลิกจะเจอฤทธิ์ "อาโอ๊ค"
บ่ายวานนี้ (6ต.ค.) นายพานทองเเท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ผลไม้จากต้นไม้การเมืองที่มีอายุ 60 กว่าปีต้นหนึ่ง ซึ่งเพิ่งจะผลัดใบไปเมื่อไม่นานนี้ จะเป็นพิษเหมือนต้นที่ผมได้พูดถึงในโพสต์ที่แล้วหรือไม่ การกระทำจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ..!! หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ "ประชาธิปัตย์ผลัดใบ" ไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ถึง 2 ครั้ง 2 ครา จึงประสบความสำเร็จ กลุ่มผลัดใบสามารถคว่ำขั้วอำนาจเก่าในพรรคฯ ได้สำเร็จ และอันเชิญผู้อาวุโสทั้งหลายไปนั่งตบยุง อยู่ในสภาที่ปรึกษาของพรรคฯเป็นที่เรียบร้อย
อาฟเตอร์ช็อคของการผลัดใบยังมีปรากฏ ให้แฟนคลับได้ช็อคติดๆกันหลายเรื่องครับ เมื่อกลุ่มเด็กๆ เทกโอเวอร์พรรคฯ จากผู้อาวุโสมาเรียบร้อย ก็เปลี่ยนคาแรคเตอร์เดิมในอดีต จาก "มีดโกนอาบน้ำผึ้ง" ที่เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแม่ยกสมัยก่อน เปลี่ยนมาเป็น "มีดโกนเคลือบอาจม" ที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน เพราะคำพูดหัวหน้าพรรคฯ คนปัจจุบัน อุดมไปด้วยถ้อยคำกักขฬะ หยาบคาย เช่น เหี้ย แรด กระหรี่ อีโง่ ไม่หลงเหลือวี่แววของคำพูดที่เชือดเฉือน แต่แฝงไว้ด้วยท่าทีที่สุภาพอ่อนน้อม อันเป็นเสน่ห์ดึงดูดความนิยม ดังเช่นหัวหน้าพรรคฯ ในอดีตเลย
คนเราพูดหยาบคาย ถึงขั้นพูดเหี้ยๆ ออกมา มิตรรักแฟนคลับที่เป็นผู้ดี หรือเป็นคนจิตใจดีจริงๆ จะทนฟังไม่ไหวหายกลับบ้านหมดครับ เหลือแต่พวกที่สะใจกับคำ โง่ๆ เหี้ยๆ ที่หัวหน้าพรรคฯ นิยมพูด คนพวกนี้จะคอยส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอยู่หน้าเวที เป็นกำลังใจแฝงที่พอจะช่วยให้ปลอบใจตนเองได้ว่า การพูดจาหยาบคายนี้ พรรคฯเรามาถูกทางแล้ว จะกลับตัวกลับใจไปพูดแบบสุภาพ เลิกดูถูกเพศแม่ก็ทำไม่ได้ เพราะคนที่ชอบความสุภาพเขากลับบ้านเลิกฟังไปนานแล้ว หากกลับไปสุภาพอีก ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแม่ยกแฟนคลับประเภทฮาร์ดคอร์ไม่ได้ เพราะพูดจาแบบผู้ดี คนพวกนี้ฟังกันไม่รู้เรื่องครับ
ลำพังพูดหยาบคายอย่างเดียวก็ว่าแย่แล้ว ปัจจุบันยังเพาะบ่มเยาวชนของชาติ ให้หลงผิดไปร่วมสังฆกรรมด้วยเพียบเลยครับ จัดอบรมอะไรต่างๆ นานา แล้วคัดเอาประเภทที่พูดจาหยาบคาย ประเภทเดียวกับหัวหน้าพรรคฯ เข้ามาร่วมทำงานการเมืองกับพรรคฯ ด้วย ความหยาบคายที่พี่น้องประชาชนเมื่อก่อน อาจไม่ค่อยเห็นในการเมือง เดี๋ยวนี้เป็นกันทั้งพรรคฯ แล้วครับ ไม่ใช่หยาบคายอย่างเดียว ประเภทข้อมูลโกหกพกลม หลอกต้มสลิ่มแมลงสาบ มากันครบเครื่อง โชคดีที่เดี๋ยวนี้ในโลกไซเบอร์ ในโซเชียลมีเดียหลอกกันได้ยากครับ สาวกพรรคฯ เก่าแก่ ถูกจับโกหกกันได้กันระเนระนาด ตายกันเกลื่อนเน็ตไปหมด
บอกกติกากันไว้อีกที สำหรับมือใหม่ที่อาจยังไม่ทราบนะครับ ประเภทเด็กใหม่ที่อยากแจ้งเกิดทางการเมือง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงคิดจะใช้วิธีลัด ด้วยการเล่นคำหยาบคาย และโกหกพกลมต่างๆ นานานั้น พูดมาเท่าไหร่นายตัวเองโดนกลับไปสิบเท่าครับ นายใครนายมันรับผิดชอบ "ตบปากลูกน้องตัวเอง" เอาเองก็แล้วกัน ดังนั้นพวกลิ่วล้อทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้ลูกพี่เดือดร้อน ก็พูดโดยอย่าแกว่งปากลงต่ำครับ
จำกันง่ายๆไว้ละกันครับ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ คิดจะทำตัวเป็นต้นไม้พิษ ที่แพร่พันธุ์ผลไม้พิษ ให้กับเยาวชนต่อไป ให้ระมัดระวังผลไม้พิษ 7 ประเภทนี้ไว้ให้ดีครับ ประกอบด้วย "พูดจาหยาบคาย เดินสายโกหก ชกตำรวจสภาฯ ขว้างปาสิ่งของ จ้องโค่นรัฐบาล ค้านการพัฒนาไทย ใส่ร้ายนายกฯปู" ผลไม้พิษที่ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางการเมืองทั้ง 7 นี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เลิกประพฤติไม่ได้ละก็ เจอฤทธิ์ "อาโอ๊ค" แน่นอนครับ "
บ่ายวานนี้ (6ต.ค.) นายพานทองเเท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ผลไม้จากต้นไม้การเมืองที่มีอายุ 60 กว่าปีต้นหนึ่ง ซึ่งเพิ่งจะผลัดใบไปเมื่อไม่นานนี้ จะเป็นพิษเหมือนต้นที่ผมได้พูดถึงในโพสต์ที่แล้วหรือไม่ การกระทำจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ..!! หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ "ประชาธิปัตย์ผลัดใบ" ไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ถึง 2 ครั้ง 2 ครา จึงประสบความสำเร็จ กลุ่มผลัดใบสามารถคว่ำขั้วอำนาจเก่าในพรรคฯ ได้สำเร็จ และอันเชิญผู้อาวุโสทั้งหลายไปนั่งตบยุง อยู่ในสภาที่ปรึกษาของพรรคฯเป็นที่เรียบร้อย
อาฟเตอร์ช็อคของการผลัดใบยังมีปรากฏ ให้แฟนคลับได้ช็อคติดๆกันหลายเรื่องครับ เมื่อกลุ่มเด็กๆ เทกโอเวอร์พรรคฯ จากผู้อาวุโสมาเรียบร้อย ก็เปลี่ยนคาแรคเตอร์เดิมในอดีต จาก "มีดโกนอาบน้ำผึ้ง" ที่เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแม่ยกสมัยก่อน เปลี่ยนมาเป็น "มีดโกนเคลือบอาจม" ที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กัน เพราะคำพูดหัวหน้าพรรคฯ คนปัจจุบัน อุดมไปด้วยถ้อยคำกักขฬะ หยาบคาย เช่น เหี้ย แรด กระหรี่ อีโง่ ไม่หลงเหลือวี่แววของคำพูดที่เชือดเฉือน แต่แฝงไว้ด้วยท่าทีที่สุภาพอ่อนน้อม อันเป็นเสน่ห์ดึงดูดความนิยม ดังเช่นหัวหน้าพรรคฯ ในอดีตเลย
คนเราพูดหยาบคาย ถึงขั้นพูดเหี้ยๆ ออกมา มิตรรักแฟนคลับที่เป็นผู้ดี หรือเป็นคนจิตใจดีจริงๆ จะทนฟังไม่ไหวหายกลับบ้านหมดครับ เหลือแต่พวกที่สะใจกับคำ โง่ๆ เหี้ยๆ ที่หัวหน้าพรรคฯ นิยมพูด คนพวกนี้จะคอยส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอยู่หน้าเวที เป็นกำลังใจแฝงที่พอจะช่วยให้ปลอบใจตนเองได้ว่า การพูดจาหยาบคายนี้ พรรคฯเรามาถูกทางแล้ว จะกลับตัวกลับใจไปพูดแบบสุภาพ เลิกดูถูกเพศแม่ก็ทำไม่ได้ เพราะคนที่ชอบความสุภาพเขากลับบ้านเลิกฟังไปนานแล้ว หากกลับไปสุภาพอีก ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแม่ยกแฟนคลับประเภทฮาร์ดคอร์ไม่ได้ เพราะพูดจาแบบผู้ดี คนพวกนี้ฟังกันไม่รู้เรื่องครับ
ลำพังพูดหยาบคายอย่างเดียวก็ว่าแย่แล้ว ปัจจุบันยังเพาะบ่มเยาวชนของชาติ ให้หลงผิดไปร่วมสังฆกรรมด้วยเพียบเลยครับ จัดอบรมอะไรต่างๆ นานา แล้วคัดเอาประเภทที่พูดจาหยาบคาย ประเภทเดียวกับหัวหน้าพรรคฯ เข้ามาร่วมทำงานการเมืองกับพรรคฯ ด้วย ความหยาบคายที่พี่น้องประชาชนเมื่อก่อน อาจไม่ค่อยเห็นในการเมือง เดี๋ยวนี้เป็นกันทั้งพรรคฯ แล้วครับ ไม่ใช่หยาบคายอย่างเดียว ประเภทข้อมูลโกหกพกลม หลอกต้มสลิ่มแมลงสาบ มากันครบเครื่อง โชคดีที่เดี๋ยวนี้ในโลกไซเบอร์ ในโซเชียลมีเดียหลอกกันได้ยากครับ สาวกพรรคฯ เก่าแก่ ถูกจับโกหกกันได้กันระเนระนาด ตายกันเกลื่อนเน็ตไปหมด
บอกกติกากันไว้อีกที สำหรับมือใหม่ที่อาจยังไม่ทราบนะครับ ประเภทเด็กใหม่ที่อยากแจ้งเกิดทางการเมือง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงคิดจะใช้วิธีลัด ด้วยการเล่นคำหยาบคาย และโกหกพกลมต่างๆ นานานั้น พูดมาเท่าไหร่นายตัวเองโดนกลับไปสิบเท่าครับ นายใครนายมันรับผิดชอบ "ตบปากลูกน้องตัวเอง" เอาเองก็แล้วกัน ดังนั้นพวกลิ่วล้อทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้ลูกพี่เดือดร้อน ก็พูดโดยอย่าแกว่งปากลงต่ำครับ
จำกันง่ายๆไว้ละกันครับ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ คิดจะทำตัวเป็นต้นไม้พิษ ที่แพร่พันธุ์ผลไม้พิษ ให้กับเยาวชนต่อไป ให้ระมัดระวังผลไม้พิษ 7 ประเภทนี้ไว้ให้ดีครับ ประกอบด้วย "พูดจาหยาบคาย เดินสายโกหก ชกตำรวจสภาฯ ขว้างปาสิ่งของ จ้องโค่นรัฐบาล ค้านการพัฒนาไทย ใส่ร้ายนายกฯปู" ผลไม้พิษที่ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางการเมืองทั้ง 7 นี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เลิกประพฤติไม่ได้ละก็ เจอฤทธิ์ "อาโอ๊ค" แน่นอนครับ "
