xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกฟ้องเอเอสทีวี คดีหมิ่น"ดำรงค์พิเดช"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

    ASTV ผู้จัดการรายวัน-  อุทธรณ์ยืนยกฟ้องเอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน คดี “ดำรงค์ พิเดช” อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ฟ่องหมิ่นฯ กรณีตีพิมพ์รายงานการบุกรุกป่าไม้ ใน จ.เชียงราย ศาลชี้เสนอข่าว ประเด็นสาธารณะมีความสำคัญต่อประเทศ เป็นการตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงที่สื่อให้ความสนใจ หาใช่เป็นเรื่องที่สร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง อีกทั้งเป็นการแสดงความคิดเห็น ติชม และวิพากษ์วิจารณ์เป็นวิสัยของประชาชนย่อมทำได้
          
    วานนี้ ( 8 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำ อ.4607/2552 ที่ นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท เอเอสทีวี ผู้จัดการ จำกัด และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา บริษัท เอเอสทีวี ผู้จัดการ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และเรียกค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.ตำบลหรือแขวง อำเภอหรือเขต ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

    คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันเขียนโฆษณาและอนุมัติให้ตีพิมพ์ข้อความลงในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน หมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อประชาชนทั่วไป โดยจัดทำเป็นรายงานข่าวกรณีพิเศษ มีความยาว 3 ตอนจบ และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 โดยตอนแรก ใช้ข้อความหัวข่าวว่า “เปิดกลโกงขบวนการฮุบป่าเชียงราย ส่วนหัวหน้าเอี้ยงใช้เล่ห์สวมคนตายเป่าคดี” ขณะที่ รายงานพิเศษ ตอนที่ 2 หัวข้อข่าว “เปิดกลโกงขบวนการฮุบป่าเชียงราย (ตอนที่ 2) เล่ห์ป่าไม้-ที่ดินร่วมเอกชนฮุบสวนป่าราชการ” และตอนที่ 3 หัวข้อข่าว “เปิดกลโกงขบวนการฮุบป่าเชียงราย (จบ) เดิมพันสูงคดีมีตอ”     โดยเนื้อหาที่พิมพ์มีใจความถึงชื่อที่พ้องกับชื่อเล่นของโจทก์  คือ “เอี้ยง”  ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2555 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการที่หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน เสนอรายงานข่าวเกี่ยวกับประเด็นสาธารณะและมีความสำคัญต่อประเทศ และเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นการตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมของโจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง เป็นบุคคลที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าในจังหวัดเชียงรายหรือไม่เท่านั้น กรณีหาใช่เป็นเรื่องที่หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน สร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง ไม่มีรายงานข่าวตามเอกสาร จะมีข้อความเกี่ยวพันกับโจทก์ อันอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเชื่อและเข้าใจว่าโจทก์ได้กระทำการตามที่รายงานข่าวระบุไว้จริง และรายงานข่าวดังกล่าวก็เป็นการแสดงความคิดเห็น ติชม และวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ จำเลยที่ 1 จึงได้รับการยกเว้นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) และไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ของให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย

    ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า ข้อความดังกล่าว เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและควรจะได้รับรู้ อีกทั้งการที่จำเลยที่ 1 เสนอข่าวก็เป็นไปตามข้อมูลจากการสอบสวนข้อเท็จจริงของตำรวจ และเป็นข่าวแพร่หลายในขณะนั้น ซึ่งควรจะให้สังคมได้รับทราบ แม้ข้อความบางช่วงบางตอนเป็นการกล่าวเกินเลยไปบ้าง แต่ก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ จำเลยที่ 1 จึงได้รับการยกเว้นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นในส่วนคดีแพ่งอีก อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนให้ยกฟ้อง

    สำหรับ นายดำรงค์ พิเดช เคยโด่งดังมากในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เป็นใกล้ชิดกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และทันทีที่รับตำแหน่งก็มีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกรม นอกจากนี้พื้นที่ตรวจสอบที่คณะกรรมการสืบสวนเชื่อว่า บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติแปลงหนึ่ง คือ พื้นที่ประมาณ 49 ไร่ ซึ่งเดิมที่ตรวจสอบพบรอบแรกแปลงสภาพเป็นสวนลิ้นจี่ เป็นที่ดินซึ่งชาวบ้านหมู่บ้านแม่ข้าวต้น เรียกขานว่า “สวนหัวหน้าเอี้ยง” ซึ่งช่างบังเอิญที่นายดำรงค์ พิเดช  ก็มีชื่อเล่นว่า “เอี้ยง” พ้องกัน อีกทั้งนายดำรงค์ พิเดช เคยเป็นป่าไม้จังหวัดเชียงราย และป่าไม้เขตเชียงราย รับราชการในพื้นที่มายาวนานก่อนจะกระโดดขึ้นเติบโตในกรุงเทพฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น