ลำปาง - เจ้าของพังแตงโม ช้างของกลางที่เคยถูก “ดำรงค์ พิเดช” นำ จนท.ตรวจยึด ผิดหวังหนักหลังเดินทางมารับช้างกลับ ตามศาลสั่งยกฟ้อง คืนของกลาง กลับพบป่วยหนักลุกไม่ได้ ส่อไม่รอด เตรียมเรียกร้องรัฐเยียวยาเป็นลูกช้างคืน
เช้าวันนี้ (10 ก.ย.) นายเนติวิน อมรสินทร์ ควาญช้าง และเจ้าของพังแตงโม นายวิชัย แสงงาม เจ้าของช้างคนเดิม มาที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อขอรับตัวพังแตงโมวัย 3 ปีเศษกลับบ้าน หลังศาลมีคำสั่งยกฟ้อง และให้คืนของกลางคือ พังแตงโม ที่นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (ในขณะนั้น) พร้อมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าใน จ.สุรินทร์ และ จ.อุบลราชธานี กว่า 100 นาย เข้ายึดพังแตงโม อายุ 2 ปี 6 เดือน และช้างอีก 157 เชือก ในหมู่บ้านช้าง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 โดยระบุว่า พังแตงโม ไม่มีตั๋วรูปพรรณ และใช้รถบรรทุก 10 ล้อ นำส่งมาที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
นายวิชัย กล่าวว่า หลังมาดูช้างพังแตงโม แล้วสลดใจมาก เนื่องจากลุกเดินไม่ได้ เพราะขาหลังทั้ง 2 ข้างเป็นอัมพาต สัตว์แพทย์ระบุว่า กระดูกทับเส้นประสาท ต้องนอนอย่างเดียว จนบริเวณสะโพกเกิดแผลกดทับทั้ง 2 ข้าง รวมถึงบริเวณลำตัวอีกหลายแห่ง กินอาหารได้น้อยลง จึงไม่สามารถนำตัวลูกช้างกลับบ้านได้ ซึ่งจะให้มีการพิสูจน์ว่า ลูกช้างป่วยหนัก และเดินไม่ได้นั้นเกิดจากสาเหตุใด เพราะเคยถามเจ้าหน้าที่ก็ได้คำตอบว่า ลูกช้างลงไปเล่นน้ำแล้วมีช้างตัวใหญ่เดินผ่าน ลูกช้างตกใจจึงเอี้ยวตัวหนีจนกระดูกทับเส้นประสาท ขาทั้ง 2 ข้างพิการ แต่เมื่อถามผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากเป็นเพียงการเอี้ยวตัวก็ไม่น่าจะถึงขั้นกระดูกทับเส้นประสาท นอกจากจะได้รับการกระทบอย่างแรงเท่านั้น ตนจึงไม่ปักใจเชื่อสาเหตุที่ลูกช้างเดินไม่ได้ และอยากทราบวิธีการดูแลช้างของกลางว่าดูแลได้ดีขนาดไหน
ทั้งนี้ ได้ให้สัตวแพทย์ออกใบรับรอง และลำดับขั้นตอนการรักษาให้ เพื่อนำใช้ในการเรียกร้องให้หน่วยงานเยียวยาเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากคาดว่าลูกช้างคงไม่รอดแน่นอน ซึ่งตนจะไม่รับการเยียวยาเป็นตัวเงิน แต่ต้องการให้ทางราชการเยียวยาเป็นตัวลูกช้างกลับคืนมาเช่นเดียวกัน
ด้านนายสัตวแพทย์ ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย กล่าวว่า หลังจากรับพังแตงโม มายังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ก็ได้ดูแลอย่างดี แต่เนื่องจากลูกช้างไม่ได้ดื่มนมแม่มาตั้งแต่เกิด ทำให้กระดูกอ่อน ซึ่งตรวจอาการเบื้องต้นก็พบว่า ลูกช้างไม่สมบูรณ์ ชักกระตุกบ้าง ขาโก่งงอบ้าง และเคยแนะนำว่าไม่ควรนำมาอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ควรให้เจ้าของดูแล แต่เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยึด และส่งมาให้ทางศูนย์ดูแล ทางศูนย์ฯ จึงต้องทำตามหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ และดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากลูกช้างไม่แข็งแรง
จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกช้างเอี้ยวตัวแรงจนกระดูกสันหลังได้กดทับเส้นประสาท ทำให้ขาหลังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งทางสัตวแพทย์ได้ประคับประคองโดยการใช้รอกช่วยพยุงตัววันละ 2 ครั้ง ฝังเข็ม และกระตุ้นด้วยไฟฟ้าวันละ 2 ครั้ง ให้สัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำกายภาพบำบัดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ก็ยังทำให้เกิดแผลกดทับ โดยเฉพาะแผลบริเวณสะโพกทั้ง 2 ข้างที่ค่อนข้างลึก แต่ไทำความสะอาดทุกวัน วันละ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดช้างพังแตงโม อาการทรุดลง เนื่องจากกินอาหารได้น้อย น้ำหนักตัวลดลงจาก 400 กิโลกรัม เหลือเพียง 300 กิโลกรัม ซึ่งสัตวแพทย์ทุกคนให้การดูแลอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะให้อาหารเสริม แคลเซียม แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น คาดว่าลูกช้างจะอยู่ได้ไม่เกิน 2 เดือน ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้เจ้าของนำกลับบ้าน เนื่องจากไม่สะดวกในการขนย้าย และรักษาพยาบาลด้วย