จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกกับผู้ที่ไปพบในช่วงที่เดินทางมาฮ่องกง และมาเก๊า ว่า จะมีการปรับครม.อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเคลียร์บิลเก่า ก่อนที่จะมีการยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยมีรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายถูกปรับออก อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข
เมื่อวานนี้ (3ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไปเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนามอบนโยบายการบริหารราชการ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงกระแสข่าวดังกล่าว แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มให้ผู้สื่อข่าว แล้วเดินผ่านกลุ่มผู้สื่อข่าวออกไปขึ้นรถ
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Noppadon Patama ว่าข่าวดังกล่าวไม่น่าจะเป็นความจริง
"ข่าวนี้มาอย่างไรไม่ทราบเลยครับ ไม่รู้กุข่าว เต้าข่าว หรือมีแหล่งข่าวที่มองไม่เห็น"
"ความจริงการปรับ ครม. เพิ่งผ่านไปเพียงสามเดือน คงไม่ถี่เหมือนการเปลี่ยนตัวนักเล่นวอลเล่ย์บอลหญิงของโค้ชเป็นแน่ ในอนาคตก็คงมีการปรับ ส่วนจะปรับเมื่อใด คนที่ให้คำตอบได้น่าจะเป็นท่านนายกฯ " นายนพดล ระบุ
ขณะที่ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงนั้น เป็นเรื่องปกติของคนที่รู้จัก ก็ไปมาหาสู่กัน แต่จะนำไปสู่การปรับครม.หรือไม่นั้น ตนมองว่าการปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ และตามความเหมาะสมในการทำงาน ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ทำงานเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่า มีคำแนะนำจากพ.ต.ท.ทักษิณบ้าง แต่สุดท้ายการตัดสินใจก็อยู่ที่นายกฯยิ่งลักษณ์
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเพียงข่าวลือ ขณะนี้ยังไม่สัญญาณใดจากนายกรัฐมนตรี เชื่อว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้น ไม่ใช่คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรง แต่น่าจะเกิดจากคนที่ไปเยี่ยมแล้ววิเคราะห์กันเอง
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ภายในเดือน ต.ค.นี้ว่า จากการที่เคยได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณโดยตรงเมื่อไม่นานมานี้ คิดว่าการปรับ ครม.น่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีหรือขึ้นปีใหม่มากกว่า น่าจะรอฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเรียบร้อยก่อน ทราบว่าจะอภิปรายก่อนปิดสมัยประชุมราว 1 - 2 สัปดาห์ หรือประมาณกลางเดือนพ.ย. ส่วนตัวมองว่าตอนนี้ ครม.ยังทำงานได้ดี การปรับ ครม.ครั้งล่าสุดเพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือน หากครบ 6 เดือนแล้วปรับถือว่าลงตัว
“วันนี้คิดว่ามีเหตุผลเดียวที่จะปรับได้คือ รัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องการถือครองหุ้น อาจจะให้พักไปก่อนเพื่อตัดปัญหา แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะใช้โอกาสนี้ปรับ ครม.ในบางตำแหน่ง เรื่องนี้คงต้องถามนายกฯยิ่งลักษณ์”นายสมคิด ระบุ
ส่วนนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีชื่อจะถูกปรับออก ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด และได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้สัมภาษณ์เฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับการทำงานในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ไม่ขอพูดในประเด็นการเมือง โดยเฉพาะการปรับครม.
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีการถือหุ้นเกินตามกฎหมายกำหนด จนอาจจะเป็นเหตุให้ถูกปรับออกจากครม. ตามที่มีข่าวว่า อยากให้ไปถามนักกฎหมาย โดยเฉพาะ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักกฎหมายของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งจะทราบดีว่า ตนไม่มีเจตนาปกปิดอะไร และตนก็ได้ปรึกษาเรื่องหุ้นกับนายพงศ์เทพ มาโดยตลอด
เมื่อถามว่ามีสัญญาณการปรับครม. มาก่อนหน้านี้หรือไม่ นายวิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณอะไร ทั้งจากนายกรัฐมนตรี และครม.เลย ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ตนพูดตั้งแต่วันแรกที่ได้รับตำแหน่งแล้วว่า เมื่อมีวันมา ก็ต้องมีวันไป ตนไม่มีปัญหาอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วงระยะเวลาที่ตนมาดำรงตำแหน่งนี้ ตนทำงานหนัก และตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่แล้ว
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่่าจะถูกปรับออกจากครม. ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่ที่ผ่านมาพอใจการทำงานของตัวเองในหลายด้าน และทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด การปรับครม.เป็นเรื่องของนายกฯ ที่จะดำเนินการตามความเหมาะสม ส่วนตนนั้นเป็นผู้แทนราษฎรแบบสู้งาน ไม่ว่าจะอยู่สถานะใด ก็สามารถทำหน้าที่ได้ หากตนถูกปรับออก ก็ไม่น้อยใจอะไร
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่ม นปช. กล่าวว่า การปรับ ครม.ที่มีการระบุว่า อาจจะมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้าไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ ผ่านงานมามาก ทั้งรองประธานสภาฯ และเป็น ส.ส.หลายสมัย อีกทั้งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ แต่การตัดสินใจจะปรับใครเข้าหรืออก อยู่ที่นายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีกระแสข่าวการปรับ ครม.ทุกครั้ง มักมีชื่อ นายจตุพร ในฐานะแคนดิเดตมาโดยตลอด แต่ก็ยังพลาดหวังทุกรอบ ในส่วนของ ส.ส.ที่เป็นคนเสื้อแดงมองอย่างไร นายชินวัฒน์ กล่าวว่า นายจตุพร มีส่วนช่วยพรรคและรัฐบาลมาตั้งแต่ยังไม่เป็นส.ส. ทุ่มเทสุดตัวเรื่องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่าคิดว่าคนเสียสละไม่ต้องการอะไร หากยังไม่สามารถตัดกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง ความต้องการย่อมมี ถ้ามีการปรับครม.จริงๆ อยากให้คำนึงถึงนายจตุพร บ้าง ไม่ได้เป็นสายล่อฟ้า บางคนที่เป็นรัฐมนตรีก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ยังเป็นได้ แม้นายจตุพร มีแผลแต่ก็เป็นแผลมาจากการต่อสู้
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองถึงการขอเพิ่มโควตารัฐมนตรีคนเสื้อแดงหรือไม่ เพราะหากให้ พ.อ.อภิวันท์ หรือนายจตุพรเข้าไปเป็นรัฐมนตรี อาจต้องปรับนายณัฐวุฒิออก นายชินวัฒน์ กล่าวว่า การปรับ ครม.ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนสินค้า เอานายณัฐวุฒิออก เอานายจตุพรเข้าไป เพราะนายณัฐวุฒิ ก็ทำงานดี ส่วนนายจตุพรก็ทำงานก็ทุ่มสุดตัวให้พรรคมาตลอด ไม่อยากให้มองโควตาคนเสื้อแดงมีเพียงตำแหน่งเดียว
“ท่านอภิวันท์ หรือนายจตุพร ก็เหมาะสม ส่วนตัวยังมองหากมีการปรับครม. ยังอยากให้ใน ครม.มีทั้งนายจตุพร นายณัฐวุฒิ ทางการเมืองไม่ควรแบ่งแยกแดง หรือไม่แดง ”นายชินวัฒน์ กล่าว
ด้านนายวีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว มีชื่อติดโผครม.ชุดใหม่ หากมีการปรับครม.ในเดือนต.ค.นี้ว่า ไม่ทราบ อย่าจินตนาการกันไปเอง ตนแม้จะเป็นส.ส.ที่มีอายุอาวุโสสูงสุดใน จ.กาฬสินธุ์ แต่ถ้านับสมัยการดำรงตำแหน่งส.ส. ยังมีคนที่อาวุโสกว่าตน
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่มีการส่งสัญญาณมายังพรรคร่วมรัฐบาล แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีการปรับครม. คงปรับเฉพาะพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่มี
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า กระแสข่าวปรับครม.ที่ออกมานั้น บรรดา ส.ส.และรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง และมาเก๊า ระบุตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้แสดงความเป็นห่วงถึงปัญหาการถือครองหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ของรัฐมนตรีที่ยังคาราคาซังอยู่ โดยบอกว่ารัฐมนตรีที่เป็นปัญหาควรปรับปรุงแก้ไข แต่อยู่ที่การตัดสินใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจะปรับ ครม.หรือไม่
ส่วนโควตาคนเสื้อแดง ยังคงมีตำแหน่งเดียว หากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ก็จะต้องหลุดจากแหน่ง
นอกจากนี้มีรายงานข่าวว่า นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปขอพบ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ปรากฏว่าไม่มีโอกาสพบเป็นการส่วนตัว ได้เพียงกล่าวทักทายเท่านั้น ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคน ลงความเห็นว่า การทำงานของนายเสริมศักดิ์ ไม่เป็นที่พอใจของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีแนวโน้มจะหลุดจากตำแหน่งแน่
สำหรับรายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีในการปรับ ครม. ครั้งต่อไปปรากฏชื่อ นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นมือทำงานในเรื่องการปฏิรูปการเมืองของรัฐบาล รวมทั้งเป็นมือประสานกับฝ่ายอื่นๆ ในเชิงลึก จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
เมื่อวานนี้ (3ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไปเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนามอบนโยบายการบริหารราชการ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงกระแสข่าวดังกล่าว แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มให้ผู้สื่อข่าว แล้วเดินผ่านกลุ่มผู้สื่อข่าวออกไปขึ้นรถ
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Noppadon Patama ว่าข่าวดังกล่าวไม่น่าจะเป็นความจริง
"ข่าวนี้มาอย่างไรไม่ทราบเลยครับ ไม่รู้กุข่าว เต้าข่าว หรือมีแหล่งข่าวที่มองไม่เห็น"
"ความจริงการปรับ ครม. เพิ่งผ่านไปเพียงสามเดือน คงไม่ถี่เหมือนการเปลี่ยนตัวนักเล่นวอลเล่ย์บอลหญิงของโค้ชเป็นแน่ ในอนาคตก็คงมีการปรับ ส่วนจะปรับเมื่อใด คนที่ให้คำตอบได้น่าจะเป็นท่านนายกฯ " นายนพดล ระบุ
ขณะที่ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงนั้น เป็นเรื่องปกติของคนที่รู้จัก ก็ไปมาหาสู่กัน แต่จะนำไปสู่การปรับครม.หรือไม่นั้น ตนมองว่าการปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ และตามความเหมาะสมในการทำงาน ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ทำงานเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่า มีคำแนะนำจากพ.ต.ท.ทักษิณบ้าง แต่สุดท้ายการตัดสินใจก็อยู่ที่นายกฯยิ่งลักษณ์
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเพียงข่าวลือ ขณะนี้ยังไม่สัญญาณใดจากนายกรัฐมนตรี เชื่อว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้น ไม่ใช่คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรง แต่น่าจะเกิดจากคนที่ไปเยี่ยมแล้ววิเคราะห์กันเอง
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ภายในเดือน ต.ค.นี้ว่า จากการที่เคยได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณโดยตรงเมื่อไม่นานมานี้ คิดว่าการปรับ ครม.น่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีหรือขึ้นปีใหม่มากกว่า น่าจะรอฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเรียบร้อยก่อน ทราบว่าจะอภิปรายก่อนปิดสมัยประชุมราว 1 - 2 สัปดาห์ หรือประมาณกลางเดือนพ.ย. ส่วนตัวมองว่าตอนนี้ ครม.ยังทำงานได้ดี การปรับ ครม.ครั้งล่าสุดเพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือน หากครบ 6 เดือนแล้วปรับถือว่าลงตัว
“วันนี้คิดว่ามีเหตุผลเดียวที่จะปรับได้คือ รัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องการถือครองหุ้น อาจจะให้พักไปก่อนเพื่อตัดปัญหา แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะใช้โอกาสนี้ปรับ ครม.ในบางตำแหน่ง เรื่องนี้คงต้องถามนายกฯยิ่งลักษณ์”นายสมคิด ระบุ
ส่วนนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีชื่อจะถูกปรับออก ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด และได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้สัมภาษณ์เฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับการทำงานในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ไม่ขอพูดในประเด็นการเมือง โดยเฉพาะการปรับครม.
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีการถือหุ้นเกินตามกฎหมายกำหนด จนอาจจะเป็นเหตุให้ถูกปรับออกจากครม. ตามที่มีข่าวว่า อยากให้ไปถามนักกฎหมาย โดยเฉพาะ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักกฎหมายของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งจะทราบดีว่า ตนไม่มีเจตนาปกปิดอะไร และตนก็ได้ปรึกษาเรื่องหุ้นกับนายพงศ์เทพ มาโดยตลอด
เมื่อถามว่ามีสัญญาณการปรับครม. มาก่อนหน้านี้หรือไม่ นายวิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณอะไร ทั้งจากนายกรัฐมนตรี และครม.เลย ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ตนพูดตั้งแต่วันแรกที่ได้รับตำแหน่งแล้วว่า เมื่อมีวันมา ก็ต้องมีวันไป ตนไม่มีปัญหาอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วงระยะเวลาที่ตนมาดำรงตำแหน่งนี้ ตนทำงานหนัก และตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่แล้ว
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่่าจะถูกปรับออกจากครม. ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่ที่ผ่านมาพอใจการทำงานของตัวเองในหลายด้าน และทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด การปรับครม.เป็นเรื่องของนายกฯ ที่จะดำเนินการตามความเหมาะสม ส่วนตนนั้นเป็นผู้แทนราษฎรแบบสู้งาน ไม่ว่าจะอยู่สถานะใด ก็สามารถทำหน้าที่ได้ หากตนถูกปรับออก ก็ไม่น้อยใจอะไร
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่ม นปช. กล่าวว่า การปรับ ครม.ที่มีการระบุว่า อาจจะมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้าไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ ผ่านงานมามาก ทั้งรองประธานสภาฯ และเป็น ส.ส.หลายสมัย อีกทั้งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ แต่การตัดสินใจจะปรับใครเข้าหรืออก อยู่ที่นายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีกระแสข่าวการปรับ ครม.ทุกครั้ง มักมีชื่อ นายจตุพร ในฐานะแคนดิเดตมาโดยตลอด แต่ก็ยังพลาดหวังทุกรอบ ในส่วนของ ส.ส.ที่เป็นคนเสื้อแดงมองอย่างไร นายชินวัฒน์ กล่าวว่า นายจตุพร มีส่วนช่วยพรรคและรัฐบาลมาตั้งแต่ยังไม่เป็นส.ส. ทุ่มเทสุดตัวเรื่องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่าคิดว่าคนเสียสละไม่ต้องการอะไร หากยังไม่สามารถตัดกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง ความต้องการย่อมมี ถ้ามีการปรับครม.จริงๆ อยากให้คำนึงถึงนายจตุพร บ้าง ไม่ได้เป็นสายล่อฟ้า บางคนที่เป็นรัฐมนตรีก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ยังเป็นได้ แม้นายจตุพร มีแผลแต่ก็เป็นแผลมาจากการต่อสู้
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองถึงการขอเพิ่มโควตารัฐมนตรีคนเสื้อแดงหรือไม่ เพราะหากให้ พ.อ.อภิวันท์ หรือนายจตุพรเข้าไปเป็นรัฐมนตรี อาจต้องปรับนายณัฐวุฒิออก นายชินวัฒน์ กล่าวว่า การปรับ ครม.ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนสินค้า เอานายณัฐวุฒิออก เอานายจตุพรเข้าไป เพราะนายณัฐวุฒิ ก็ทำงานดี ส่วนนายจตุพรก็ทำงานก็ทุ่มสุดตัวให้พรรคมาตลอด ไม่อยากให้มองโควตาคนเสื้อแดงมีเพียงตำแหน่งเดียว
“ท่านอภิวันท์ หรือนายจตุพร ก็เหมาะสม ส่วนตัวยังมองหากมีการปรับครม. ยังอยากให้ใน ครม.มีทั้งนายจตุพร นายณัฐวุฒิ ทางการเมืองไม่ควรแบ่งแยกแดง หรือไม่แดง ”นายชินวัฒน์ กล่าว
ด้านนายวีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว มีชื่อติดโผครม.ชุดใหม่ หากมีการปรับครม.ในเดือนต.ค.นี้ว่า ไม่ทราบ อย่าจินตนาการกันไปเอง ตนแม้จะเป็นส.ส.ที่มีอายุอาวุโสสูงสุดใน จ.กาฬสินธุ์ แต่ถ้านับสมัยการดำรงตำแหน่งส.ส. ยังมีคนที่อาวุโสกว่าตน
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่มีการส่งสัญญาณมายังพรรคร่วมรัฐบาล แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีการปรับครม. คงปรับเฉพาะพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่มี
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า กระแสข่าวปรับครม.ที่ออกมานั้น บรรดา ส.ส.และรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง และมาเก๊า ระบุตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้แสดงความเป็นห่วงถึงปัญหาการถือครองหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ของรัฐมนตรีที่ยังคาราคาซังอยู่ โดยบอกว่ารัฐมนตรีที่เป็นปัญหาควรปรับปรุงแก้ไข แต่อยู่ที่การตัดสินใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจะปรับ ครม.หรือไม่
ส่วนโควตาคนเสื้อแดง ยังคงมีตำแหน่งเดียว หากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ก็จะต้องหลุดจากแหน่ง
นอกจากนี้มีรายงานข่าวว่า นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปขอพบ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ปรากฏว่าไม่มีโอกาสพบเป็นการส่วนตัว ได้เพียงกล่าวทักทายเท่านั้น ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคน ลงความเห็นว่า การทำงานของนายเสริมศักดิ์ ไม่เป็นที่พอใจของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีแนวโน้มจะหลุดจากตำแหน่งแน่
สำหรับรายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีในการปรับ ครม. ครั้งต่อไปปรากฏชื่อ นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นมือทำงานในเรื่องการปฏิรูปการเมืองของรัฐบาล รวมทั้งเป็นมือประสานกับฝ่ายอื่นๆ ในเชิงลึก จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง