“แม้ว” หมายหัว รมต.ถือหุ้นเกิน ยันให้โควตาแดงเก้าอี้เดียว ถ้า “จตุพร” มา “ณัฐวุฒิ” ต้องไป แต่คาด “คางคกตู่” หวังขึ้นวอปลายสมัย ปูด “เสริมศักดิ์” ชะตาขาดแน่ “นายใหญ่” ไม่ปลื้มอย่างแรง หลังแห้วอดเข้าพบ มท.2 ทำใจเก้าอี้หลุด ลั่นไม่น้อยใจพร้อมทำงานทุกที่ “วีระวัฒน์” ถ่อมตัวอาวุโสน้อยไม่หวัง รมต. ด้าน “ชินวัฒน์” ได้ทีขย่มเพิ่มโควตาเสนาบดีให้ นปช.
วันที่ 3 ต.ค. รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า สำหรับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) บรรดา ส.ส.และรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และมาเก๊า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้แสดงความเป็นห่วงถึงปัญหาการถือครองหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายของรัฐมนตรีที่ยังคาราคาซังอยู่ โดยบอกว่ารัฐมนตรีที่เป็นปัญหาควรปรับปรุงแก้ไข แต่อยู่ที่การตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่าจะปรับ ครม.หรือไม่ ส่วนโควตาคนเสื้อแดงยังคงมีตำแหน่งเดียว หากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ก็จะต้องหลุดจากแหน่ง ซึ่งเบื้องต้นคาดกันว่านายจตุพรจะไม่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในช่วงนี้ หากจะเข้ามาจะเป็นในช่วงปลายสมัยรัฐบาล
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวด้วยว่า นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปขอพบ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ปรากฏว่าไม่ได้เข้าพบเป็นการส่วนตัว ได้เพียงกล่าวทักทายเท่านั้น ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนลงความเห็นว่า การทำงานของนายเสริมศักดิ์ไม่เป็นที่พอใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีแนวโน้มจะหลุดจากตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ สำหรับรายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป ปรากฏชื่อนายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นมือทำงานในเรื่องการปฏิรูปการเมืองของรัฐบาล รวมทั้งเป็นมือประสานกับฝ่ายอื่นๆในเชิงลึก จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
อีกด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “มีข่าวเรื่องท่าน พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังคิดปรับ ครม.ใน นสพ.ฉบับหนึ่ง ซึ่งข่าวนี้เป็นข่าวที่ รมต.ไม่อยากได้ยิน ที่ภาษาฝรั่งบอก ไม่มีข่าวถือว่าเป็นข่าวดี No news is good news. ข่าวนี้มาอย่างไรไม่ทราบเลยครับ ไม่รู้กุข่าว เต้าข่าว หรือมีแหล่งข่าวที่มองไม่เห็น แต่เท่าที่ทราบผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากคนที่มีอำนาจในการปรับครม คือท่านนายกฯ ความจริงการปรับ ครม.ผ่านไปเพียงสามเดือน และคงไม่ถี่เหมือนการเปลี่ยนตัวนักเล่นวอลเล่ย์บอลหญิงของโค้ชเป็นแน่ ในอนาคตก็คงมีการปรับ ส่วนจะปรับเมื่อใด คนที่ให้คำตอบได้น่าจะเป็นท่านนายกฯ สำหรับ รมต.ที่ทำงานในปัจจุบัน no news is good news ครับ”
ขณะที่นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสการถูกปรับออกจาก ครม.ว่า ไม่ทราบเรื่อง แต่ที่ผ่านมาพอใจการทำงานของตัวเองในหลายด้าน และทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกฯที่จะดำเนินการตามความเหมาะสม ตนเป็นผู้แทนราษฎรแบบสู้งาน ไม่ว่าจะอยู่สถานะใดก็สามารถทำหน้าที่ได้ ที่สำคัญคนเป็น ส.ส.ทุกคนมีความรู้ ความสามารถ หากใครได้รับมอบหมายให้ทำอะไร ก็ควรให้ความร่วมมือกับนายกฯ ซึ่งในพรรคเพื่อไทยไม่มีการแก่งแย่งอะไรกัน หากตนถูกปรับออกตามกระแสข่าวก็ไม่น้อยใจ
ด้านนายวีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อติดโผ ครม.ชุดใหม่ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง และไม่ควรจินตนาการกันไปเอง แม้จะเป็น ส.ส.ที่มีอายุอาวุโสสูงสุดใน จ.กาฬสินธุ์ แต่ถ้านับสมัยการดำรงตำแหน่ง ส.ส.ยังมีคนที่อาวุโสกว่าตนอีกมาก
ส่วนนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ภายในเดือน ต.ค.นี้ว่า จากการที่เคยได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณโดยตรงเมื่อไม่นานมานี้ คิดว่าการปรับ ครม.น่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีหรือขึ้นปีใหม่มากกว่า น่าจะรอฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเรียบร้อยก่อน ทราบว่าจะอภิปรายก่อนปิดสมัยประชุมราว 1-2 สัปดาห์ หรือประมาณกลางเดือน พ.ย. ส่วนตัวมองว่าตอนนี้ ครม.ยังทำงานได้ดี การปรับ ครม.ครั้งล่าสุดเพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือน หากครบ 6 เดือนแล้วปรับถือว่าลงตัว
“วันนี้คิดว่ามีเหตุผลเดียวที่จะปรับได้ คือ รัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องการถือครองหุ้น อาจจะให้พักไปก่อนเพื่อตัดปัญหา แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะใช้โอกาสนี้ปรับ ครม.ในบางตำแหน่ง เรื่องนี้คงต้องถามนายกฯ ยิ่งลักษณ์” นายสมคิดระบุ
ขณะที่นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กลุ่ม นปช.กล่าวว่า การปรับ ครม.เป็นหน้าที่ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในฐานะที่ทำงานใกล้ชิดย่อมทราบดีว่าใครทำงานอย่างไร แม้ตอนนี้ยังเป็นข่าวลือแต่เท่าที่ติดตามมาทุกรัฐบาลจากข่าวลือสุดท้ายก็เป็นข่าวจริง ส่วนที่มองว่าในการปรับ ครม.ครั้งหน้าอาจจะมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เข้าไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ผ่านงานมามาก ทั้งรองประธานสภาฯ และเป็น ส.ส.หลายสมัย อีกทั้งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ แต่การตัดสินใจจะปรับใครเข้าหรืออก อยู่ที่นายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีกระแสข่าวการปรับ ครม.ทุกครั้ง มักมีชื่อนายจตุพรในฐานะแคนดิเดตมาโดยตลอด แต่ก็ยังพลาดหวังทุกรอบ ในส่วนของ ส.ส.ที่เป็นคนเสื้อแดงมองอย่างไร นายชินวัฒน์ กล่าวว่า นายจตุพรมีส่วนช่วยพรรคและรัฐบาลมาตั้งแต่ยังไม่เป็น ส.ส. ทุ่มเทสุดตัวเรื่องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่าคิดว่าคนเสียสละไม่ต้องการอะไร หากยังไม่สามารถตัดกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง ความต้องการย่อมมี ถ้ามีการปรับ ครม.จริงๆ อยากให้คำนึงถึงนายจตุพรบ้าง ไม่ได้เป็นสายล่อฟ้า บางคนที่เป็นรัฐมนตรีก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องก็ยังเป็นได้ แม้นายจตุพรมีแผลแต่ก็เป็นแผลมาจากการต่อสู้
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองถึงการขอเพิ่มโควตารัฐมนตรีคนเสื้อแดงหรือไม่ เพราะหากให้ พ.อ.อภิวันท์หรือนายจตุพรเข้าไปเป็นรัฐมนตรี อาจต้องปรับนายณัฐวุฒิออกจากตำแหน่ง นายชินวัฒน์กล่าวตอบว่า การปรับ ครม.ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนสินค้า เอานายณัฐวุฒิออก เอานายจตุพรเข้าไป ทั้งที่นายณัฐวุฒิก็ทำงานดี ส่วนนายจตุพรก็ทำงานก็ทุ่มสุดตัวให้พรรคมาตลอด ไม่อยากให้มองโควตาคนเสื้อแดงมีเพียงตำแหน่งเดียว
“ท่านอภิวันท์หรือนายจตุพรก็เหมาะสม ส่วนตัวยังมองหากมีการปรับ ครม. ยังอยากให้ใน ครม.มีทั้งนายจตุพร นายณัฐวุฒิ ทางการเมืองไม่ควรแบ่งแยกแดงหรือไม่แดง แต่อย่างไรก็ดีการปรับ ครม.เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาว่าจะปรับใคร ตำแหน่งใดบ้าง” นายชินวัฒน์กล่าว