วานนี้(24 ก.ย.56) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของการอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน และข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงที่มีการแต่งตั้งรวม 23 ตำแหน่ง และโยกย้ายตามความเหมาะสมอีก 8 ตำแหน่ง ได้แก่
1.นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม เป็นผู้ว่าฯนนทบุรี 2.นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯนนทบุรี เป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่ 3.นายชนม์ ชื่นบุญญานุสาสน์ ผู้ว่าฯราชบุรี เป็นผู้ว่าฯสมุทรสงคราม 4.นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช เป็นผู้ว่าฯเลย5.นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าฯนราธิวาส เป็นผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช 6.นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าฯสงขลา เป็นผู้ว่าฯนราธิวาส 7.นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าฯบึงกาฬ เป็นผู้ว่าฯปทุมธานี 8.นายชโลธร ผาโคตร รองผู้ว่าฯสระบุรี เป็นผู้ว่าฯบึงกาฬ
9.นายเกรียงเดช เข็มทอง รองผู้ว่าฯจันทบุรี เป็นผู้ว่าฯจันทบุรี 10.นายสุรพล วาณิชเสนี รองผู้ว่าฯนนทบุรี เป็นผู้ว่าฯกำแพงเพชร 11.นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ รองผู้ว่าฯชลบุรี เป็นผู้ว่าฯนครพนม 12.นายอุกริช พึ่งโสภา รองผู้ว่าฯสระบุรี เป็นผู้ว่าฯน่าน 13.นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าฯสงขลา เป็นผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน 14.นายวิเชียร จันทรโณทัย รองผู้ว่าฯสุรินทร์ เป็นผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ 15.นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน 16.นายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าฯอุดรธานี เป็นผู้ว่าฯหนองบัวลำภู 17.ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าฯระยอง เป็นผู้ว่าฯสุพรรณบุรี
18.นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เป็นผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ 19.นายเสรี ศรีหะไตร รองผู้ว่าฯปัตตานี เป็นผู้ว่าฯอ่างทอง 20.นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ว่าฯราชบุรี
ขณะผู้ที่ต้องเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ประกอบด้วย 21.นายทวี นริสศิริกุล รองผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา 22.นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองผู้ว่าฯสมุทรปราการ และ23.นายธนาคม จงจิระ รองผู้ว่าฯลพบุรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งๆ ตามโผที่มีออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะบางราย โดนย้ายไป 2 จังหวัดใน 2 คำสั่งที่มีผลห่างกัน 1 วันเท่านั้น อาทิ
1.นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าประจวบฯย้ายเป็นผู้ว่าราชบุรี 2.นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าฯตรัง เป็นผู้ว่าฯประจวบฯ 3.นายสมศักดิ์ ปะสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าฯราชบุรี เป็น ผู้ว่าฯตรัง 4.นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าฯ พัทลุง ย้ายเป็น ผู้ตรวจฯ 5.นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าฯอ่างทอง เป็นผู้ว่าฯพัทลุง 6.นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ตรวจฯ ย้ายเป็น ผู้ว่าฯอ่างทอง 7.นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าฯลพบุรี เป็นผู้ตรวจ และ8.นายธนาคม จงจิระ ผู้ตรวจ เป็นผู้ว่าลพบุรี ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.56
อย่างไรก็ดี ในคำสั่งที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นั้น ปรากฏว่า นายสมศักดิ์ รองอธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่น ถูกย้ายไปเป็น ผู้ว่าฯราชบุรี ,นายเสรี รองผู้ว่าฯปัตตานี ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯอ่างทอง ,นายปวิณ รองผู้ว่าฯสมุทรปราการ ย้ายไปเป็น ผู้ตรวจฯ และนายธนาคม รองผู้ว่าฯ ลพบุรี ย้ายไปเป็น ผู้ตรวจ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์ ดังนี้ 1.นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นปลัดกระทรวง 2.นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 3.นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นรองปลัดกระทรวง 4.น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นเอกอัครราชทูตคณะ ผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา 5.นายสมชาติ สร้อยทอง ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน
6.นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง7.นางอุรวี เงารุ่งเรือง ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง 8.นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 9.น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ในส่วนของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ เป็นรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายระพีพันธุ์ สริวัฒน์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ อนุมัติแต่งตั้งนายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการครม. โอน นางสาวรุจิรา ริมผดี ที่ปรึกษาสำนัก และแต่งตั้งเป็น รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายอำนาจ พัวเวส ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
กระทรวงการต่างประเทศ 8 ตำแหน่ง ดังนี้ 1.นายวรเดช วีระเวคิน อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพริทอเรีย สาธาณรัฐแอฟริกาใต้ แทนนายนนทศิริ บุรณศิริ ซึ่งเกษียณอายุราชการ 2.นายธนา เวสโกสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ 3.นายชลิต มานิตยกุล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย แทนนายพิศาล มาณวพัฒน์ ที่ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา
4.นายพีรศักย์ จันทวรินทร์ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ 5.นายพีรวิช สุวรรณประเทศ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย เป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง 6.นายจักรี ศรีชวนะ กงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นอธิบดีกรมพิธีการทูต แทนนายจักริน ฉายะพงศ์ ซึ่งเกษียณอายุราชการ 7.นายนพพร อัจฉริยวนิช รองอธิบดีกรมอาเซียน เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา แทนนายพลเดช วรฉัตร ซึ่งเกษียณอายุราชการ และ 8.ม.ร.ว.อดิศรเดช สุขสวัสดิ์ อัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน แทนนายอุดมศักดิ์ ศรีธัญโกศ ซึ่งเกษียณอายุราชการ
ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายโอฬาร พิทักษ์ รองปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
นายชาญพิทยา ฉิมพาลี ผู้ตรวจราชการ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ นางญาณี เลิศไกร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้นางระรินทิพย์ ศิโรรัตน์ รองปลัดกระทรวง เป็นผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ
กระทรวงพลังงาน ให้นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้ตรวจราชการ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ,นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และนายสมนึก บำรุงสาลี ผู้ตรวจราชการ เป็นอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงแรงงาน ว่า ยังไม่มีการเสนอเข้าที่ (ครม.ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คนที่จะมาทำงานกับจับกัง 1 ต้องมีศักยภาพ มีวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การป้องกันยาเสพติด และการแก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน โดยตนจะทดสอบผ่านการเขียนนโยบายมา 108 หน้า ถ้าทำ 3 เรื่องนี้ได้บ้านเมืองก็จะดี และยังไม่จำเป็นที่จะต้องเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ครั้งหน้า จะเสนอเมื่อไหร่ก็ได้ อย่างน้อยหลักการต้องเป็นคนในกระทรวง ไม่ใช่เหาะเหินเร่ร่อนมา
1.นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม เป็นผู้ว่าฯนนทบุรี 2.นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯนนทบุรี เป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่ 3.นายชนม์ ชื่นบุญญานุสาสน์ ผู้ว่าฯราชบุรี เป็นผู้ว่าฯสมุทรสงคราม 4.นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช เป็นผู้ว่าฯเลย5.นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าฯนราธิวาส เป็นผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช 6.นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าฯสงขลา เป็นผู้ว่าฯนราธิวาส 7.นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าฯบึงกาฬ เป็นผู้ว่าฯปทุมธานี 8.นายชโลธร ผาโคตร รองผู้ว่าฯสระบุรี เป็นผู้ว่าฯบึงกาฬ
9.นายเกรียงเดช เข็มทอง รองผู้ว่าฯจันทบุรี เป็นผู้ว่าฯจันทบุรี 10.นายสุรพล วาณิชเสนี รองผู้ว่าฯนนทบุรี เป็นผู้ว่าฯกำแพงเพชร 11.นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ รองผู้ว่าฯชลบุรี เป็นผู้ว่าฯนครพนม 12.นายอุกริช พึ่งโสภา รองผู้ว่าฯสระบุรี เป็นผู้ว่าฯน่าน 13.นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าฯสงขลา เป็นผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน 14.นายวิเชียร จันทรโณทัย รองผู้ว่าฯสุรินทร์ เป็นผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ 15.นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน 16.นายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าฯอุดรธานี เป็นผู้ว่าฯหนองบัวลำภู 17.ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าฯระยอง เป็นผู้ว่าฯสุพรรณบุรี
18.นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เป็นผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ 19.นายเสรี ศรีหะไตร รองผู้ว่าฯปัตตานี เป็นผู้ว่าฯอ่างทอง 20.นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ว่าฯราชบุรี
ขณะผู้ที่ต้องเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ประกอบด้วย 21.นายทวี นริสศิริกุล รองผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา 22.นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองผู้ว่าฯสมุทรปราการ และ23.นายธนาคม จงจิระ รองผู้ว่าฯลพบุรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งๆ ตามโผที่มีออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะบางราย โดนย้ายไป 2 จังหวัดใน 2 คำสั่งที่มีผลห่างกัน 1 วันเท่านั้น อาทิ
1.นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าประจวบฯย้ายเป็นผู้ว่าราชบุรี 2.นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าฯตรัง เป็นผู้ว่าฯประจวบฯ 3.นายสมศักดิ์ ปะสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าฯราชบุรี เป็น ผู้ว่าฯตรัง 4.นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าฯ พัทลุง ย้ายเป็น ผู้ตรวจฯ 5.นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าฯอ่างทอง เป็นผู้ว่าฯพัทลุง 6.นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ตรวจฯ ย้ายเป็น ผู้ว่าฯอ่างทอง 7.นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าฯลพบุรี เป็นผู้ตรวจ และ8.นายธนาคม จงจิระ ผู้ตรวจ เป็นผู้ว่าลพบุรี ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.56
อย่างไรก็ดี ในคำสั่งที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นั้น ปรากฏว่า นายสมศักดิ์ รองอธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่น ถูกย้ายไปเป็น ผู้ว่าฯราชบุรี ,นายเสรี รองผู้ว่าฯปัตตานี ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯอ่างทอง ,นายปวิณ รองผู้ว่าฯสมุทรปราการ ย้ายไปเป็น ผู้ตรวจฯ และนายธนาคม รองผู้ว่าฯ ลพบุรี ย้ายไปเป็น ผู้ตรวจ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์ ดังนี้ 1.นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นปลัดกระทรวง 2.นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 3.นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นรองปลัดกระทรวง 4.น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นเอกอัครราชทูตคณะ ผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา 5.นายสมชาติ สร้อยทอง ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน
6.นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง7.นางอุรวี เงารุ่งเรือง ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง 8.นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 9.น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ในส่วนของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ เป็นรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายระพีพันธุ์ สริวัฒน์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ อนุมัติแต่งตั้งนายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการครม. โอน นางสาวรุจิรา ริมผดี ที่ปรึกษาสำนัก และแต่งตั้งเป็น รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายอำนาจ พัวเวส ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
กระทรวงการต่างประเทศ 8 ตำแหน่ง ดังนี้ 1.นายวรเดช วีระเวคิน อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพริทอเรีย สาธาณรัฐแอฟริกาใต้ แทนนายนนทศิริ บุรณศิริ ซึ่งเกษียณอายุราชการ 2.นายธนา เวสโกสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ 3.นายชลิต มานิตยกุล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย แทนนายพิศาล มาณวพัฒน์ ที่ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา
4.นายพีรศักย์ จันทวรินทร์ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ 5.นายพีรวิช สุวรรณประเทศ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย เป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง 6.นายจักรี ศรีชวนะ กงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นอธิบดีกรมพิธีการทูต แทนนายจักริน ฉายะพงศ์ ซึ่งเกษียณอายุราชการ 7.นายนพพร อัจฉริยวนิช รองอธิบดีกรมอาเซียน เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา แทนนายพลเดช วรฉัตร ซึ่งเกษียณอายุราชการ และ 8.ม.ร.ว.อดิศรเดช สุขสวัสดิ์ อัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน แทนนายอุดมศักดิ์ ศรีธัญโกศ ซึ่งเกษียณอายุราชการ
ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายโอฬาร พิทักษ์ รองปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
นายชาญพิทยา ฉิมพาลี ผู้ตรวจราชการ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ นางญาณี เลิศไกร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้นางระรินทิพย์ ศิโรรัตน์ รองปลัดกระทรวง เป็นผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ
กระทรวงพลังงาน ให้นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้ตรวจราชการ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ,นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และนายสมนึก บำรุงสาลี ผู้ตรวจราชการ เป็นอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงแรงงาน ว่า ยังไม่มีการเสนอเข้าที่ (ครม.ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คนที่จะมาทำงานกับจับกัง 1 ต้องมีศักยภาพ มีวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การป้องกันยาเสพติด และการแก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน โดยตนจะทดสอบผ่านการเขียนนโยบายมา 108 หน้า ถ้าทำ 3 เรื่องนี้ได้บ้านเมืองก็จะดี และยังไม่จำเป็นที่จะต้องเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ครั้งหน้า จะเสนอเมื่อไหร่ก็ได้ อย่างน้อยหลักการต้องเป็นคนในกระทรวง ไม่ใช่เหาะเหินเร่ร่อนมา
