xs
xsm
sm
md
lg

อืมม์...สิ้นสงสัย...โง่หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

ใครโง่ หรือใครโง่กว่า? ระหว่างคนถูกมองว่าโง่ หรือคนที่ยอมให้คนที่ถูกมองว่าโง่หลอกซึ่งหน้า เปิดเผยได้ยาวนานกว่า 2 ปีโดยไม่มีวี่แววว่าจะหลุดจากอำนาจ! ผลสุดท้ายสังคมบ้านนี้เมืองนี้คงต้องจมปลักอยู่กับประเด็น “ไอ้โง่” และ “อีโง่” จนกว่าจะหาข้อสรุปจากการตกผลึกของสติปัญญา

ถึงเวลานั้นบ้านเมืองจะถึงขั้นเศรษฐกิจล้มละลาย ระบบคุณธรรม ความถูกต้องดีงามสูญสลาย เป็นรัฐล้มเหลวโดยสมบูรณ์หรือไม่! จะโทษใครได้นอกจากตัวเองถ้าปล่อยให้ “ไอ้โง่” และ “อีโง่” กำหนดชะตากรรมของคนทั้งแผ่นดินได้ โดยกลุ่มคนฉลาดทั้งหลายอยู่ในสภาพไม่ต่างจากวัวควาย

จะสิ้นสภาพความเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี สติปัญญา ความกล้าหาญหรือไม่ คงไม่มีเวลาได้ถกเถียงกันให้เปลืองสมองอีกแล้ว! คงได้แต่นั่งรำพึงรำพันว่า ขนาดถูกเยาะเย้ยหมิ่นแคลนว่าด้อยปัญญา โง่ ยังสร้างความหายนะได้ถึงเพียงนี้ ถ้าฉลาดล่ะ จะไม่วอดวายเร็ว รุนแรงกว่าที่เป็นอยู่อีกหลายเท่าเรอะ

ที่พร่ำรำพันมาก็เป็นเรื่องสภาวะวิปริตในบ้านเมืองนั่นแหละ นี่เป็นยุค ของ ความตกต่ำด้านความกล้าหาญ จิตสำนึกสาธารณะ ความรักชาติ มีแต่ความ โลภ ความเห็นแก่ตัว! บรรดาผู้รู้ ปัญญาชน นักปราชญ์ ผู้ดีมีสกุล ถ้าไม่นิ่งเฉย ก็ยอมสยบก้มหัวให้อำนาจของขบวนการบักเหลี่ยม หรือจัดอยู่ในกลุ่มไทยเฉย ไทยนิ่ง ไทยไม่เอาอ่าว ไทยไร้ราก ไทยตะกั่วไร้ปฏิกิริยาต่อสภาวะปฏิปักษ์ ภัยร้าย

ทุกวันนี้พลังโง่สะกดคนไทยส่วนใหญ่ให้เป็นกลุ่มเงียบ ไม่ใช่พลังเงียบอีกแล้ว! ถ้าเงียบได้ยาวนานกว่า 2 ปี นั่งมองความเสื่อมทรุดของสภาพการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การครองชีพตกต่ำ ปราศจากทิศทางอย่างไร้ความคิดต่อต้าน คง เรียกว่าเป็นสภาวะตายด้าน เลวร้ายกว่ากบต้ม

คนไทยอยู่ในสภาพเหมือนคนสิ้นคิดได้อย่างไร ทั้งที่โดยนิสัยถูกมองว่าเป็นพวกหัวหมอ หัวแข็ง ถือดี ปกครองยาก! ทำให้เกิดคำถามว่าที่แท้แล้วคนโง่หรือคนฉลาดปกครองง่ายกว่ากันแน่?

คำตอบง่าย! เป็นเพราะอยู่ภายใต้อำนาจระบบอำนาจคุมโดยคนชั่วร้ายกังฉินขายชาตินั่นเอง! ที่น่าพิสดารคือโดยทั่วไปทรราชกดขี่ข่มเหงย่ำยี ไม่ ห่างไกลฐานอำนาจ ไม่ไว้ใจใคร มีจิตระแวงการทรยศ แต่กรณีรัฐไทย การบงการมาจากแดนไกลโดยอภิมหาวายร้ายกังฉินขายชาติหนีคุก

เป็นการบริหารสั่งการผ่านหุ่นเชิดตัวแทน มีเครือข่ายระบบทาสน้ำเงิน ขี้ ข้าหลากสายพันธุ์เต็มใจปฏิบัติภารกิจโกงบ้านกินเมือง ข้าราชการส่วนหนึ่งกลายสภาพเป็นขี้ข้าคนหนีโทษอาญา! ในสังคมอาชญากรรม มาเฟีย เจ้าพ่อค้ายาเสพติด ตัวการมักติดคุก สั่งงานผ่านเครือข่าย

แต่อาชญากรหนีคุกไทยไม่เพียงมีอิสระ เสรีภาพ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายเท่านั้น ยังได้รับการยอมรับในต่างประเทศ ทั้งที่มีพฤติกรรมฉาวด้านทุจริต คอร์รัปชั่น ฟอกเงิน กระฉ่อนโลก นี่สะท้อนให้เห็นว่าเงินสามารถูกใช้เบิกทาง เปิดประตู สร้างความสัมพันธ์ได้ง่าย มีคนดีจริงเท่านั้นกล้าปฏิเสธ

อนาคตประเทศไทยนับวันยิ่งเผชิญความเสี่ยงกับหายนะ นักการเมือง ข้าราชการ ร่วมมือเร่งกู้เงินมาแบ่งปันกันโกงผ่านโครงการขนาดใหญ่ ใช้วิธีเลี่ยงระบบงบประมาณโดยเล่ห์ผสมความหน้าด้าน เร่งแก้รัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายเปลื้องโทษให้อาชญากรปล้นห้าง ฆ่าทหาร เผาบ้านเผาเมือง
สส. สว. ส่วนใหญ่ไม่ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์บ้านเมือง ช่วยเหลือประชาชน แต่มุ่งเน้นการช่วยเหลืออาชญากรหนีคุก และเครือข่ายขี้ข้า โจรการเมือง ขบวนการปล้นชาติ ไม่มีจิตสำนึกเหลือติดกะโหลก ยางอายฉาบผิวหน้าอีกแล้ว! แข่งกันเอาใจ เลียแข้งเลียขาคนอ่อนด้อยปัญญาด้วยซ้ำ

ปัญหาชาวนา ชาวสวนยาง และสินค้าเกษตรอื่นๆ สส. สว. ข้าราชการไม่ทำหน้าที่ วินิจฉัยปัญหา หาทางออกที่เหมาะสมกับเหตุการณ์บ้านเมือง กลับทรยศประชาชนเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง เท่ากับว่าผู้แทนเอาเสียงคนโหวตลงคะแนนไปรับใช้กลุ่มการเมือง พ่อค้า เพิ่มปัญหาให้เป็นวิกฤติ

ช่วงนี้พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมในสภาหาช่องทางรวบรัดตัดตอนปิดเกมอภิปรายเพื่อกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท สร้างหนี้สินให้ชาวบ้านต้องใช้เงินคืนนาน 50 ปี เมื่อบวกดอกเบี้ยอีกกว่า 3 ล้านล้านบาท ส่วนหนึ่งหลายแสนล้านบาทจะถูกโกงซึ่งหน้า เหลือสักครึ่งเพื่อให้โครงการกลายเป็นจริง

ก่อนหน้านั้นหาข้ออ้างกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทเพื่อโครงการต้นน้ำ กลาง น้ำ ปลายน้ำ เส้นทางน้ำไหล แต่ความเป็นจริงคือการโกงตลอดเส้นทาง น้ำลาย

ใช้ความหน้าด้านนำร่อง! ช่วงนี้มีแต่ข่าวร้าย รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในโชว์ความเน่าเฟะทุกด้าน เป็นผลมาจากความล้มเหลว สติปัญญาพร่องในการบริหารจัดการบ้านเมือง โกงหนัก กินคำโต จึงมีข่าวว่าลูกค้าหน้าใหม่ระดับเงินพันล้านบาทเป็นร้อยๆ รายของธนาคารสวิสล้วนเป็นเศรษฐีใหม่จากเมืองไทย!

สภาพเศรษฐกิจเช่นนี้จะมีรายได้จากไหน นอกจากเป็นเงินโกงจากโครงการต่างๆ เช่นจำนำข้าว ไม่อย่างนั้นไอ้จอมโกงจะมีเงินจ้างนักร้องไปร้องเล่นเต้นรำยั่วกามบ่อยครั้งได้อย่างไร!

สภาพใกล้ถังแตกของรัฐบาลทำให้ต้องเร่งรีดเงินภาษี กู้เงิน เผื่อว่าต้องรีบเผ่นหนีลี้ภัย เมื่อสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ ถ้าประชาชนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมต่ำช้าสารเลว โกงกินมูมมาม!

นางโพยดิ้นรนสั่งขี้ข้าบักเหลี่ยมให้หาเงินอีก 2.7 แสนล้านบาทสำหรับโครงการรับจำนำข้าว ใช้เล่ห์โกหกพกลม ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว อ้างว่าขายข้าวให้จีน 1.2 ล้านตัน สร้างความขบขันให้พ่อค้าผู้รู้ความจริง ใครจะโง่ใช้เงินมาซื้อข้าวเสื่อมคุณภาพเอาไปขายให้ลูกค้าด่า!

อ้างว่าขายข้าว “จีทูจี” หรือรัฐต่อรัฐ แต่บอกไม่ได้ว่าขายให้ใคร ส่งออกเมื่อไหร่ ราคาเท่าไหร่ทำไมจ่ายเงินเป็นแคชเชียร์เช็คแทนเล็ตเตอร์ออฟเครดิต เช็คบางใบมูลค่าเพียง 8 หมื่นบาท ทำไมกระจอก! คำถามเหล่านี้ไม่มีคำตอบชัดเจน อ้อมๆ แอ้มๆ แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปแต่ละครั้ง

ทุกวันนี้ ข้าวอยู่ในสภาพเสื่อมคุณภาพจำนวนมหาศาล กองเป็นภูเขาหาผู้ซื้อไม่ได้! ต่อให้จีนซื้อ 1-2 ล้านตัน แต่ไม่มีคำตอบหรือทางออกว่าจะจัดการกับข้าวที่เหลืออย่างไร และจะเอาเงิน โกดัง ไปรับข้าวจากฤดูใหม่! นี่คือการทำลายโครงสร้างระบบเกษตรกรรมข้าวแบบครบวงจรอย่างเลือดเย็น

ไฟลนก้นแม่นางโพยและพวก เก็บภาษีหลุดเป้าเป็นแสนล้านบาท ขาดดุลเงินสด เรียกแบบภาษาชาวบ้านก็คือ “ถังแตก” ใกล้เจ๊ง มีหนี้สินเกินกว่าจะใช้หนี้ได้! ไปลงนามกู้เงิน 3.5 แสนล้านยังไม่รู้ว่าจะได้เงินหรือไม่ ธนาคารจะกล้าให้กู้หรือ เมื่อรายละเอียดโครงการมีกระดาษไม่กี่แผ่น

นี่ยังจะกู้อีก 2.2 ล้านล้านบาท อ้างว่าปีละ 3 แสนล้านบาท! แต่กู้นอกงบประมาณ แถมยังอ้างว่าไม่ใช่เงินแผ่นดิน ไม่ยอมบอกว่าจะเอาเงินโคตรเหง้าของใครไปใช้คืน ถ้าไม่ฉกจากกระเป๋าประชาชน!

มาถึงจุดนี้ ภารกิจร่วมกันของชาวบ้านคือต้องหาทางกำจัดรัฐบาลชั่วร้ายกังฉินขายชาติออกไปให้เร็วที่สุด! หรือจะปล่อยให้บ้านเมืองหายนะ ย่อยยับ ลูกหลานด่าว่าโง่ ยอมให้คนโง่ปล้นบ้านเมือง ต้องรับความซวยใช้หนี้ตลอดชีวิต ก็ตามใจ!


กำลังโหลดความคิดเห็น