ใกล้เป็นสภาผัว-เมีย

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ในที่สุด ที่ประชุมรัฐสภา ก็ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของส.ว. วาระที่ 2 ไปด้วยความทุลักทุเล เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ก.ย. ใช้เวลาไปทั้งหมด 12 วัน กับการอภิปราย 13 มาตรา

เกมในสภาก็คงได้เห็นกันไปแล้วว่า ฝ่ายค้านพยายามยื้อสุดฤทธิ์ ด้วยการลงชื่อขอสงวนความเห็น และแปรญัตติแต่ละมาตราเกือบร้อยคน บางมาตรา กว่าร้อยคน เวลาอภิปรายก็พยายามใช้ลีลา ใช้เวลา จนเกิดการประท้วงกันวุ่นวาย ทั้งประท้วงผู้อภิปราย ว่าเยิ่นเย้อ ซ้ำซาก ใช้ถ้อยคำเสียดสี ต้องถอนคำพูด ประท้วงประธานในที่ประชุมว่า ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ไม่เด็ดขาด ทำผิดข้อบังคับ จนต้องมีการพักการประชุมกันนับครั้งไม่ถ้วน เรียกตำรวจสภามาลากส.ส.ออกนอกห้องประชุมหลายครั้ง

แต่สุดท้ายฝ่ายรัฐบาลก็ใช้แผน "ด้านได้ อายอด" แก้เกมด้วยการรวบรัดให้ฝ่ายค้านอภิปรายเพียงไม่กี่คน แล้วเสนอปิดอภิปราย โดยอ้างว่าเป็นการอภิปราย วกวน ซ้ำซาก โดยการเสนอปิดอภิปราย จะเกิดขึ้นในช่วงที่ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมทุกครั้งไป

ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะเสนอญัตติปิดการอภิปราย แต่ก็จะมี ส.ว.เลือกตั้ง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เป็นส.ว.ที่แอบอิงอยู่กับฝ่ายรัฐบาล เสนอให้อภิปรายต่อ เมื่อเป็นเช่นนี้ ประธานก็ต้องทำตามระเบียบ ข้อบังคับการประชุม ด้วยการขอมติ ว่าจะปิดการอภิปราย หรืออภิปรายต่อ แน่นอนว่าฝ่ายอภิปรายต่อก็ต้องแพ้มติอยู่แล้ว จากนั้นประธานก็ เสนอให้ลงมติในมาตรา นั้นๆทันที ทำแบบนี้ซ้ำๆไปจนครบทุกมาตรา จึงผ่านวาระ 2 มาได้

แต่ทั้งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา ก็น่วมไปด้วยกันทั้งคู่ นายนิคม อาจจะหนักกว่าหน่อย เพราะถูกฝ่ายค้านยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง ด้วยข้อหาว่า เป็นประธานการประชุม แต่ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ที่ไปตัดสิทธิ์การอภิปรายขอผู้ขอแปรญัตติไว้

เมื่อผ่านวาระ 2 มาได้ หลังจากนี้ก็ต้องทิ้งช่วงเวลาไว้ 15 วัน ก่อนจะลงมติในวาระ 3 คือวันที่ 27ก.ย. ซึ่งจะเป็นการลงมติในภาพรวม ว่าร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญนี้จะผ่านหรือไม่ผ่าน คำตอบก็คงเห็นกันอยู่แล้วว่า ผ่านฉลุย

เมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ มีผลบังคับใช้ ต่อจากนี้ไปเราจะมี ส.ว.200 คน ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่มี ส.ว.สรรหา ไม่จำกัดสิทธิของ พ่อ แม่ ผัว เมีย ลูก ของส.ส. ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม ที่ก่อนหน้านี้จะให้ ส.ว.สรรหา อยู่จนครบวาระ ก็เปลี่ยนเป็นจะอยู่ได้จนถึงมีการเลือกตั้งเสร็จและได้ ส.ว.ชุดใหม่เข้ามา เป็นการตัดวาระของ ส.ว.สรรหา ให้หมดไปโดยอัตโนมัติ

สำคัญมีประเด็นใหม่ คือส.ว.เลือกตั้ง และ ส.ว.สรรหา ในปัจจุบัน สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ทันที ไม่ต้องมีเว้นวรรค และไม่ต้องลาออกก่อน

ตอนนี้ ฝ่ายค้านประกาศออกมาแล้วว่า จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยกำลังดูแง่มุม ข้อกฎหมายกันอยู่ หนึ่งในประเด็นที่จะยื่นตีความคือ ขัด มาตรา 68 หรือไม่

ก็ต้องมาลุ้นกันว่า ฝ่ายค้านจะยื่นตีความในประเด็นใด และจะหยุด "สภาผัว-เมีย" ได้หรือไม่