วานนี้ (11ก.ย.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำหลักฐานภาพถ่าย นายการุณ โหสกุล คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี โดยระบุวันที่เดินทางไว้ในเฟซบุ๊กว่า อยู่ระหว่างวันที่ 8-10 ก.ย. นอกจากนี้ยังโพสต์หลักฐานตั๋วเครื่องบินด้วย
ดังนั้นตนจึงอยากถาม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่เพิ่งได้รับการต่ออายุในตำแหน่งเดิมอีก 1 ปี ว่า จะดำเนินการอย่างไร และจะมีบรรทัดฐานในการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากกรณีที่ นายชนม์สวัสดิ์ และนางเจนนี่ อัศวเหม ถ่ายภาพคู่กับ นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.มหาดไทย ที่หนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ โดยระบุว่า จะเชิญบุคคลทั้งสองมาให้ข้อมูลเพื่อติดตามตัวนายวัฒนา กลับมาดำเนินคดี จึงต้องถามว่า จะทำอย่างไรกับนายการุณ คุณหญิงสุดารัตน์ และ รมว.ไอซีที ที่เดินทางไปพบนักโทษหนีคดีที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร จะเชิญบุคคลทั้งสามมาชี้แจงกับดีเอสไอหรือไม่
นายแทนคุณ ยังกล่าวต่อว่า นายธาริต ต้องไม่ลือกปฏิบัติ หรือละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะต้องเชิญบุคคลที่ไปพบกับนักโทษหนีคดีมาชี้แจงเพื่อดำเนินการกับผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดด้วย ทั้งนี้ ต้องขอบคุณนายการุณ ที่กรุณาโพสต์หลักฐานขึ้นเฟซบุ๊กด้วย
**รมว.ยุติธรรมชี้ต่ออายุ“ธาริต”ตามผลงาน
เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (11ก.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการต่ออายุราชการให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพิ่มอีก 1 ปี ว่า ตนและปลัดกระทรวงยุติธรรมร่วมกันพิจารณาโดยยึดจากผลงานที่ผ่านมาของดีเอสไอ โดยมองว่า ดีเอสไอ ได้รับการยอมรับจากประชาชน และถือว่าประสบความสำเร็จในการทำงาน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ดีเอสไอ เน้นทำคดีตามใบสั่งการเมืองนั้น ส่วนตัวเห็นว่า ยังไม่มีสิ่งใดที่ชี้ชัด หรือชัดเจนว่าดีเอสไอ ทำคดีเพื่อการเมือง หรือสีเสื้อ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ขอให้ทุกฝ่ายช่วยติดตามการทำงานของดีเอสไอ หากพบว่ามีการกระทำใดไม่เหมาะสม หรือสื่อนำเสนอข่าวในแง่มุมใดที่ส่อไปในทางไม่ดี ตนก็จะเข้าไปตรวจสอบ และเก็บไปประกอบการพิจารณา ส่วนโอกาสในการต่ออายุราชการ 1 ปีรอบ 2 นั้น ก็ต้องพิจารณาผลงานต่อไป หากยังทำงานได้ดี ไม่ง่อยเปลี้ยเสียขา ก็คงต้องให้ทำหน้าที่ต่อ
สำหรับกรณีที่อัยการส่งกลับสำนวนคดีต่อขยายสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ของกทม. เพราะไม่มีอำนาจนั้น นายชัยเกษม ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตามหลักกระบวนการยุติธรรมสามารถเห็นต่างกันได้ คดีดังกล่าวยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ชัดเจนว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
ด้านนายธาริต กล่าวเพียงสั้นๆ ถึงการได้รับต่ออายุราชการเป็นอธิบดี ดีเอสไอว่า เมื่อฝ่ายบริหารมอบหมายให้ตนทำหน้าที่ต่อ ฝ่ายปฏิบัติก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
ดังนั้นตนจึงอยากถาม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่เพิ่งได้รับการต่ออายุในตำแหน่งเดิมอีก 1 ปี ว่า จะดำเนินการอย่างไร และจะมีบรรทัดฐานในการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากกรณีที่ นายชนม์สวัสดิ์ และนางเจนนี่ อัศวเหม ถ่ายภาพคู่กับ นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.มหาดไทย ที่หนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ โดยระบุว่า จะเชิญบุคคลทั้งสองมาให้ข้อมูลเพื่อติดตามตัวนายวัฒนา กลับมาดำเนินคดี จึงต้องถามว่า จะทำอย่างไรกับนายการุณ คุณหญิงสุดารัตน์ และ รมว.ไอซีที ที่เดินทางไปพบนักโทษหนีคดีที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร จะเชิญบุคคลทั้งสามมาชี้แจงกับดีเอสไอหรือไม่
นายแทนคุณ ยังกล่าวต่อว่า นายธาริต ต้องไม่ลือกปฏิบัติ หรือละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะต้องเชิญบุคคลที่ไปพบกับนักโทษหนีคดีมาชี้แจงเพื่อดำเนินการกับผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดด้วย ทั้งนี้ ต้องขอบคุณนายการุณ ที่กรุณาโพสต์หลักฐานขึ้นเฟซบุ๊กด้วย
**รมว.ยุติธรรมชี้ต่ออายุ“ธาริต”ตามผลงาน
เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (11ก.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการต่ออายุราชการให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพิ่มอีก 1 ปี ว่า ตนและปลัดกระทรวงยุติธรรมร่วมกันพิจารณาโดยยึดจากผลงานที่ผ่านมาของดีเอสไอ โดยมองว่า ดีเอสไอ ได้รับการยอมรับจากประชาชน และถือว่าประสบความสำเร็จในการทำงาน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ดีเอสไอ เน้นทำคดีตามใบสั่งการเมืองนั้น ส่วนตัวเห็นว่า ยังไม่มีสิ่งใดที่ชี้ชัด หรือชัดเจนว่าดีเอสไอ ทำคดีเพื่อการเมือง หรือสีเสื้อ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ขอให้ทุกฝ่ายช่วยติดตามการทำงานของดีเอสไอ หากพบว่ามีการกระทำใดไม่เหมาะสม หรือสื่อนำเสนอข่าวในแง่มุมใดที่ส่อไปในทางไม่ดี ตนก็จะเข้าไปตรวจสอบ และเก็บไปประกอบการพิจารณา ส่วนโอกาสในการต่ออายุราชการ 1 ปีรอบ 2 นั้น ก็ต้องพิจารณาผลงานต่อไป หากยังทำงานได้ดี ไม่ง่อยเปลี้ยเสียขา ก็คงต้องให้ทำหน้าที่ต่อ
สำหรับกรณีที่อัยการส่งกลับสำนวนคดีต่อขยายสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ของกทม. เพราะไม่มีอำนาจนั้น นายชัยเกษม ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตามหลักกระบวนการยุติธรรมสามารถเห็นต่างกันได้ คดีดังกล่าวยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ชัดเจนว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
ด้านนายธาริต กล่าวเพียงสั้นๆ ถึงการได้รับต่ออายุราชการเป็นอธิบดี ดีเอสไอว่า เมื่อฝ่ายบริหารมอบหมายให้ตนทำหน้าที่ต่อ ฝ่ายปฏิบัติก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม