ASTVผู้จัดการรายวัน - ม็อบฮึ่ม!ดาวกระจายปิดถนนเพชรเกษม-เอเซีย หลัง"ครม.ปู"ถีบหัวส่งชาวสวนยาง-ปาล์มน้ำมัน โยนเศษเงินให้แค่ 5.6 พันล้าน จ่าย 1,260 บาทต่อไร่ แต่โปรยเงินจำนำ2.7 แสนล้าน พ่วงอุ้มข้าวโพดอีกโลละ 7-9 บาท ชาวสวนชุมพร-ระนอง-ประจวบคีรีขันธ์ สุดทนประกาศปิดประตูสู่ภาคใต้เช้าวันนี้(4 ก.ย.) "เอียด เส้งเอียด" เรียกร้องส.ส.ปชป.ออกมาร่วมต่อสู้ ผู้ว่าฯเมืองคอน-ผู้การตำรวจกระบี่ผวา ส่งกำลังคุ้มกันสนามบินด่วน"มาร์ค"เตือนรัฐบาลอย่าแบ่งแยกประชาชน
วานนี้(3 ก.ย.) ตั้งแต่เช้าชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน ยังคงปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคายางและปาล์มน้ำมัน โดยจุดชุมนุมใหญ่อยู่ที่แยกควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด (โคออป) อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และศาลากลางจังหวัดชุมพร ขณะเดียวกันยังกระจายกันชุมนุมตามจังหวัดต่าง เช่น จ.ระยอง จ.ตราด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.กระบี่ จ.พัทลุง จ.ตรัง
โดยทุกจุดประกาศไม่รับหลักการความช่วยเหลือ 1,260 บาทต่อไร่ แต่ต้องการให้รัฐบาลประกันราคาตามข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย ยางแผ่นรมควันชั้น 3 กิโลกรัมละ 101 บาท ยางดิบคุณภาพ 3 ราคา 92 บาท น้ำยางสด 81 บาท ยางถ้วย 83 บาท และปาล์มน้ำมันทะลายกิโลกรัมละ 6 บาท หากไม่ได้ตามนี้จะยกระดับการชุมนุมทันที
**"ครม.ปู"โยนเศษให้ชาวสวน5.6พันล้าน
เวลา 14.00 น. ที่ตึกนารีสโมสร นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.) เสนอเพื่อแก้ไขปัญหาชาวสวนยางในระยะเร่งด่วน โดยอนุมัติงบกลางกรณีฉุกเฉิน วงเงิน 5,628 ล้านบาท เป็นค่าปัจจัยการผลิต โอนผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ให้เกษตรกรโดยตรง
โดยชาวสวนยางที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 10 ไร่ลงมา จะได้รับการสนับสนุนไร่ละ 1,260 บาท คาดว่าจะมีชาวสวนที่เปิดกรีดแล้ว 9.8 แสนราย หรือ 80% ของชาวสวนที่ขึ้นทะเบียน 9.9 แสนรายทั่วประเทศ ขณะที่ชาวสวนที่มีพื้นที่มากกว่า 25 ไร่ ให้กนย.ประชุมวันที่ 5 กันยายน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลืออีกครั้ง หากวงเงินไม่เพียงพอให้เสนอต่อครม.พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งจะไม่ไม่ซ้ำซ้อนกับที่ครม.เห็นชอบแล้ว
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ส่วนการพูดคุยกับตัวแทนชาวสวนยาง 15 คน ที่กรุงเทพฯ วันที่ 4 กันยายน จะมีขึ้นเวลา 14.00 น. เพราะติดภารกิจหลายที่ แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยที่ไหนก็ยินดีเดินทางไป โดยเปิดให้สื่อมวลชนร่วมฟังการประชุมได้
"รัฐบาลไม่เชื่อว่าการประกันราคายางจะได้ราคาดี เพราะจะทำให้นำไปสู่ราคาตลาดที่อ่อนตัวลง และอยากเรียกร้องไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้เปิดเส้นทางทั้งทางรถไฟ และทางถนนด้วย"
**โปรยเงินจำนำข้าวอีก2.7 แสนล้าน
วันเดียวกัน นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) เรื่องหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าว ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูการผลิตปี 56/57 โดยใช้วงเงิน 2.7 แสนล้านบาท รับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน จำกัดวงเงินไม่เกิน 3.5 แสนบาทต่อครัวเรือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ส่วนข้าวเปลือกนาปรัง ฤดูการผลิตปี 2557 รับจำนำ 13,000 บาทต่อตัน จำกัดวงเงินไม่เกิน 3 แสนบาทต่อครัวเรือน
**ฉุนขาดดาวกระจายปิดถนนทันที
เวลา 15.40 น. ภายหลังรับทราบมติครม. ชาวสวนยางที่ชุมนุมอยู่ที่โคออป อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 10,000 คนนั้น ปรากฎว่าผู้ชุมนุมกว่า 100 คน กรูออกไปปิดถนนเอเชีย สาย 41 ทันที ขณะที่ที่แกนนำบนเวทีพยายามประกาศห้ามปิดถนน และขอให้ผู้ชุมนุมอยู่แต่ในสถานที่ชุมนุมเท่านั้น แต่ไม่เป็นผล ขณะเดียวกันทางแกนนำของจ.สุราษฎร์ธานี ได้ประกาศบนเวทีว่าผู้ชุมนุมที่ปิดถนนนั้นไม่ใช่คนสุราษฎร์ธานี เพราะชาวสวนจ.สุราษฎร์ธานี ไม่ยอมให้คนนอกพื้นที่มาปิดถนนในพื้นที่เด็ดขาด
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมที่ปิดถนนส่วนใหญ่เดินทางมาจากอ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไม่ยอมเปิดการจราจร ทำให้การจราจรขาขึ้นและขาล่องหน้าโคออปถูกปิดโดยสิ้นเชิง
**"ม็อบกระบี่"เสียงแตกหลังถูกแกนนำทิ้ง
ที่จ.กระบี่ เวลา 16.00 น. ชาวสวนยางพารา จ.กระบี่ ที่ชุมนุมหน้าลานปูดำ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ ประมาณ 300 คนนำโดยนายมโน เครือแก้ว และนายไพโรจน์ บุตรเผียน ปิดถนนเพชรเกษม บริเวณแยกตลาดเก่า อ.เมือง ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ขณะเดียวกันชาวสวนยางยังขู่ว่า หากรัฐบาลไม่ลงมาเจรจาหรือรับหลักการ จะไปปิดท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ทันที
ต่อมาเวลา 18.30 น. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม ขอให้เปิดการจราจร เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อน นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปสนามบินได้ทันเวลา ในที่สุดทางแกนนำก็ยอมเปิดทางให้ โดยบอกเพียงสั้นๆว่า ยอมเปิดทาง แต่ยังไม่สลายการชุมนุม โดยจะไปรวมตัวที่ลานปูดำ เพื่อรอมติที่ชุมนุมใหญ่ที่จ.สุราษฎร์ธานี
อย่างไรก็ตามชาวบ้านประมาณ 100 คน ซึ่งเป็นชาวสวนยางจริงๆ ไม่ยอมเปิดการจราจรฝั่งขาเข้าเมือง โดยให้เหตุผลว่าหากรัฐบาลไม่ยอมรับข้อเสนอ ก็ไม่ยอมเปิดเด็ดขาด ส่วนแกนนำได้หนีอกจากที่ชุมนุมหมด ทำให้ชาวบ้านหลายคนโกรธแค้นแกนนำ ที่พาพวกตนมาแล้วกลับหนีไปหน้าตาเฉย
**ปิดแยกอันดามันจุดยุทธศาสตร์2ฝั่งทะเล
เวลา 16.10 น. ผู้ชุมนุมจากอ.ท่าศาลา อ.พรหมคีรี อ.สิชล และอ.ขนอม ในเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อความเป็นธรรมจ.นครศรีธรรมราช กว่า 1,000 คน ที่ชุมนุมประท้วงหน้าที่ว่าการอำเภอท่าศาลา นำโดยมีนายอำนวย ยุติธรรม ประธานเครือข่าย ซึ่งยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลเร่งมอบหมายให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจมาแก้ปัญหา 2.ให้เพิกถอนหมายจับแกนนำ และผู้เข้าร่วมชุมนุม 3.ให้เจ้าหน้าที่เร่งจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลอบสังหารผู้ชุมนุม 4.รัฐบาลต้องไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม 5.ต้องไม่ดำเนินคดีใดๆกับแกนนำ ได้นำมวลชนเดินออกมาปิดแยกท่าศาลา ถนนนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี หนึ่งช่องจราจร
เวลา 16.30 น. ที่อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ เขตเทศบาลนครตรัง เครือข่ายชาวสวนยางรายย่อยประมาณ 100 คน นำโดยนายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจจังหวัด นายณัฐพงศ์ เนียมสม นายกเทศมนตรีตำบลนาตาล่วง เปิดเวทีชุมนุมประท้วง จนช่วงค่ำได้เคลื่อนพลไปสมทบกับชาวสวนยางจากหลายอำเภอ ซึ่งชุมนุมปิดถนนกลางสี่แยกอันดามัน ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมฝั่งอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะการเดินทางไปยังจ.ภูเก็ต จ.พังงา จ.กระบี่ จ.ตรัง และจ.สตูล รวมทั้งเป็นเส้นทางสำคัญ สำหรับเชื่อมต่อไปยังกรุงเทพฯด้วย
**"เอียด"ลั่นรับไม่ได้-วอนส.ส.ปชป.ร่วมสู้
เวลา 17.00 น. ที่จุดชุมนุมแยกควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช นายเอียด เส้งเอียด ผู้ประสานงานกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวว่า ผิดหวังกับมติครม. แต่ได้รับการยืนยันว่าจะมีตัวแทนฝ่ายรัฐบาล เดินทางมาเจรจาวันที่ 4 กันยายน ทั้งนี้การชุมนุมของชาวสวนยางในจ.นครศรีธรรมราช ไม่มีนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์หนุนหลังอย่างที่เป็นข่าว แต่ตอนนี้ขอเรียกร้องให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมต่อสู้กับประชาชน หลังรัฐบาลเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน
ขณะเดียวกันที่ จ.พัทลุง ชาวสวนยางปิดถนนเพชรเกษม สายพัทลุง-ตรัง ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ โดยแกนนำขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างดุเดือด มีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย ปฏิบัติหน้าที่โดยรอบจุดชุมนุม ซึ่งนายดลเดช พัฒนรัฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังดูแลได้
**คุ้มกันสนามบินเมืองคอน-กระบี่
ด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมกองอำนวยการร่วมแก้ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย เพื่อประเมินการชุมนุม โดยที่ประชุมแสดงความเป็นห่วงกรณีแกนนำออกแถลงการณ์เชิญชวนผู้ชุมนุมไปที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ที่ประชุมเห็นควรให้จัดกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรจังหวัด ไปรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณสนามบิน รวมทั้งสถานที่ราชการ ศาลากลางจังหวัด พร้อมทั้ประสานกองทัพภาคที่ 4 ขอสนับสนุนกำลังหากมีการปิดท่าอากาศยาน
ทั้งนี้ เบื้องต้นพ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมือง จัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ไปลาดตระเวนทั่วท่าอากาศยานตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจตรารถทุกคันที่เข้า-ออก ปิดประตูด้านหลังสนามบินชั่วคราว ซึ่งล่าสุดสายการบินนกแอร์ และแอร์เอเชีย ที่บินขึ้นลงวันละ 8 เที่ยวบิน ยังให้บริการตามปกติ
ขณะที่พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ กล่าวว่า ได้เตรียมชุดควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย รวมกว่า 130 นาย ให้ไปประจำที่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ โดยล่าสุดควบคุมฝูงชน 50 นาย เข้าดูแลทางเข้าท่าอากาศยาน ประตูหน้าอาคารผู้โดยสาร และบริเวณโดยรอบแล้ว
**หมายจับมือยิง2การ์ดม็อบยาง
เวลา 19.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษาสบ.10 พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ. 8 พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมแถลงออกหมายจับนายเกียรติศักดิ์ หรือดม จันทร์คง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 3 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มือปืนยิงนายศิริชัย หรือหนุ่ย บุญนุวงศ์ เสียชีวิต และนายสิทธิ์ศักดิ์ ใจงาม ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณทีชุมนุมชาวสวนยางที่แยกบ้านตูล กลางดึกวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
*
*จ่ายเยียวยาศพละแสน
ที่บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มอบเงินเยียวยา 1 แสนบาท ให้นางสมจิตร บุญนุวงศ์ อายุ 49 ปี มารดานายศิริชัย บุญนุวงศ์ อายุ 30 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิต ขณะร่วมชุมนุมที่แยกบ้านตูล ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และอีก 1 แสนบาทให้นางเมตตา วงศ์ประยูร อายุ 37 ปี ภรรยาของนายวรรณะ วงศ์ประยูร อายุ 34 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ขณะเดินทางกลับจากพื้นที่ชุมนุม
**"ตู่"ตามน้ำการชุมนุมกระทบมั่นคง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า การชุมนุมขณะนี้เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง แต่ต้องยอมรับว่าเป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย แต่จะเดินไปอย่างไร เป็นสิ่งที่เกินกว่าที่ตนจะแสดงความเห็น แต่ถ้าต้องการเห็นประเทศเดินหน้าไปได้ ทุกคนต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเคารพกติกา ต้องใช้สติใแก้ปัญหา ตนได้มีโอกาสพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ซึ่งยืนยันว่าจะใช้วิธีละมุนละม่อม พูดคุย เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา ไม่ใช้ความรุนแรง จึงรู้สึกสบายใจ แต่ทุกฝ่ายต้องอดทนต่อการยั่วยุ ผู้ชุมนุมต้องมีสติ ไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่มากขึ้นไปอีก
***ภท.หนุนโลละ120บาท-ชาวสวนอยู่ได้
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคสนับสนุนข้อเรียกร้องราคายางอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งชาวสวนอยู่ได้ไม่เดือดร้อน แต่ข้อเสนอรัฐบาลห่างไกลความเป็นจริง วันนี้ชาวสวนยางสัมผัสได้ว่า ชาวนาได้รับการดูแลจากรัฐบาลมากกว่า ทั้งที่ยางเป็นสินค้าส่งออก ที่ทำรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่าข้าว
เมื่อถามว่า สาเหตุที่รัฐบาลไม่เร่งช่วยชาวสวนยาง เพราะไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้การชุมนุมอาจจะยังไม่เกิดในภาคอื่นที่เป็นฐานเสียงของรัฐบาล แต่ในที่สุดถ้าประชาชนเดือดร้อน ก็จะเสื่อมศรัทธารัฐบาล
**"มาร์ค"เตือนอย่าแบ่งแยกปชช.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลควรให้คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ไปพูดคุยกับตัวแทนผู้ชุมนุมว่าสิ่งที่รัฐบาลจะช่วยเหลือได้คืออะไร ต้องสมเหตุสมผล และทำให้รู้สึกว่าไม่เลือกปฏิบัติ ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งอาจจะเป็นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่ต้องขยับจุดยืนในการช่วยเหลือ
"ขณะนี้ยังไม่เห็นความตั้งใจของรัฐบาล อ้างแต่ตลาดโลก ไม่ใช้มาตรฐานเดียวกับการแก้ปัญหาข้าว ที่ตั้งราคาให้เกือบสองเท่า รัฐบาลควรคิดว่าหากรายได้ตัวเองหายไป 1 ใน 3 ถึง 2 ปีจะอยู่อย่างไรกับภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ "
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ผู้ที่ที่เสียชีวิตเป็นญาติห่างๆของตน แต่ตนไม่มีอะไรจะเสีย เพราะสมัยหน้าจะไม่ลงสมัครทั้งส.ว.หรือส.ส. ดังนั้นขอเสนอทางออกในภาพรวม คือ ทบทวนตัวเลขการส่งออกยางพารา ที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 86% ใช้ภายใน 14% โดยเบื้องต้นการลงทุนระบบขนส่ง 2 ล้านล้านบาท ขอเสนอให้จัดงบประมาณ 10% หรือ 2 แสนล้านบาท สร้างถนนที่ใช้ยางพาราเป็นส่วนผสม และระยะยาวให้ตั้งเป้าผลิตสินค้าจากยางพาราสำหรับใช้ในประเทศ 50%
**เด็จพี่"จ่อยื่นถอด"ชุมพล"นำบุกศาลากลาง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจที่ นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ นำผู้ชุมนุมไปบุกศาลากลางจังหวัดชุมพร และข่มขู่ข้าราชการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 (1) รวมถึงส่อผิดกฎหมายอาญา และผิดจริยธรรมส.ส.ด้วย
**ฟุ้ง"จีน"ช่วยผลักดันผู้ผลิตกำหนดราคายาง
ด้านนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางเยือนนครหนางหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีโอกาสหารือกับภาครัฐและเอกชนของจีน โดยนายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรี บอกว่าสนใจยางพาราของไทย เพราะจีนมีความต้องการยางพารามาพัฒนาสินค้าอุตสาหกรรมอื่น ขณะเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้ชักชวนให้จีนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการเมืองยางหรือ Rubber City เพราะเห็นว่าจีนมีเทคโนโลยีการแปรรูปยางพาราที่ก้าวหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีจีนก็ตอบรับ
ขณะเดียวกัน นายโภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ได้พาประธานบริษัท รับเบอร์วัลเลย์ จำกัด ผู้ผลิตยางพาราที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจีน เข้าหารือกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยภาคเอกชนของจีนให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันกำลังการผลิตยางพาราทั่วโลกมีประมาณ 10 ล้านตัน เฉพาะจีนประเทศเดียว มีความต้องการถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 3.5 ล้านตัน ใกล้เคียงกับที่ประเทศไทยผลิตได้ ดังนั้นถ้าไทยกับจีนจับมือเป็นพันธมิตรอุตสาหกรรมยางพาราแล้ว จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เพราะไทยในฐานะผู้ผลิตยางพาราต้นน้ำ ขณะที่จีนที่นำยางพาราไปแปรรูปได้
**"ข้าวโพด"ได้ด้วยโลละ7-9บาท
วันเดียวกัน นายสมเกียรติ ทิยอด กำนันตำบลแม่กาษา นายพิทักษ์ ใจวงษ์ กำนันตำบลพระธาตุผาแดง นายมานพ คุณาวงศ์ กำนันตำบลพะวอ นายสุวิทย์ ลังกาวงศ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ตาก เขต 4 อ.แม่สอด นายเจษฏา จักรพล แกนนำกลุ่มเกษตรกรฝั่งตะวันตก จ.ตาก พร้อมเกษตรกรหลายร้อยคน รวมตัวกันหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สอด เพื่อยื่นหนังสือถึงนายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด ผ่านไปยังรัฐบาล
โดยเรียกร้องให้รัฐบาลพยุงราคาข้าวโพดฝัก จากกิโลกรัมละ 3 บาท เป็น 6 บาท ข้าวโพดสีแล้ว ความชื้น 17-18 % จาก 11-12 บาท เป็น 17-18 บาท
ล่าสุด การค้าภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งว่าครม. มีมติเห็นชอบแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2557 โดยกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดแห้ง ความชื้น 14.5% กิโลกรัมละ 9 บาท ข้าวโพดเปียกความชื้นไม่เกิน 30% กิโลกรัมละ 7 บาท กำหนดให้ครอบครัวละ 25 ตัน.
